เกษตรกรผู้ปลูกข้าวโพด วอนหาวิธีกำจัดหนูหลังกองทัพหนูกินข้าวโพดหมดไปกว่า 20 ไร่ นายภัทรพงศ์ กมล อายุ 50 ปี เจ้าของไร่ข้าวโพดที่ ปลูกไว้ 20 ไร่ บริเวณหมู่ 2 ต.บ้านนา อ.ศรีสำโรง จ.สุโขทัย วอนหาวิธีกำจัดหนูที่มากัดกินข้าวโพดที่ปลูกไว้เพื่อขายเป็นอาหารสัตว์ เสียหายไปแล้วกว่า 70 % และข้าวโพดที่ปลูกไว้พร้อมจะเก็บเกี่ยวขายได้ในอีก 2 สัปดาห์ นายภัทรพงศ์ กล่าวว่าครั้งนี้ตนเองต้องสูญเงินแสน โดยไม่สามารถแก้ไขได้ แถมซ้ำยังมีอีกข้าวโพดที่ปลูกไว้อีกแปลงประมาณ 30 ไร่ ที่จะสามารถเก็บเกี่ยวได้ในอีกสองเดือนหน้า เจ้ากองทัพหนูก็เริ่มเคลื่อนทัพเข้าไปกัดกินบ้างแล้ว ซึ่งนายภัทรพงศ์ ยังกล่าวอีกว่าการปลูกข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ นั้นจะมีบริษัทมารับซื้อ ปลูกในระยะเวลา 90 วัน และขายทั้งฝักและต้นสด ในพื้นที่ 1 ไร่จะได้ผลผลิต 30,000 กก. ขายเป็นต้นสดได้ราคา กก.ละ 1 บาท หักต้นทุนค่าใช้จ่ายทั้งหมดกำไรเฉลี่ยไร่ละ 4,000 บาท ครั้งนี้มาเจอกองทัพหนูบุกไร่ข้าวโพดของตน ตนเองก็ได้ปรึกษาทางบริษัทที่รับซื้อให้มาช่วยรับซื้อข้าวโพดพร้อมต้นสดในช่วงนี้ แต่ก็ได้รับการปฎิเสธ เนื่องจากข้าวโพดยังไม่ได้ระยะเวลาที่ตกลงกันไว้ อีกทั้งในส่วนที่พร้อมจะเกี่ยวได้ ที่ข้าวโพดโตเป็นฝักใหญ่แล้ว ก็จะโดนกองทัพหนูกัดกินไปจนหมดมองไปทางไหนก็จะเห็นเป็นฝักที่โดนหนูแทะกัดกิน ส่วนที่เหลือยังคงเป็นฝักอ่อนที่ไม่สามารถนำไปอัดเป็นอาหารสัตว์ได้ เพราะยังโตไม่เต็มที่ ยังมีน้ำนมข้าวโพดเยอะจะทำให้ชื้นและขึ้นรา ไม่สามารถนำไปเป็นอาหารสัตว์ได้
ส่วนแนวทางป้องกันต้นเองนั้นนายภัทรพงศ์ กล่าวว่า ได้พยายามช่วยเหลือตัวเองด้วยการใช้ยาฆ่าแมลงฉีดพ่น วางยาเบื่อ ใช้ปืนลมยิง ใช้หนังสติ๊ก และใช้กับดักจับหนู จนถึงใช้ลวดไฟฟ้าช็อต คืนหนึ่งจะสามารถเก็บซากหนูที่ดักด้วยลวดไฟฟ้าได้ 4-5 ถุงปุ๋ย ถุงหนึ่งหนักประมาณ 100 กิโลกรัม ได้หนูประมาณวันละ 500-600 ตัว เคยถึงขนาดทำหนูย่างส่งไปให้แม่ค้าขาย แต่ที่สุดก็หมดแรง ทำมาทุกรูปแบบทุกวิธีที่มีคนแนะนำ แต่ก็ไม่สามารถลดปริมาณหนูลดลงได้เลย จนถึงวันนี้จำต้องปล่อยไร่ข้าวโพดให้หนูกัดกินตามสบาย แม้จะเสียดายก็ตาม อีกทั้งหนูเป็นสัตว์ฉลาดที่เรียนรู้เร็ว และเปลี่ยนพฤติกรรมไปได้ตลอดเวลา นายภัทรพงศ์ ยังได้วอนขอความช่วยเหลือไปยังหน่วยงานองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อบต.และหน่วยงานที่เกี่ยวของให้เข้ามาดูในพื้นที่ โดนเฉพาะคูคลองร้างมีวัชพืชขึ้นเต็มจนกลายเป็นที่อยู่อาศัยของหนู งู และสัตว์อันตรายต่างๆ หากมีการขุดลอกคลองกำจัดวัชพืชที่กองสุมไว้ออกไปได้บ้างก็จะทำให้คูคลองที่ลกร้างกลับมาสวยงาม ไม่เป็นแหล่งเพาะพันธ์ของหนูและสัตว์มีพิษ รวมถึงโรคฉี่หนูที่จะตามมาในหน้าฝน เมื่อหนูไม่มีที่อาศัยและแหล่งเพาะพันธ์ ปัญหาการที่กองทัพหนูบุกเข้ามากัดกินพืชไร่ของเกษตรกรก็จะลดลงได้ในที่สุด
ทางด้านนางสาววิมล ไพรวัลย์ นักวิชาการส่งเสริมการเกษตรปฎิบัติการสำนักงานเกษตรจังหวัดสุโขทัย ได้ลงพื้นที่ ให้ความรู้แก่เกษตรกร พบว่าบริเวณรอบแปลงข้าวโพดเป็นพื้นที่รกร้าง เหมาะกับการทำรังของหนูนา และหนูหริ่ง ที่ยกกองทัพเข้ามาทำลายข้าวโพด ซึ่งเกษตรกรต้องอย่าปล่อยให้พื้นที่ตัวเองเป็นไข่แดงให้หนูโจมตี การปลูกข้าวโพดควรมีการเว้นระยะห่าง และหมั่นเก็บวัชพืชที่ขึ้นรก เพราะเป็นแหล่งอาศัยของหนู อีกทั้งฝากให้นายบัวโรย อ่อนกล ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้านประสานไปยัง อบต.บ้านนา ให้นำเครื่องจักรกลเข้ามาขุดลอกคลองที่มีลักษณะหัวด้วนท้ายด้วน ซึ่งเป็นคลองที่ไม่มีน้ำไหลผ่าน รอบบริเวณแปลง อีกทั้งยังได้ฝากให้เกษตรกรคำนึงถึงการขยายพันธ์ของหนูที่สามารถออดลูกได้ตลอดเวลา คอกละ7-8 ตัว ตั้งท้องได้เดือนละครั้ง เท่ากับใน 1 ปี หนู 1 ตัว สามารถเพิ่มประชากรหนูได้ถึง 100 ตัวต่อปีทีเดียว
ศรีสุดา ชัยวงศ์ศรีอรุณ ผู้สื่อข่าวภูมิภาค จังหวัดสุโขทัย
