นายสุริยะใส กตะศิลา รองคณบดีฯ วิทยาลัยนวัตกรรมสังคม ม.รังสิต และ ผอ.สถาบันปฏิรูปประเทศไทย (สปท.) กล่าวถึงการเลือกตั้งที่จะมาถึงนี้นับวันยิ่งเห็น ภาพชัดเจนขึ้นว่า สุดท้ายแล้ว เราจะเป็นกระแสของการพยายามที่จะให้ประชาชนเลือกระหว่างฝ่ายประชาธิปไตยกับฝ่ายทหาร ซึ่งตนเคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่ากระแสนี้จะเป็นกระแสเดียวที่ นายทักษิณ ชินวัตร พยายามที่จะผูกตรึงไว้ในเวทีการเมืองไทยจนกว่านายทักษิณ จะบรรลุจุดมุ่งหมายทางการเมืองนั่นคือการกลับประเทศอย่างผู้ชนะตามที่ได้ประกาศไว้ก่อนหน้านี้ และไม่แปลกใจจากนี้ไปบทบาทของนายทักษิณจะถี่ขึ้นเข้มข้นขึ้น เพื่อสร้างความได้เปรียบให้กับพรรคการเมืองที่เขาบงการอยู่และเอาเข้าจริงๆ คณะกรรมการเลือกตั้ง หรือ กกต. ต้องตรวจสอบเหมือนกันว่า นายทักษิณกำลังหาเสียงให้กับพรรคการเมืองใดอยู่หรือไม่ นอกเหนือจากการตรวจสอบความผิดกรณีคนนอกเข้ามาบงการพรรค
นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า นายทักษิณ พยายามสร้างเส้นแบ่ง สร้างขั้วสร้างค่ายทางการเมืองด้วยคำว่าประชาธิปไตย แต่ในขณะเดียวกันพรรคที่ตัวเองสั่งการอยู่กลับยังไม่เห็นความพยายามที่จะปฏิรูปพรรคเช่น การเลือกหัวหน้าพรรค ที่คนในพรรคไม่ได้มีส่วนร่วมการปฏิเสธการทำไพรมารีโหวต การสร้างวัฒนธรรมประชาธิปไตยในพรรค และความเป็นเจ้าของพรรค ถ้าประชาชนจะจำแนกว่าพรรคใดเป็นฝ่ายประชาธิปไตยที่แท้จริงไม่ใช่แค่โวหารนั้น ก็ต้องดูกลไกในพรรคได้รองรับการมีส่วนร่วมและความเป็นเจ้าของพรรคของสมาชิกหรือไม่ แค่นี้ก็พอจะแยกได้ว่า พรรคใดกันแน่ที่ควรอยู่ฝ่ายประชาธิปไตยที่แท้จริง
