ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด คาดเศรษฐกิจไทยปี 2562 จีดีพีเติบโตที่ 4.5% จับตาการเลือกตั้ง การดำเนินนโยบายการลงทุน และการเบิกจ่ายที่ต่อเนื่อง เป็นปัจจัยบวก ส่วนภาพรวมการส่งออก โต 5%
24 ม.ค. 62-นักเศรษฐศาสตร์ประจำธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด (ไทย) ดร.ทิม ลีฬหะพันธุ์ บอกว่า การเลือกตั้งทั่วไปที่จะขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 5 ปี วันที่ 24 มีนาคมนี้ จะเป็นไปอย่างราบรื่น ซึ่งจะช่วยสร้างบรรยากาศที่ดี สิ่ที่ต้องจับตาคือพรรคไหนชนะ การเลือกตั้ง ใครได้นายกรัฐมนตรี และพรรคกลางๆ จะมีบทบาทในการตั้งรัฐบาล ซึ่งหากได้รัฐบาลชุดเดิม ก็จะทำให้นโยบายลงทุนต่างๆเบิกจ่ายไปอย่างต่อเนื่อง แต่หากได้รัฐบาลชุดใหม่ ก็อาจได้ให้นโยบายใหม่ที่ช่วยดึงดูดนักลงทุนมากขึ้น ทั้งนี้ต้องจับตาหลังการเลือกตั้ง คือเสถียรภาพของรัฐบาลที่คาดว่าจะเป็นรัฐบาลผสม ซึ่งอาจดำเนินนโยบายต่อเนื่องไปอีก 2-3 ปี จึงคาดว่าเศรษฐกิจไทยน่าจะขยายตัวได้ 4.5% ในปี 2562
ดร.ทิม บอกว่า ภาพรวมการส่งออกของประเทศยังกลางๆ โต 5% จากผลกระทบสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับจีน ถึงแม้ว่าความขัดแย้งดังกล่าวอาจส่งประโยชน์ให้ไทยเนื่องจากมีผู้ต้องการสินค้าไปทดแทนสินค้าที่ได้รับผลกระทบจากภาษี แต่ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับความสามารถของผู้ส่งออกไทยในการตอบสนองต่อความต้องการการนำเข้าสินค้าไทยที่เพิ่มมากขึ้นจากทั้งสหรัฐฯ กับจีน
ด้านนโยบายการเงิน ธนาคารแห่งประเทศไทยอาจจะปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 2 ครั้ง ที่ 2% เพราะมีความกังวลเรื่องความเสี่ยงต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจมากขึ้น เนื่องจากการคงอัตราดอกเบี้ยไว้ระดับต่ำเป็นเวลานาน อีกทั้งยังมีความผันผวนในภาคอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเกิดจากการซื้อเก็งกำไรและพฤติกรรมของการแสวงหาผลตอบแทนที่สูงขึ้นซึ่งอาจนำมาซึ่งความเสี่ยง โดย คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) มีความเห็นว่ามาตรการที่รอบคอบแบบมหภาคอย่างเดียวไม่เพียงพอจะดูแลความเสี่ยงเหล่านั้น การประชุม กนง. ในเดือนกุมภาพันธ์ที่จะถึงนี้ คาดว่าจะมีการส่งสัญญาณหลังจากที่กระบวนการปรับอัตราดอกเบี้ยให้อยู่ในระดับปกติเริ่มขึ้นเมื่อปลายปีที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ช่วงเวลาที่ประเทศไทยมีดุลบัญชีเดินสะพัดที่เข้มแข็งได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้ว เพื่อสะท้อนปัจจัยเหล่านี้ จึงได้ปรับลดประมาณการดุลบัญชีเดินสะพัดในปี 2562 ลงมาอยู่ที่ 5.0% ของจีดีพี จากเดิมที่มองไว้ที่ 7.0%โดยค่าเฉลี่ยของตลาดอยู่ที่ 8%
