Robert Wang ผู้ก่อตั้งและซีอีโอของ Instant Brands ฝันจะเป็น”สตีฟ จอบส์”ในวงการเครื่องครัว เพราะสตีฟ จอบส์ เป็นยอดด้านการออกแบบและเป็นเลิศด้านเข้าใจความต้องการของลูกค้า
ดูเหมือน Wang เข้าใกล้จุดดังกล่าวเข้าไปทุกขณะ หลังจากพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่ใส่ใจในรายละเอียดในชื่อหม้อเอนกประสงค์ Instant Pot จนติดอันดับหนึ่งในสินค้าขายดีช่วง Prime Day ของอเมซอนเมื่อปี 2559
จากนั้นในปี 2560 ก็ขายได้อีก 215,000 ใบ
และในปี 2561 ทำลายสถิติวัน Prime Day ด้วยยอดขาย 300,000 ใบในเวลา 36 ชั่วโมง
ผู้ติดตามแอคเคาน์เฟซบุ๊กของหม้ออเนกประสงค์นี้มีมากกว่า 5.5 ล้านราย เพราะเพจบนเฟซบุ๊กเป็นเหมือนสถานที่แลกเปลี่ยนสูตรอาหารและเคล็ดลับการใช้งานหม้อที่ใช้ได้เอนกประสงค์ ตั้งแต่หุงข้าว ทำโยเกิร์ต เป็นกระทะ หรืออุ่นอาหาร
นอกจากสตีฟ จอบส์แล้ว Wangยังมีนักธุรกิจในดวงใจอย่างบิล เกตส์ ที่เคยลั่นวาจาช่วงเริ่มก่อตั้งบริษัทไมโครซอฟท์ ว่าจะทำให้ทุกบ้านมีคอมพิวเตอร์ โดย Wang ก็ตั้งเป้าให้ครัวของทุกบ้านมี Instant Pot
ตอนที่เขาตั้งความหวังนี้ไว้เมื่อปี 2556 อาจเป็นเรื่องน่าขัน เพราะเขามีพนักงานแค่ 4 คน
ปัจจุบัน Instant Brands ซึ่งมีฐานในเมืองออตตาวา แคนาดา มีพนักงานเกือบ 90 ชีวิต
ทุกอย่างเริ่มต้นขึ้นเมื่อ Wang ตกงานเมื่อปี 2551 จากตำแหน่งหัวหน้านักวิทยาศาสตร์ประจำบริษัทส่งข้อความ อันเป็นเหมือนจุดเปลี่ยน เพราะเขาตัดสินใจหันไปหยิบจับอย่างอื่น แม้ทำงานด้านเทคโนโลยีคมนาคมมา 14 ปี
Wang และภรรยา เคยทำงานในอุตสาหกรรมไฮเทคทั้งคู่ จึงไม่ค่อยมีเวลาทำอาหารให้ลูกๆ สิ่งที่เขาฝันถึงมาตลอดคือเครื่องมือทำกับข้าวอัตโนมัติดีๆ สักเครื่อง เมื่อพอมีไอเดียแล้ว Wangซึ่งมีปริญญาเอกด้านคอมพิวเตอร์และมีความรู้ด้านปัญญาประดิษฐ์ จึงต่อยอดไปถึง Instant Pot ซึ่งอำนวยความสะดวกแก่คนทำงานที่หิ้วส่วนผสมและเครื่องปรุงมาจากข้างนอก แล้วสามารถจับทุกอย่างใส่หม้อ พร้อมกินได้ภายในเวลา 30-40 นาที
Wang ใช้เวลา 18 เดือนพัฒนาหม้อ หาผู้ผลิต ออกแบบ และควักเงินลงทุนไป 300,000 ดอลลาร์ จากนั้นก็มีคนมาร่วมทุนด้วย รวมถึงอดีตพนักงานแบลคเบอร์รี 2 คน ซึ่งปัจจุบันทำหน้าที่บริหารสินค้า และดูแลคุณภาพ
ในที่สุด Instant Pot ก็พร้อมวางตลาดในปี 2553 Wang ตระเวนขับรถไปทั่วแคนาดาเพื่อสาธิตสินค้าให้บรรดาร้านขายปลีกได้ชม แต่ไม่มีใครกล้าเสี่ยงรับสินค้าที่ไม่เคยได้ยินชื่อเสียงเรียงนาม
Wang จึงหันไปขายทางออนไลน์ และพยายามเสนอขายทั้งทางอเมซอน อีเบย์ ไล่ไปจนถึง Newegg และเว็บไซต์ของ Instant Brands
ปรากฏว่าอเมซอนเป็นตลาดที่เพอร์เฟคสำหรับเขา เพราะเขาสามารถอ่านรีวิวจากลูกค้า ซึ่งรีวิวเหล่านี้ช่วยเขาได้มากในการพัฒนาสินค้ารุ่นต่อไป
Instant Pot ขายหม้อได้ใบแรกทางอเมซอนเมื่อเดือนพ.ย.2553 ในราคา 140 ดอลลาร์ Wang จำได้ดีว่ารู้สึกตื้นตันเพียงใดที่มีคนเชื่อมั่นในสินค้าของเขาถึงขนาดซื้อไป
จากนั้น สินค้าบนอเมซอนก็เริ่มขายได้ ตอนแรกขายได้วันละ 1-2 ใบ และเพิ่มเป็นวันละ 30 ใบภายใน 3 เดือน
ในปี 2554 Wang เริ่มอ่านทุกรีวิวของลูกค้าบนอเมซอน นับได้เกือบ 40,000 รีวิว ในปี 2555 มีรีวิวหนึ่งที่แนะให้เขาเพิ่มฟีเจอร์การทำโยเกิร์ตเข้าไปด้วย ซึ่งWang ก็ทำตามและส่งหม้อไปให้คนที่เขียนแนะนำนี้ด้วยเพื่อแสดงความขอบคุณ เพราะปรากฎว่าหม้อรุ่น Duo เป็นรุ่นที่ขายดีที่สุด และขายไปได้หลายล้านใบแล้ว
แต่กว่าบริษัทจะทำกำไรได้ ก็ต้องเป็นช่วงของการพัฒนา Instant Pot รุ่นสอง ที่ขายใบละ 140 ดอลลาร์ ทั้งยังเป็นรุ่นขายดีบนอเมซอนเมื่อปี 2555 โดยขายได้เดือนละ 2,000 ใบ
นอกจากนั้น ปี 2555 ยังเป็นปีที่ Instant Pot เปิดเพจบนเฟซบุ๊ก เพราะต้องการได้รับฟีดแบคจากผู้ใช้ ประกอบกับ Wang เลือกประชาสัมพันธ์สินค้าด้วยวิธีปากต่อปาก เพราะมีงบประมาณจำกัด และรู้สึกว่าหม้อของเขาสามารถเป็นอะไรที่พูดกันปากต่อปากได้ จึงส่งหม้อหลายร้อยใบไปให้บลอกเกอร์ด้านอาหารและเชฟชื่อดัง ได้ทดลองใช้
ปรากฏว่ามีเสียงพูดถึง Instant Pot เซ็งแซ่นับจากนั้น
