โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไอที ธุรกิจ

ส่งสำนวน ‘คดีทุจริตจำนำข้าว’ ยึดทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพิ่ม

The Bangkok Insight

อัพเดต 19 ม.ค. 2563 เวลา 11.06 น. • เผยแพร่ 19 ม.ค. 2563 เวลา 11.06 น. • The Bangkok Insight
ส่งสำนวน ‘คดีทุจริตจำนำข้าว’ ยึดทรัพย์สินตกเป็นของแผ่นดินเพิ่ม

ปปง.ส่งสำนวนคดีทุจริตจำนำข้าว และคดีแชร์คอร์สสัมมนา ให้พนักงานอัยการเพิ่มเติม ยื่นคำร้องต่อศาล ให้ทรัพย์สิน ตกเป็นของแผ่นดิน ย้ำภารกิจต่อเนื่อง ตัดวงจรอาชญากรรม-ตัดเส้นทางการเงินผู้กระทำผิด เน้นสืบสวนขยายผล ยึดทรัพย์สิน 

พลตำรวจตรี ปรีชา เจริญสหายานนท์
พลตำรวจตรี ปรีชา เจริญสหายานนท์

เมื่อวันที่ 17 ธันวาคมที่ผ่านมา พลตำรวจตรี ปรีชา เจริญสหายานนท์ รักษาราชการแทน เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) กล่าวว่าคณะกรรมการธุรกรรมในการประชุมครั้งที่ 1/2563 เมื่อวันที่ 14 มกราคมที่ผ่านมา มีมติให้เลขาธิการปปง.ส่งเรื่องเพิ่มเติมให้พนักงานอัยการพิจารณา

เพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สิน ที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดในรายคดีกลุ่มบุคคล ที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ และนายอภิชาติ จันทร์สกุลพร กับพวกรวม 389 รายการ มูลค่าทรัพย์สินรวม 2,930,715 บาท พร้อมดอกผล ตกเป็นของแผ่นดิน

และมีมติให้เลขาธิการปปง.ส่งเรื่องเพิ่มเติมให้พนักงานอัยการพิจารณา เพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้นำทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดในรายคดี บริษัท เดอะ ซิสเต็ม ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ จำกัด และบริษัทอินโนวิชั่นโฮลดิ้ง จำกัด โดยนายภูดิศ กิติธราดิลก กับพวก จำนวน 2 รายการ รวมมูลค่าทรัพย์สินประมาณ 44 ล้านบาท พร้อมดอกผล ไปคืนหรือชดใช้คืนให้แก่ผู้เสียหายในความผิดมูลฐาน (คุ้มครองสิทธิของผู้เสียหาย)

*ทั้งนี้จากการสืบสวน และรวบรวมพยานหลักฐาน พบว่ารายคดีกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการทุจริตในโครงการรับจำนำข้าว และการระบายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ และนายอภิชาติ จันทร์สกุลพร และพวกเป็นการกระทำผิด ต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการฯ และความผิดเกี่ยวกับการยักยอก อันมีลักษณะเป็นปกติธุระ ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (5) และ (18 ) แห่งพ.ร.บ.ป้องกัน และปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 *

โดยในคราวประชุมเมื่อวันที่ 14 มกราคม 2563 คณะกรรมการธุรกรรมมีมติให้เลขาธิการปปง.ส่งเรื่องเพิ่มเติมให้พนักงานอัยการพิจารณาเพื่อยื่นคำร้องขอให้ศาลมีคำสั่งให้ทรัพย์สิน เกี่ยวกับการกระทำผิด (เครื่องใช้ไฟฟ้าและอุปกรณ์สำนักงาน) รวม 389 รายการ มูลค่าทรัพย์สินรวม 2,930,715 บาทพร้อมดอกผล ตกเป็นของแผ่นดิน

ทั้งนี้ในคดีดังกล่าว สำนักงานปปง.ได้มีการสืบสวนขยายผลมาอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ปี 2559 ถึงปัจจุบันมีการยึด และอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดจำนวน 15 ครั้ง รวมมูลค่าทรัพย์สิน 16,170 ล้านบาท

สำหรับรายคดี บริษัท เดอะ ซิสเต็ม ปลั๊ก แอนด์ เพลย์ จำกัด และบริษัทอินโนวิชั่นโฮลดิ้ง จำกัด โดยนายภูดิศ กิติธราดิลก กับพวก เป็นการกระทำความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงประชาชน หรือการกู้ยืมเงินที่เป็นการฉ้อโกงประชาชน และความผิดเกี่ยวกับการฉ้อโกงอันมีลักษณะเป็นปกติธุระ ซึ่งเป็นความผิดมูลฐานตามมาตรา 3 (3) และ (18 ) แห่งพ.ร.บ.ป้องกัน และปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 โดยสำนักงานได้มีการสืบสวนขยายผลมาอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ปี 2561 ถึงปัจจุบันมีการยึด และอายัดทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดจำนวน 3 ครั้ง รวมมูลค่าทรัพย์สินทั้งสิ้น 63 ล้านบาท

*สำนักงานปปง.ขอประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนให้ทราบว่า ผู้ใดกระทำการดังต่อไปนี้ *

(1) โอน รับโอน หรือเปลี่ยนสภาพทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิดเพื่อซุกซ่อน หรือปกปิดแหล่งที่มาของทรัพย์สินนั้น หรือเพื่อช่วยเหลือผู้อื่นไม่ว่าก่อน ขณะหรือหลังกระทำความผิด มิให้ต้องรับโทษ หรือ รับโทษน้อยลงในความผิดมูลฐาน

หรือ (2) กระทำด้วยประการใดๆ เพื่อปกปิดหรืออำพรางลักษณะที่แท้จริง การได้มาแหล่งที่ตั้ง การจำหน่าย การโอน การได้สิทธิ์ใดๆ ซึ่งทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด

หรือ (3)  ได้มาครอบครอง หรือใช้ทรัพย์สิน โดยรู้ในขณะที่ได้มา ครอบครอง หรือใช้ทรัพย์สินนั้น ว่าเป็นทรัพย์สินเกี่ยวกับการกระทำความผิด ผู้นั้นกระทำความผิดฐานฟอกเงิน ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000-200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

และผู้ใดยักย้าย ทำให้เสียหาย ทำลาย ซ่อนเร้น เอาไปเสีย ทำให้สูญหาย หรือทำให้ไร้ประโยชน์ ซึ่งเอกสารหรือบันทึก ข้อมูล หรือทรัพย์สินที่เจ้าพนักงานยึดหรืออายัดไว้ หรือที่คนรู้ หรือควรรู้ว่า จะตกเป็นของแผ่นดินตามพ.ร.บ.ป้องกัน และปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ.2542 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี หรือปรับไม่เกิน 300,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

พลตำรวจตรี ปรีชา กล่าวว่า เพื่อเป็นการตัดวงจรอาชญากรรม และตัดเส้นทางการเงินของผู้กระทำผิด สำนักงานปปง.จะเน้นการสืบสวนขยายผล เพื่อยึดทรัพย์สิน ที่เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิดในคดีต่างๆ อย่างต่อเนื่อง ให้เกิดความเข้มข้น และเกิดประสิทธิภาพ ประสิทธิผล ในการทำงาน

เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของประชาชน และเพื่อความสงบสุข ความมั่นคงของประเทศชาติต่อไป ภายใต้ปรัชญาการทำงานที่ว่า "ทรัพย์สินใดเป็นของแผ่นดิน ทรัพย์สินนั้นต้องกลับคืนแผ่นดิน โดยไม่มีเงื่อนไข ด้วยกฎหมายฟอกเงิน"* *

ทั้งนี้หากพบเห็นบุคคลใด เกี่ยวข้องกับการกระทำความผิด หรือ แอบอ้างเป้นเจ้าหน้าที่สำนักงานปปง.เพื่อขอเอกสาร หรือตรวจค้นบริษัท หรือบ้านพัก โปรดอย่าหลงเชื่อ ขอให้โทรแจ้งหรือสอบถามได้ที่สายด่วน ปปง. 1710 หรือผ่านทางคิวอาร์โค้ด

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0