โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

ส.ว.หัวร้อน-ต้อนตำรวจสกัด จัดวิ่งไล่ลุง ทีมงานยันไม่มีล้ม

ไทยรัฐออนไลน์ - Politics

อัพเดต 15 ธ.ค. 2562 เวลา 16.59 น. • เผยแพร่ 15 ธ.ค. 2562 เวลา 22.32 น.
ภาพไฮไลต์
ภาพไฮไลต์

12 มกราคม 63 เจอกัน พปชร.ปรับกระบวน ดัน"แฮงค์"ยึดเลขาฯ สุริยะ-สมศักดิ์ซิวกก. โพลชี้คนให้ยุบสภา!

“ช่อ” ฟุ้งคนทนไม่ไหวความอยุติธรรม เลยออกมาแฟลชม็อบกันเยอะ ยันไม่ผิดกฎหมายเป็นสิทธิตาม รธน. เพื่อไทยขย่มซ้ำ “บิ๊กตู่” ต้องคิดทำไมกระแสไล่ถึงแรง ผู้จัด “วิ่งไล่ลุง” แจง “ลุง” คือตัวถ่วงความเจริญ ถาม ตร.ที “เดินตามลุง” ทำไมจัดได้ หวังเป็นงานแสดงพลังครั้งใหญ่ โฆษก รบ.ขอให้มาสู้กันในระบบรัฐสภา ยังมีโอกาสโต้แย้งในศาล รธน. “เทพไท” โล่งอกไร้รุนแรง แนะให้มาสู้ในสภาฯพร้อมหนุนเต็มที่แก้ รธน.-ก.ม.พรรคการเมือง “สมชาย” จี้ สตช.จัดการแกนนำ ผบก.น.6 ฮึ่มผิดชัดเจน พปชร.จ่อยกเครื่องลุยการเมืองเต็มสูบ ปรับโครงสร้างพรรค “สามมิตร-ธรรมนัส” ขึ้น กก.บห. ข่าวสะพัด “เสี่ยแฮงค์” ขึ้นเลขาฯแทน “สนธิรัตน์” “อุตตม” ยังเหนียวหัวหน้าพรรค โพลชี้สภาฯล่มบ่อยก็ยุบๆไปเถอะ ความขัดแย้งยิ่งทำ ศก.แย่

การจัดชุมนุมแฟลชม็อบของนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ ที่สกายวอล์ก ย่านปทุมวัน เป็นการนำร่องเช็กกระแสก่อนนัดเคลื่อนพลใหญ่ในเดือนหน้า สร้างความหวั่นไหวให้ทางฝ่ายรัฐบาล และกลุ่มแนวร่วม ว่าอาจนำไปสู่เหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันนั้น

“ช่อ” ชี้คนทนไม่ไหวอยุติธรรม

เมื่อวันที่ 15 ธ.ค. น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า การชุมนุมแฟลชม็อบเมื่อวันที่ 14 ธ.ค. แสดงให้เห็นแล้วว่าประชาชนที่มารวมตัวกันไม่ได้มาเพื่อสร้างความวุ่นวาย ตามที่มีบางคนแสดงความกังวล คนที่ออกมาชุมนุมล้วนทำกิจกรรมอย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย แม้ตอนเลิกชุมนุมแล้วขยะของผู้ที่มาร่วมชุมนุมแทบจะไม่มีให้เห็น ส่วนระยะเวลาการชุมนุมแกนนำของพรรคทุกคนกลับตรงเวลา แต่ในส่วนของประชาชนอาจเกินเวลาไปบ้าง ในส่วนนี้เราไม่สามารถควบคุมได้ แต่สุดท้ายก็แยกย้ายกลับก่อน 1 ทุ่ม สิ่งเหล่านี้แสดงให้เห็นว่าเราออกมารวมตัวกันด้วยความสงบโดยไม่สร้างความเดือดร้อน ขณะที่จำนวนคนที่ออกมานั้นมากกว่าที่เราคิดไว้แต่แรก บางคนเตรียมป้ายมาเองจากบ้านแสดงตัวว่ามาจากกลุ่มไหน มีมาจากหลายกลุ่ม เป็นการบ่งบอกถึงความหลากหลายของคนที่มาร่วมชุมนุม แต่ทุกคนมีจุดร่วมเดียวกันคือ ต้องการแสดงออกว่าไม่พอใจเรื่องความอยุติธรรม

แฟลชม็อบเป็นสิทธิตาม รธน.

เมื่อถามว่าคิดว่าจุดยืนของคนที่ออกมาเพื่อปกป้องนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคต-ใหม่หรือไม่ น.ส.พรรณิการ์ตอบว่า ไม่ใช่เรื่องการ ปกป้องหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่แน่นอน ตอนนี้เรามาถึงจุดที่ไกลกว่านั้นไปแล้ว และความตั้งใจของเราไม่ต้องการแสดงออกเรื่องนี้เช่นกัน แต่บรรดาคนที่มาร่วมชุมนุมคือ คนที่ไม่อาจทนกับความไม่ยุติธรรม และการดำเนินงานของรัฐบาลชุดนี้ เชื่อว่าคนส่วนใหญ่ที่มาคงไม่ได้ยินว่าบรรดาแกนนำพรรคปราศรัยว่าอะไร เพราะเราใช้เพียงโทรโข่งเท่านั้น แต่สิ่งที่พวกเขาต้องการแสดงออกคือเราจะไม่ทนอีกแล้ว และการชุมนุมดังกล่าวไม่ได้ทำผิดกฎหมาย เป็นสิทธิที่ประชาชนพึงมีตามรัฐธรรมนูญที่ คสช.ร่างขึ้นมา เมื่อถามว่าการที่นายธนาธรบอกว่าเดือนหน้าเจอกัน หมายถึงไปร่วมงานวิ่งไล่ลุงใช่หรือไม่ น.ส.พรรณิการ์ตอบว่า นายธนาธรประกาศไปแล้วว่าจะไปร่วมงานวิ่งไล่ลุง เช่นเดียวกับแกนนำพรรคคนอื่น ส่วนกิจกรรมต่อไปของพรรคขอให้รอดูแล้วกัน

“บิ๊กตู่” ต้องคิดทำไมกระแสไล่แรง

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า รัฐบาลแสดงออกต่อการจัดแฟลชม็อบที่สกายวอล์ก ย่านปทุมวัน อย่างตื่นตระหนกเกินเหตุเห็นได้ชัด ทั้งที่เป็นการแสดงออกตรงไปตรงมาในระบอบประชาธิปไตย ภายใต้รัฐธรรมนูญ ถือเป็นสิทธิเสรีภาพที่กฎหมายคุ้มครองให้ทำได้ ถ้ารัฐบาลมองอย่างเข้าใจต้องจำได้ว่าที่ประเทศไทยมาถึงจุดนี้ ส่วนหนึ่งก็มาจากการจุดไฟสุมความขัดแย้ง ขนม็อบชนม็อบ สร้างปัจจัยนำไปสู่การยึดอำนาจทำรัฐประหาร อย่ามองประชาชนที่เห็นต่างเป็นศัตรู แล้วหลับตาข้างหนึ่งเมื่อตัวเองได้ประโยชน์จากมวลชนที่สนับสนุนตัวเอง อย่าดำเนินการเกินเลยจากสองมาตรฐานไปสู่ไร้มาตรฐาน ดำเนินการต่อฝ่ายประชาธิปไตยอย่างไร ฝ่ายสนับสนุนการสืบทอดอำนาจก็ต้องถูกดำเนินการอย่างนั้น ความจริงผลเลือกตั้งบอกชัดว่าประชาชนต่อต้านการสืบทอดอำนาจ แต่ดันทุรังเป็นรัฐบาลโดยอาศัยมือ 250 ส.ว.มาโหวตให้กลายเป็นรัฐบาลเสียงปริ่มน้ำ ต้องแจกกล้วย ซื้องูเห่า แก้ปัญหารายวันไม่จบไม่สิ้น ดังนั้น พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและ รมว.กลาโหม ต้องคิดว่าทำไม “ประยุทธ์ออกไป” หรือ “วิ่งไล่ลุง” จึงกลายเป็นคำค้นหาที่มาแรง สะท้อนชัดว่าประชาชนรู้สึกอย่างไรต่อตัวนายกฯ

แจง “ลุง” คือ “ตัวถ่วงความเจริญ”

วันเดียวกันเวลา 13.00 น. ที่ลานประติมากรรมกำแพงประวัติศาสตร์ ข้างหอประชุมใหญ่ มหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์ท่าพระจันทร์ กลุ่มสมัชชาคนจนจัดงานมหกรรมรัฐธรรมนูญประชาชน และจัดเสวนา “สิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองกับอนาคตของเรา” โดยนายธนวัฒน์ วงศ์ไชย นิสิตคณะเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และอดีตประธานนิสิตจุฬาฯ ผู้จัดงาน “วิ่งไล่ลุง” กล่าวถึงความเป็นมาของการจัดงานวิ่งไล่ลุงว่า คำว่า “ลุง” ไม่ได้ตั้งใจสื่อถึงบุคคลใด ต้องการสื่อถึงสิ่งที่ทำให้ประเทศตกต่ำย่ำแย่ เป็นตัวถ่วงความเจริญ แต่ถ้า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯและรมว.กลาโหม หรือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ จะรับว่าตัวเองเป็น “ลุง” ก็แล้วไป ยินดีด้วยที่รู้ตัว งานวิ่งไล่ลุงไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับพรรคอนาคตใหม่ เพียงแค่ติดแฮชแท็กแล้วส่งต่อๆกันในทวิตเตอร์ซึ่งปรากฏว่านายธนาธรตอบรับคำท้าแล้วส่งต่อ

ถามที “เดินตามลุง” ทำไมจัดได้

นายธนวัฒน์กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมากิจกรรมวิ่งไล่ลุงถูกขัดขวางจากเจ้าหน้าที่รัฐทุกรูปแบบ เช่น การแถลงข่าวเปิดตัวที่สโมสรผู้สื่อข่าวต่างประเทศที่ผ่านมา ถูกแทรกแซงจนต้องยกเลิก นอกจากนี้ ยังมีเจ้าหน้าที่เสนอให้ไปจัดแถวชานเมือง ตลอดจนไปกดดันเจ้าของสถานที่ไม่ให้อนุมัติ ทั้งที่เส้นทางก็เป็นวิ่งมินิมาราธอนทั่วไปตามตำรวจกำหนด ถ้าเป็นสถานการณ์ปกติคงได้รับอนุมัติ ขณะที่อีกกลุ่มมาขอจัดกิจกรรม “เดินตามลุง” นัดหมายวันที่ 12 ม.ค.เช่นกัน ทาง สน.ลุมพินี กลับไม่มีปัญหา จึงเชื่อว่าวันจริงต้องมีการสกัดไม่ให้ใช้สถานที่ แต่ยืนยันว่าทางกลุ่มทำตามกฎหมาย และเล่นตามเกมที่เผด็จการร่างขึ้นทุกอย่างแล้ว

หวังเป็นงานแสดงพลังครั้งใหญ่

“วันที่ 12 ม.ค.2563 วิ่งไล่ลุงต้องได้จัด ถ้าไม่ได้ จะชวนประชาชนไปทำอย่างอื่นแทน ถึงตอนนั้น ผู้มีอำนาจต้องยอมรับในผลของมันก็แล้วกัน แน่นอนว่าจะมีการแสดงพลังของประชาชน และแสดงสัญลักษณ์บางอย่างทางการเมือง ตอนปล่อยตัวหรือตอนวิ่งเข้าเส้นชัย แต่ไม่มีการทำท้องถนน ส่วนที่มีการวิพากษ์-วิจารณ์ว่ามีการเมืองแอบแฝง ขอให้ไปดูงานวิ่งเพื่อแผ่นดินของรัฐบาล มีการเมืองมาแอบแฝงหรือไม่ ทางกลุ่มขอเชิญทุกฝ่ายทุกสีเข้ามาร่วม จะเป็นนัก การเมือง นักวิชาการ เรายินดี วันที่ 16 ธ.ค.นี้จะมีการแถลงรายละเอียดที่โรงแรมรัตนโกสินทร์ ยังมีเรื่องเซอร์ไพรส์อีกมาก ทางกลุ่มหวังว่าการวิ่งไล่ลุงจะเป็นการรวมตัวแสดงออกของประชาชนที่ใหญ่ที่สุดในรอบหลายปี เพื่อส่งเสียงไปถึงผู้มีอำนาจว่าเราไม่ยอมและไม่ทน ขออย่าไปกลัวว่าจะออกมาแล้วเข้าทางทหาร แต่ให้กลัวว่าถ้าไม่ออกมาทหารจะอยู่ต่อไปอีกหลายสิบปี ข้อกล่าวว่าเป็นการชังชาติ ความจริงชังชาติไม่น่ากลัวเท่าพังชาติ และใครที่พูดว่าชังชาติขอให้กลับไปดูสิ่งที่คนเหล่านี้ทำไว้เมื่อ 5 ปีก่อนที่สี่แยกปทุมวันด้วย” นายธนวัฒน์กล่าว

“ธนาธร” โหมชูธงล้างรัฐรวมศูนย์

ที่วัดป่าสระแก้ว ต.กุดเชียงหมี อ.เลิงนกทา จ.ยโสธร พรรคอนาคตใหม่จัดเวทีรับฟัง “ข้อเสนอ เชิงนโยบายที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม” มีนายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ พร้อมนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะ ประธานกรรมาธิการการที่ดิน ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ ส.ส.ของพรรคเข้าร่วม นายธนาธรกล่าวว่า ปัญหาเรื่องที่ดินที่ประชาชนเผชิญอยู่ ไม่สามารถแก้ไขได้ถ้าเรายังอยู่ในรัฐบาลที่ไม่เป็นประชาธิปไตย กับนายกฯที่ไม่ศรัทธาการปกครองในระบอบประชาธิปไตย รัฐบาลชุดนี้ฐานค้ำยันของเขาคือ ส.ว. ที่ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง มาจากการแจกกล้วย มาจากซื้องูเห่า เขาจึงไม่เห็นหัวประชาชน ฐานอำนาจเดียวของนักการเมือง ความชอบธรรมเดียวของนักการเมืองที่มีคือเสียงของประชาชน การแก้ปัญหาระยะยาวจำเป็นต้องยุติระบบรัฐราชการรวมศูนย์ นี่คือความฝันของเราในการแก้ปัญหาเรื่องที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติ

“ปิยบุตร” ชี้แฟลชม็อบจุดเริ่มต้นที่ดี

ที่โรงเรียนปะตงวิทยาคม อ.สอยดาว จ.จันทบุรี นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการพรรคอนาคตใหม่ เปิดเวทีบรรยาย “สถานการณ์การเมืองในปัจจุบัน การทำงานในสภาฯและก้าวต่อไปของพรรคอนาคตใหม่” ว่า กิจกรรมรวมตัวกันของประชาชนที่ทนไม่ไหวกับรัฐบาลชุดนี้ ถือเป็นปรากฏการณ์ที่สื่อต่างประเทศให้ความสนใจมาก เป็นการจัดกิจกรรมทางการเมืองที่มีประชาชนมาร่วมมากที่สุดนับตั้งแต่มีรัฐประหารปี 2557 ผู้ที่มาร่วมกิจกรรมไม่ได้มีแต่ผู้ที่สนับสนุนพรรคอนาคตใหม่เท่านั้น แต่ยังมีผู้คนที่ไม่พอใจกับรัฐบาลชุดนี้ ถือเป็นนิมิตหมายที่ดี อยากให้ผู้สนับสนุนพรรคเปิดใจให้กว้าง พร้อมรับฟังทุกความคิดเห็น ตอนนี้เรามามีจุดร่วมกันคือ เราเป็นประชาชนคนไทยที่ทนไม่ไหวกับรัฐบาลชุดนี้ ทนไม่ไหวกับการสืบทอดอำนาจของ คสช. ที่ยอมใช้ทุกสิ่งทุกอย่างในประเทศนี้ เพื่อแลกกับการได้สืบทอดอำนาจต่อไป เราจึงต้องต่อสู้ในวันนี้เพื่ออนาคตของพวกเราและลูกหลาน

ถ้าโดนยุบพรรคจะลุยทั่วประเทศ

นายปิยบุตรกล่าวต่อว่า ผู้มีอำนาจที่ต้องการยุบพรรคอนาคตใหม่ เพื่อต้องการให้พรรคแตก แล้วดูด ส.ส.ไปเป็นพวก ย้ำกับเพื่อน ส.ส.ตลอดว่าต้องอย่าสนองประสงค์ของเขา ยืนยันว่า ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ยังจับมือกันเหนียวแน่นพร้อมสู้ไปด้วยกัน ทุกวิกฤติเป็นโอกาสเสมอ เป็นโอกาสที่เราจะทำให้ผู้มีอำนาจเห็นว่าเมื่อเขาจะฉายหนังม้วนเก่าซ้ำ แต่เราจะทำให้หนังม้วนนี้จบไม่เหมือนเดิม หากเขาไม่ต้องการให้ตนอภิปรายในสภาฯ ก็จะจัดเวทีบรรยายแบบนี้ทุกจังหวัดทั่วประเทศ จะไปให้ได้เกือบทุกวัน หากเขาจะยุบพรรคอนาคตใหม่จริงๆ ตัดสิทธิไม่ให้เป็น ส.ส. ต่อไปพี่น้องประชาชนไม่ต้องเปิดคลิปในยูทูบฟังอภิปรายในสภาฯ แต่จะไปอภิปรายแบบตัวเป็นๆให้ได้ฟังถึงที่ จะเดินรณรงค์ไปทุกพื้นที่ทั่วประเทศ พื้นที่ทางการเมืองมีมากมาย ไม่ให้ทำในสภาฯไปทำข้างนอกก็ได้

งูเห่า อนค.ค้านเล่นนอกสภาฯ

น.ส.กวินนาถ ตาคีย์ ส.ส.ชลบุรี พรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า ไม่ได้ไปร่วมกิจกรรมแฟลชม็อบเพราะพรรคไม่แจ้งให้ไปร่วม แต่เมื่อเราเป็นพรรคการเมืองควรเดินหน้าทำงานในสภาฯ ทางที่ดีคิดว่าต้องใช้กลไกตามระบบสภาฯดีที่สุด พรรคเคยหาเสียงว่าจะขอต่อสู้ตามกติกาและในสภาฯเป็นหลัก จึงไม่อยากให้มีใครฉวยโอกาสนี้สร้างมวลชนขึ้นมายืนอยู่ตรงข้าม ฉวยโอกาสเข้ามาทำรัฐประหาร ไม่อยากเห็นความรุนแรงและอยากก้าวข้ามความขัดแย้ง

พ.ต.ท.ฐนภัทร กิตติวงศา ส.ส.จันทบุรี พรรคอนาคตใหม่ กล่าวว่า ไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมที่สกายวอล์ก ส.ส.บางคนในพรรคบางส่วนไม่เห็นด้วย แต่เขาไม่อยากแสดงความคิดเห็นหรือออกตัว อยากเห็นบ้านเมืองเกิดความสงบ ทุกวันนี้เรามีรัฐสภาแล้วควรหันมาใช้เวทีสภาฯ ทำงานเป็นหลัก และอีกไม่นานจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป็นอีกช่องทางหนึ่งของการตรวจสอบรัฐบาล ถึงตอนนั้นประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินเอง

โฆษก รบ.วอนสู้ตามระบบ ก.ม.

ที่ถนนสีลม นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกฯติดตามสถานการณ์การชุมนุมแฟลชม็อบโดยตลอด จากการรายงานของฝ่ายความมั่นคง ไม่ได้สั่งการอะไรเป็นพิเศษ สิ่งที่นายกฯเป็นห่วงคือเรื่องความปลอดภัยของประชาชน เมื่อเชื่อว่าตัวเองใช้สิทธิออกมาชุมนุม นายกฯก็ไม่ได้ว่าอะไร เว้นแต่ถ้าออกมาทำให้เกิดความเสียหาย ที่ผ่านมาเราต่างเห็นแล้วว่ามีอะไรเกิดขึ้นบ้าง แต่ละครั้งปัจจัยต่างกัน เรื่องคดีไปว่ากันในระบบศาล ส่วนความไม่พอใจอะไรเกี่ยวกับรัฐบาลก็ไปว่ากันในรัฐสภา ทุกอย่างมีขั้นตอนอยู่ สิ่งที่อยากฝากไปยังประชาชนขอให้รับฟังข้อมูลข่าวสารให้ครบถ้วน พิจารณาวิเคราะห์ถึงเหตุผลว่าจะลงมาร่วมชุมนุมนั้นสมควรแล้วหรือยัง เรื่องคดีเงินกู้พรรคนั้นคนที่เป็นพรรคการเมืองต้องอ่านกฎหมายอยู่แล้ว พรรคอนาคตใหม่ต้องนำพยานหลักฐานไปสู้โต้แย้งเชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญให้โอกาสอยู่แล้ว หากทุกอย่างเข้าสู่ระบบไม่จำเป็นต้องมาชุมนุม

“เทพไท” โล่งอกหนุนมาสู้ในสภาฯ

ขณะที่นายเทพไท เสนพงศ์ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ไลฟ์สดผ่านเฟซบุ๊กจากร้านข้าวแกงครัวลำพู ถนนเทิดพระเกียรติ เขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ถึงการจัดกิจกรรมแฟลชม็อบ ที่สกายวอล์ก ย่านปทุมวัน ว่า รู้สึกโล่งใจที่เห็นการชุมนุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย พรรคอนาคตใหม่ยังมีแนวทางการต่อสู้ที่ดีกว่านี้ ไม่อยากให้ด่วนตัดสินใจนำประชาชนออกมาสู่ท้องถนน อยากให้ไปต่อสู้ในแนวทางรัฐสภาให้ถึงที่สุดก่อน การชุมนุมบนท้องถนนน่าจะเป็นมาตรการสุดท้าย พรรคการเมืองต้องเชื่อมั่นในระบบรัฐสภาเท่านั้น พรรคอนาคตใหม่ยังมีเวทีที่จะต่อสู้ในเวทีรัฐสภาอย่างเต็มที่ ปัญหาของพรรคอนาคตใหม่ขณะนี้มีอยู่ 2 ประเด็น คือ 1.ต้องการให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นประชาธิปไตย ตัดเงื่อนไขการสืบทอดอำนาจของ คสช. 2.มีปัญหาเกี่ยวกับ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง พรรคอนาคตใหม่สามารถใช้เสียง ส.ส. ร่วมเสนอแก้ไขกฎหมายได้ ส่วนตัวพร้อมสนับสนุนแนวทางการต่อสู้ในระบบรัฐสภาของทุกพรรค

เอาด้วยแก้ รธน.–ก.ม.พรรคการเมือง

นายเทพไทกล่าวอีกว่า ตนพร้อมลงชื่อสนับสนุนร่างกฎหมาย ถ้าพรรคอนาคตใหม่ต้องการแก้ไขเพราะ พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองฉบับนี้ มีจุดอ่อนที่ต้องแก้ไขอยู่หลายประเด็น ที่ทุกพรรคการเมืองกำลังประสบอยู่ แต่หากต้องการแก้ไขหมวดการเงินรายรับรายจ่ายให้มีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น คงไม่มีพรรคไหนคัดค้าน ขณะนี้การเมืองยังไม่ถึงทางตัน นักการเมือง พรรคการเมือง ยังมีเวทีต่อสู้ในระบบรัฐสภา ถ้าทุกคนเชื่อมั่นในระบบรัฐสภาจริง บ้านเมืองก็เดินต่อไปได้ ขอให้การเปลี่ยนแปลงใดๆทางการเมือง เป็นในวิถีทางประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา อย่าให้อำนาจนอกระบบมาเกี่ยวข้อง ประชาธิปไตยจะได้เดินหน้าต่อไปอย่างมั่นคง

“สมชาย” จี้ สตช.จัดการแกนนำ

ด้านนายสมชาย แสวงการ ส.ว. โพสต์ลงเฟซบุ๊กระบุว่า การชุมนุมที่สกายวอล์กจะเรียกชื่อหรูลอกเลียนฝรั่งฮ่องกงว่าแฟลชม็อบ หรือถูกฝ่ายตรงข้ามดูแคลนว่าแฟลชม็อบ หรือโฟโต้ม็อบ หรือเฟซบุ๊กม็อบ หรือเซลฟี่ม็อบก็ตาม เป็นการชุมนุมทางการเมืองที่เข้าข่ายต้องมีผู้จัดการชุมนุม ต้องมีการขออนุญาต และมีข้อห้ามชุมนุมในระยะที่ต้องห่างจากเขตพระราชวังไม่น้อยกว่า 150 เมตร ทั้ง 3 ข้อมีหลักฐานยืนยันว่านายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ หัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และ น.ส.พรรณิการ์ วานิช โฆษกพรรคอนาคตใหม่ โฆษณาชักจูง หรือกระทำโดยวิธีใดนัดหมายคนมาร่วมชุมนุม เท่ากับเป็นผู้จัดการการชุมนุม และไม่พบว่ามีการขออนุญาตและได้รับอนุญาต รวมถึงจุดที่จัดชุมนุมนั้นมีความสุ่มเสี่ยงที่จะอยู่ในรัศมี 150 เมตร จากเขตพระราชฐาน จึงเข้าข่ายเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.การชุมนุมในที่สาธารณะ สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีหน้าที่ดำเนินการออกหมายเรียกมารับทราบข้อกล่าวหาต่อไป

ผบก.น.6 ฮึ่มผิด พ.ร.บ.ชุมนุม

พล.ต.ต.เมธี รักพันธุ์ ผบก.น.6 กล่าวว่า ผู้บังคับบัญชาสั่งการให้รวบรวมพยานหลักฐานว่าการกระทำของแกนนำจัดแฟลตม็อบผิดกฎหมายหรือไม่ เบื้องต้นเห็นว่าเข้าข่ายละเมิด พ.ร.บ.การ ชุมนุมในที่สาธารณะ ถือว่ามีความผิดชัดเจนเพราะไม่มีการแจ้งการชุมนุม ทำอะไรต้องทำตามกติกากฎหมายบ้านเมือง

พปชร.ยกเครื่องใหม่ลุยเต็มสูบ

ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า การประชุมใหญ่สามัญประจำปี 2562 ที่โรงแรมมิราเคิล แกรนด์ คอนเวนชั่น ในวันที่ 21 ธ.ค. นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ได้ลงนามในหนังสือเชิญคณะกรรมการบริหารพรรค ผู้แทนสาขาพรรค ตัวแทนพรรคประจำจังหวัด และสมาชิกที่ได้รับเชิญเข้าร่วมประชุม นอกจากวาระแลกเปลี่ยนเพื่อหาข้อเสนอแนะเชิงนโยบายแล้ว ยังมีวาระสำคัญที่ต้องจับตา คือการเสนอปรับโครงสร้างพรรค โดยเฉพาะในส่วนของคณะกรรมการบริหารพรรค เนื่องจากชุดเดิมเป็นชุดที่จัดตั้งขึ้นเพื่อการจดจัดตั้งพรรคและเตรียมการเลือกตั้งที่ผ่านมา การเปลี่ยนแปลงโครงสร้างพรรคใหม่เพื่อให้การบริหารงานหลังจากนี้เดินหน้าการเมืองเต็มตัว เป็นไปตามสถานการณ์ในปัจจุบัน และเตรียมพร้อมการเลือกตั้งครั้งต่อไป โดยจะมีตัวแทน ส.ส.แต่ละภาคเข้าไปมีสัดส่วนในกรรมการบริหารพรรค และเพื่อให้เป็นไปตามข้อบังคับพรรคที่กำหนดให้มีได้ถึง 45 คน

“สามมิตร–ธรรมนัส” ขึ้น กก.บห.

ขณะที่รายชื่อกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐชุดปัจจุบัน มีทั้งหมด 24 คน ได้แก่ นายอุตตม สาวนายน หัวหน้าพรรค นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรค นายพรชัย ตระกูลวรานนท์ เหรัญญิกพรรค นายวิเชียร ชวลิต นายทะเบียนสมาชิกพรรค ขณะที่กรรมการบริหารพรรค ได้แก่ นายสุวิทย์ เมษินทรีย์ นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล นายอิทธิพล คุณปลื้ม นายชวน ชูจันทร์ นายชาญกฤช เดชวิทักษ์ นายณพพงศ์ ธีระวร นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ นายพงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ นางวลัยพร รัตนเศรษฐ นายวิเชฐ ตันติวานิช นายชาญวิทย์ วิภูศิริ นายสันติ กีระนันทน์ นายสุรพร ดนัยตั้งตระกูล นายองอาจ ปัญญาชาติรักษ์ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ น.ส.ธณิกานต์ พรพงษาโรจน์ นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ และนายอนุชา นาคาศัย สำหรับคนใหม่ที่จะเข้ามา อาทิ นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า นายสันติ พร้อมพัฒน์ นายวิรัช รัตนเศรษฐ นายสุชาติ ชมกลิ่น นายมณเฑียร สงฆ์ประชา พล.อ.สมชาย วิษณุวงศ์ นายวันชัย ปริญญาศิริ นายนิพันธ์ ศิริธร ทั้งนี้การเพิ่มรัฐมนตรีและ ส.ส.เข้ามาเป็นกรรมการบริหารพรรค เพื่อให้ครอบคลุมการทำงานตามสัดส่วนภาคให้มากขึ้น ตามแนวทางของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานยุทธศาสตร์พรรค

ดัน “เสี่ยแฮงค์” แทน “สนธิรัตน์”

ส่วนตำแหน่งสำคัญอย่างตำแหน่งเลขาธิการพรรค ถือว่าต้องจับตามองเช่นกัน เมื่อมีกระแสข่าวว่าอาจพิจารณาเปลี่ยนตัวจากนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รมว.พลังงาน ซึ่งมีภารกิจในตำแหน่งค่อนข้างมาก ขณะที่การทำงานในสภารัฐสภาด้วยเสียงปริ่มน้ำ การควบคุมเกมในสภาถือว่าสำคัญ ต้องได้คนมาทำหน้าที่ประสาน ส.ส.ในพรรคได้อย่างเต็มที่ ทำให้ชื่อของนายอนุชา นาคาศัย ส.ส.ชัยนาท รองประธานยุทธศาสตร์พรรค ถูก ส.ส.หลายคนในพรรคพูดว่ามีความเหมาะสมมาทำหน้าที่ประสานกลุ่มต่างๆ ทั้งในพรรคและในสภา ขณะที่ตำแหน่งหัวหน้าพรรคยังคงเป็นนายอุตตม

“พิชัย” เย้ยผลงานรัฐบาลบ่มิไก๊

วันเดียวกัน นายพิชัย นริพทะพันธุ์ อดีต รมว.พลังงาน กล่าวถึงการเตรียมจัดแถลงผลงาน 6 เดือนของรัฐบาล หลังพ้นช่วงปีใหม่ไปแล้วว่า แปลกใจว่าจะแถลงผลงานอะไร ตลอดเวลาที่บริหารงานมา ยังไม่ได้ทำตามนโยบายที่สัญญาไว้กับประชาชนเลย เช่น การขึ้นค่าแรงขั้นต่ำที่ขึ้นเพียง 5-6 บาท ยังห่างจาก 400-425 บาท ตอนหาเสียงไว้มาก เบี้ยผู้สูงอายุ 1,000 บาท รวมถึงการปฏิเสธที่จะลดภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาร้อยละ 10 ตามที่ได้สัญญาไว้ ยังมีอีกหลายนโยบาย เช่น จบอาชีวะเงินเดือน 18,000 บาท จบปริญญาตรีเงินเดือน 20,000 บาท โครงการมารดาประชารัฐ กองทุนพลังประชารัฐหมู่บ้านละ 2 ล้านบาท พักหนี้กองทุนหมู่บ้าน 4 ปี ยกเว้นภาษีการค้าออนไลน์ 2 ปี ยังไม่เห็นดำเนินการเลย อยากให้ พล.อ.ประยุทธ์รักษาคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้กับประชาชน หากทำไม่ได้ต้องให้ กกต.พิจารณาลงโทษ และดำเนินคดีตามกฎหมาย

ชวนออกมา “วิ่งไล่ลุง” เยอะๆ

นายพิชัยกล่าวว่า ทั้งนี้ พรรคพลังประชารัฐยังต้องชี้แจงที่มาของรายได้ และความคุ้มทุนของแต่ละนโยบายตามที่รัฐธรรมนูญกำหนด หากทำไม่ได้ต้องถูกดำเนินคดีเช่นกัน ประเทศไทยพัฒนามาเกินกว่าที่จะมีพรรคการเมืองที่เพียงแต่พูดหาเสียงแต่ไม่ทำแล้ว ถ้าไม่ทำแล้วจะหาเสียงทำไม อยากให้ประชาชนช่วยกันเรียกร้องให้รัฐบาลทำตามสัญญาประชาคม เพราะจนถึงวันนี้ยังไม่มีวี่แววว่ารัฐบาลจะรักษาคำพูด อีกทั้งหากประชาชนยังรู้สึกไม่พอใจกับเรื่องเศรษฐกิจที่ย่ำแย่สุดขีดขณะนี้ อยากให้พากันออกมาแสดงพลังกันมากๆในการ “วิ่งไล่ลุง” วันที่ 12 ม.ค.2563 นี้ ให้ออกมากันมากกว่าที่สกายวอร์กหลายเท่า เพื่อส่งสัญญาณให้รัฐบาลทราบว่าประชาชนทนไม่ไหวแล้ว

เพื่อชาติจัดเตะบอลกระชับมิตร

เมื่อเวลา 15.00 น. ที่สนามฟุตบอลรีพับบลิก ย่านหัวหมาก พรรคเพื่อชาติจัดกิจกรรมเตะฟุตบอลกระชับมิตรเพื่อกระชับความสัมพันธ์ภายในพรรค มีแกนนำและ ส.ส.เข้าร่วม อาทิ นายสงคราม กิจ–เลิศไพโรจน์ หัวหน้าพรรค น.ส.ปิยรัตน์ ติยะไพรัช นายอารี ไกรนรา ส.ส.บัญชีรายชื่อ น.ส.เกศปรียา แก้วแสนเมือง โฆษกพรรคเพื่อชาติ และแฟนคลับเข้าร่วมจำนวนมาก โดยการแข่งขันมีทั้งสิ้น 4 ทีม ประกอบด้วย ทีมผู้บริหารพรรค ทีมผู้สมัครต่างจังหวัด ทีมสมาชิกตัวแทนภาคใต้ และทีมผู้สื่อข่าว น.ส.เกศปรียากล่าวว่า เป็นกิจกรรมสานสัมพันธ์ระหว่างผู้บริหารและสมาชิกพรรค ให้การทำงานมีความแน่นแฟ้นเข้มแข็งยิ่งขึ้นต่อไปในอนาคต การก่อตั้งพรรคเพื่อชาติเรามุ่งหวังทำการเมืองระยะยาวเป็นปากเสียงแก้ปัญหาให้ประชาชน ยึดมั่นจุดยืนเพื่อประชาธิปไตย

“ธรรมนัส” ยกทีมงานลุยหาเสียง

ช่วงเช้าที่ อ.มัญจาคีรี จ.ขอนแก่น ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ แกนนำพรรคพลังประชารัฐ พร้อมทีมงานลงพื้นที่ จ.ขอนแก่น ช่วยนายสมศักดิ์ คุณเงิน ผู้สมัครเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขต 7 หาเสียง ร.อ.ธรรมนัสกล่าวปราศรัยบนรถหาเสียงว่า ขอให้วันที่ 22 ธ.ค. ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งเลือกคนไปเป็นรัฐบาล เพื่อนำความเจริญมาสู่ อ.มัญจาคีรี ยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชนให้ดีขึ้น ร.อ.ธรรมนัสให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า พรรคใช้ยุทธศาสตร์หาเสียงแบบดาวกระจาย ให้ประชาชนรู้ว่าเราเป็นพรรคแกนนำรัฐบาล รู้ดีว่าจะแก้ปัญหาให้พี่น้องอย่างไร มั่นใจว่า นายสมศักดิ์มีโอกาสชนะเลือกตั้งครั้งนี้ เพราะกระแสตอบรับดี และพรรคจะจัดปราศรัยใหญ่วันที่ 20 ธ.ค.

วัดใจเลือกข้างรัฐบาล–ฝ่ายค้าน

นายสมศักดิ์ คุณเงิน ผู้สมัครซ่อม ส.ส.ขอนแก่น เขต 7 กล่าวว่า ประชาชนต้องตัดสินใจว่าจะเลือกพรรครัฐบาลหรือพรรคฝ่ายค้าน หากเห็นว่ารัฐบาลจะสามารถสร้างความเปลี่ยนแปลง ทั้งถนน 4 เลน ประตูระบายน้ำ บัตรสวัสดิการแห่งรัฐ และชดเชยราคาพืชผลการเกษตร ไม่มีใครทำได้นอกจากรัฐบาล เราติดหล่มประเทศมานับ 10 ปี วันนี้ถึงเวลาต้องเปลี่ยน ถ้าอยากเห็นการเปลี่ยนต้องเลือกพรรครัฐบาล

สภาล่มบ่อยให้ยุบๆไปเถอะ

ด้านนิด้าโพลเปิดผลสำรวจความเห็นประชาชนจำนวน 1,260 คนทั่วประเทศ เรื่อง “ปัญหาสภาล่ม” พบว่าส่วนใหญ่ร้อยละ 54.13 มองว่าการประชุมสภาผู้แทนราษฎรที่ล่มบ่อยครั้ง จะทำให้ประชาชนเบื่อ และเกิดความเสื่อมศรัทธา รองลงมาร้อยละ 33.02 เห็นว่า ส.ส.ฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านเล่นเกมการเมืองมากเกินไป และร้อยละ 23.49 มองว่าเป็นเรื่องธรรมดาทางการเมืองที่เกิดขึ้นทุกสมัยอยู่แล้ว เมื่อถามถึงความคิดเห็นประชาชนต่อแนวทางการแก้ไขปัญหาสภาล่ม 3 อันดับแรกพบว่าส่วนใหญ่ร้อยละ 45.08 สภาล่มบ่อยๆก็ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ไปเลย ร้อยละ 23.25 ใครไม่อยากประชุมสภาก็ให้ลาออกไป และร้อยละ 20.08 ควรมีการประกาศชื่อ ส.ส.ที่ไม่เข้าประชุมสภา

โพลชี้ความขัดแย้งยิ่งทำ ศก.แย่

ขณะที่สำนักวิจัยซูเปอร์โพล เปิดผลสำรวจความเห็นจากประชาชนจำนวน 1,144 คน เรื่องทางรอดอนาคตใหม่กับเสียงประชาชน พบว่าร้อยละ 51.5 หากว่าพรรคอนาคตใหม่ถูกยุบจริง ส.ส.ควรเข้าร่วมกับพรรคการเมืองฝ่ายรัฐบาล ร้อยละ 34.3 ระบุควรเข้าร่วมกับพรรคการเมืองฝ่ายค้าน นอกจากนี้ร้อยละ 40.0 ระบุควรเข้าร่วมกับพรรคเพื่อไทย รองลงมาเป็นพรรคภูมิใจไทย พรรคชาติไทยพัฒนา พรรคประชาธิปัตย์ และพรรคพลังประชารัฐตามลำดับ ส่วนความเห็นต่อความขัดแย้งทางการเมือง ร้อยละ 82.5 มองว่ามีผลทำให้เศรษฐกิจแย่ลงไปอีกมากถึงมากที่สุด ส่วนร้อยละ 17.5 ระบุน้อยถึงไม่มีผลเลย

ข่าว “ปารีณา รุกป่า” คนสนใจสุด

สวนดุสิตโพลเปิดผลสำรวจความคิดเห็นประชาชนทั่วประเทศ จำนวน 1,271 คน เรื่อง 5 อันดับข่าวการเมือง ที่ประชาชนสนใจติดตามมากที่สุด พบว่าส่วนใหญ่ร้อยละ 62.18 เป็นข่าว “ปารีณา รุกป่า-รุกที่ดิน จ.ราชบุรี” เพราะเป็นนักการเมืองรุ่นใหม่ เป็นฝ่ายรัฐบาล อยากรู้ความคืบหน้าในการดำเนินคดี เป็นกรณีตัวอย่างให้กับประชาชนและคนจน ที่ถูกดำเนินคดีลักษณะนี้ อยากรู้ว่ากฎหมายไทย 2 มาตรฐานจริงหรือไม่ เป็นประเด็นที่สะท้อนถึงปัญหาคอร์รัปชันและการใช้อำนาจในทางที่ผิด ร้อยละ 52.96 ข่าวยุบพรรคอนาคตใหม่ “กรณีกู้เงินธนาธร 191.2 ล้านบาท” เพราะเป็นพรรคใหม่ มีอุดมการณ์ มีคนรุ่นใหม่ให้ความสนใจมาก มีหลายประเด็นที่ กกต.ชี้แจงไม่ชัดเจน อาจเป็นการกลั่นแกล้งทางการเมือง รองลงมาคือ นโยบายการแก้ปัญหาเศรษฐกิจของรัฐบาล, ส.ส.งูเห่า และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ

“บิ๊กตู่” เปิดถนนคนเดินนำร่อง

ที่ถนนสีลม เมื่อเวลา 18.00 น. พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เป็นประธานเปิดโครงการนําร่องถนนคนเดิน (Walking Street) โดยมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและ รมว.สาธารณสุข พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นายอิทธิพล คุณปลื้ม รมว.วัฒนธรรม และ พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าฯ กทม. เข้าร่วม นายกฯกล่าวว่า สิ่งที่น่าภูมิใจกรุงเทพฯได้รับการจัด เป็นอันดับ 1 เมืองจุดหมายปลายทางโลกมา 4 ปีซ้อน สิ่งที่ทำให้คนมาเที่ยวบ้านเรามี 3 อย่างคือ ธรรมชาติสวยงาม อาหารหลากหลาย และรอยยิ้ม เพราะมีความสงบสุข ขอให้ทุกคนภูมิใจและรักษาสิ่งเหล่านี้ให้นานที่สุด ช่วยกันทำให้สงบเรียบร้อยมีเสถียรภาพ การท่องเที่ยวถือเป็นรายได้หลักของประเทศ ขณะเดียวกัน ก็ต้องทำให้ปลอดภัยและรักษาความมั่นคงของเราให้ได้ด้วย

ลั่นไม่ปล่อยให้ใครมาแทรกแซง

พล.อ.ประยุทธ์กล่าวอีกว่า ขอย้ำว่ารัฐบาลพยายามทำทุกอย่างให้ดีที่สุด ให้ทุกอย่างเดินหน้าไปได้ในสภาวะเศรษฐกิจโลกเช่นนี้ สำหรับโครงการถนนคนเดินนี้เป็นการนำร่อง วันที่ 22 ธ.ค. จะจัดในทุกพื้นที่ที่มีศักยภาพ วันนี้ทุกคนต้องเริ่มแก้ที่ตัวเราเอง เหมือนตนก็แก้ที่ตัวเองทำอย่างไรให้ดีขึ้น ถึงเวลาที่พวกเราต้องร่วมมือกันช่วยทำคุณงามความดีเพื่อแผ่นดินนี้ แผ่นดินที่เราเกิดมา และอยากฝากทุกคนอย่าเอาเปรียบกัน จิตใจเราต้องเข้มแข็งเพื่อประเทศของเรา เพื่อชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ไม่ใช่เกิดมาแล้วตายโดยไม่สร้างอะไรในแผ่นดินนี้เลย วันนี้เราต้องการความรัก ความสามัคคี ทั้งนี้ นอกจากเรื่องถนนคนเดิน ยังมีความคิดอยากให้นักดนตรีที่มีชื่อเสียง หรือวงดนตรีดังๆของโลกมาจัดแสดงในไทย สิ่งสำคัญเราต้องทำให้พื้นที่ปลอดภัยอย่าให้มีอะไรมาแทรกแซง อย่าให้ใครทำลายความเป็นหนึ่งเดียวของพวกเรา

ไปต่อ “สตรีทฟู้ด” ถนนเยาวราช

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังเสร็จพิธีเปิดงาน นายกฯ เดินเยี่ยมชมร้านจำหน่ายสินค้าและกิจกรรมภายในงาน โดยมีประชาชนให้ความสนใจขอถ่ายเซลฟี่เป็นที่ระลึกตลอดทาง และนายกฯยังร่วมร้องเพลง “คนดีไม่มีตาย” ของศิลปิน “ธีร์ ไชยเดช” พร้อมกล่าวว่า “ขอให้ร่วมกันทำความดี เพื่อประเทศชาติ เพราะการทำความดี ไม่มีวันตาย” จากนั้นนายกฯนำคณะเดินทางโดยรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ที (MRT) ไปยังสถานีวัดมังกร เพื่อเยี่ยมชมกิจกรรมถนนคนเดินเยาวราช ที่จัดในรูปแบบสตรีทฟู้ด (Street Food)

ครวญ “ชีวิตต้องสู้ถึงจะชนะ”

ต่อมาเวลา 20.00 น. พล.อ.ประยุทธ์และคณะเดินทางมาถึงสถานีวัดมังกร และเดินทักทายประชาชนนักท่องเที่ยวย่านถนนเยาวราช และร่วมร้องเพลงกับกลุ่มนักดนตรี เพลง “ต้องสู้ จึงจะชนะ” พร้อมกล่าวว่า “ชีวิตต้องสู้ ต้องสู้ถึงจะชนะ” ขณะที่บรรดากองเชียร์ตะโกนว่า “นายกฯต้องสู้” และต่อด้วยเพลง “ศรัทธา” และ “หยุดตรงนี้ที่เธอ” จากนั้นนายกฯให้สัมภาษณ์ว่า อยากบอกว่าดีใจมีความสุข มีความรู้สึกดี โดยเฉพาะได้พบปะประชาชน วันนี้ถือว่าเรามาทำความดีเพื่อแผ่นดิน ทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียนดีขึ้น เราต้องรักสามัคคีกันให้มาก ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีในการเริ่มต้นปีใหม่อย่างมีความสุข อย่าให้ใครมาทำลายความสุขของเราเด็ดขาด พร้อมหันไปถามประชาชนว่า “ใจสู้หรือเปล่า” เมื่อผู้สื่อข่าวตะโกนถามว่าสู้เต็มที่ใช่หรือไม่ พล.อ.ประยุทธ์ตอบว่า “ตามหน้าที่และบทบาทของนายกฯ ไม่ได้สู้กับใคร”

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0