สุรินทร์กักตัวเองได้แม้ไฟฟ้าไม่มีน้ำประปาใช้สูบเอา เน้นรับผิดชอบสังคม

จากมาตรการเข้มงวดของจังหวัดสุรินทร์ และให้ความสำคัญกับการเว้นระยะห่างทางสังคม เพื่อสกัดกั้นและควบคุมการระบาดของโควิด-19 ไม่ให้แพร่กระจายในวงกว้าง . วันที่ 4 เม.ย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่บ้านนาดี หมู่ 1 ต.หนองระฆัง อ.สนม จ.สุรินทร์ ก็ใช้มาตรการเฝ้าระวังอย่างเข้มงวด หากคนในชุมชนออกไปต่างจังหวัด หรือเข้าในพื้นที่หมู่บ้านก็ต้องแจ้งผู้ใหญ่บ้านทราบ และหากเป็นจังหวัดพื้นที่เสี่ยง ทางหมู่บ้านจะขอให้กักตัว 14 วัน เฝ้าดูอาการ

นายอนันตชัย สอนสมนึก สารวัตรกำนันตำบลหนองระฆัง อ.สนม กล่าวว่า หมู่บ้านได้ประชาคมในการเฝ้าระวัง หากพบกลุ่มเสี่ยงก็จะให้กักตัว 14 วัน ซึ่งมีกลุ่มเสี่ยงอยู่ 8 คน และทั้งหมดก็ยอมกักตัว โดยทั้งหมดจะไม่อยู่ในบ้านเพื่อเลี่ยงพบปะผู้คนจะไปกักตัวอยู่ที่ทุ่งนา พร้อมกับพาผู้สื่อข่าวไปดูสถานที่กลุ่มเสี่ยงกักตัวซึ่งอยู่ท้ายหมู่บ้าน ห่างจากหมู่บ้านประมาณ 800 เมตร

ผู้กักตัวหญิงสาว 2 คน ซึ่งยินดีให้ผู้สื่อข่าวถ่ายภาพ ได้กักตัวอยู่ในเถียงนา มีถ้วยชาม กองไฟใช้สำหรับต้มบะหมี่กึ่งสำเร็จรูปยามหิว ไม่มีพัดลมและเครื่องใช้ไฟฟ้า ส่วนน้ำที่ใช้อาบน้ำซักผ้า ก็สูบขึ้นมาใส่ถังไว้ หญิงสาวบอกว่า สุขสบายดี เราต้องรับผิดสอบต่อสังคม โดยทั้งคู่กักตัวได้ 4 วันแล้ว

ส่วนอีกรายซึ่งเป็นกลุ่มเสี่ยงที่กักตัวอยู่เถียงนาห่างกันประมาณ 200 เมตร คือ นายวันชัย สง่างาม อายุ 52 ปี โดยนายวันชัย บอกว่า ตนเดินทางมาจากชลบุรี ตั้งแต่วันที่ 26 มี.ค. มาถึงสุรินทร์ 27 มี.ค. กักตัวได้ 7-8 วันแล้ว อยากฝากถึงทุกคน ให้รักษาดูแลสุขภาพตัวเอง ให้ทำตามกฎของเจ้าหน้าที่และทางรัฐบาลที่มีนโยบายออกมา เราต้องร่วมด้วยช่วยกัน เพื่อจะผ่านเหตุการณ์นี้ไปได้ด้วยดี