สุรชัย แซ่ด่าน : พบดีเอ็นเอ 1 ใน 2 ศพนิรนามที่พบในแม่น้ำโขงคือชายคนสนิท
สุรชัย แซ่ด่าน – เป็นเวลา 41 วันแล้ว ที่นายสุรชัย แซ่ด่าน หรือ สุรชัย ด่านวัฒนานุสรณ์ และนักกิจกรรมอีกสองคนที่ใช้ชื่อจัดตั้งว่า “ภูชนะ” และ “กาสะลอง” หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยหลังจากที่หนีภัยไปอยู่ประเทศลาว
ก่อนหน้านี้ ระหว่างวันที่ 27 และ 29 ธ.ค. 2561 มีผู้พบศพชายนิรนามที่ถูกฆ่าในลักษณะเดียวกันทั้งหมด 2 ราย ลอยมาตามแม่น้ำโขงและถูกพบที่ จ.นครพนม ซึ่งอยู่ในความดูแลของสถานีตำรวจภูธรเมืองนครพนม และสถานีตำรวจภูธรธาตุพนม โดยลักษณะศพมีการใส่กุญแจมือ คว้านท้องแล้วยัดด้วยเสาปูนถ่วงแม่น้ำ ซึ่งขณะนั้นก็มีข่าวลือว่าหนึ่งในนั้นอาจจะเป็นศพของนายสุรชัย
- สุรชัย แซ่ด่าน : ภรรยาไม่ปักใจสามีคือ 1 ใน 2 ศพนิรนาม แต่เชื่อสามี “ถูกอุ้ม” ในลาว
- 4 ปีรัฐประหาร: ชะตา 3 ผู้ลี้ภัยการเมืองใน 3 ประเทศ
ล่าสุด วันนี้ (21 ม.ค.) ลูกชายของภูชนะกล่าวกับบีบีซีไทยว่า เมื่อประมาณ 9.00 น. ตำรวจ สภ.ธาตุพนม ได้โทรมาแจ้งว่า ผลการตรวจดีเอ็นเอจากไขกระดูก หรือผลการพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล ระบุว่า มีความเกี่ยวพันทางสายเลือดกับเขา
“เขาบอกว่าดีเอ็นเอแมทช์ (ตรง) กัน” ลูกชายภูชนะ ซึ่งขอไม่เปิดเผยชื่อจริง กล่าวกับบีบีซีไทย
ระบุยังไม่รับทราบผลตรวจ คาดอีก 4-5 วันรู้ผล
บีบีซีไทยได้สอบถามไปยัง พ.ต.อ.เกียรติภูมิ สุวรรณไตรย์ ผู้กำกับ สภ.เมืองนครพนม และ พ.ต.อ.จุลฤทธิ์ จุลกะ ผู้กำกับ สภ.ธาตุพนม ซึ่งทั้งคู่รับผิดชอบดูแลพื้นที่ ที่พบศพดังกล่าวระบุว่า ในขณะนี้ ยังไม่ได้รับผลตรวจดีเอ็นเอ แต่ พ.ต.อ.เกียรติภูมิกล่าวว่า อีก 4-5 วันถึงจะรู้ผลตรวจดีเอ็นเอของศพที่อยู่ในความรับผิดชอบของ สภ.เมืองนครพนม
นางปราณี ด่านวัฒนานุสรณ์ ซึ่งขณะนี้อยู่ในวัยย่าง 60 ปี ภรรยาของนายสุรชัย กล่าวกับบีบีซีไทยว่า ถ้าหากผลตรวจดีเอ็นเอของอีกศพหนึ่งเป็นของกาสะลองจริง คงไม่ต้องสงสัยเลยว่านายสุรชัยจะถูกกระทำเหมือนกันด้วย เพียงแต่ไม่เห็นซากศพเท่านั้น
ภรรยาของสุรชัยเผย “กำลังทำใจ”
“ป้ารู้สึกหดหู่เศร้าใจมากเลย พูดไม่ค่อยออก ตอนนี้ก็กำลังทำใจ รับได้ทั้งข่าวดีและข่าวร้าย” เธอกล่าวกับบีบีซีไทย
เธอกล่าวว่า หากอีกศพหนึ่งไม่ใช่ของกาสะลอง ก็เป็นไปได้ที่ภูชนะแยกตัวออกมาหลังจากออกจากบ้าน
“ถ้าไม่เห็นศพ (ของคุณสุรชัย) นี่ก็สันนิษฐานได้สองอย่างว่า หนึ่ง ถูกฝังไว้มิดชิดจนไม่สามารถจะสืบหาได้ กับอีกกรณีหนึ่งก็คือ ยังไม่ทำการฆ่าคุณสุรชัย อย่างที่ป้าเคยภาวนาไว้ว่า เขาอาจจะถูกกักขังไว้ที่ใดที่หนึ่ง” นางปราณี กล่าว
“การจะลงมือสังหารนักปฏิวัติที่ต่อสู้มายาวนานอย่างนี้มันก็ต้องมีผลสะเทือนบ้างไม่มากก็น้อยเพราะคุณสุรชัยเป็นนักต่อสู้มา เป็นที่รู้จักกันทั้งในและต่างประเทศ แม้จะเสียไปแล้ว หรือว่ายังมีชีวิตอยู่ พวกเราก็ยังต้องติดตามสืบค้น เรียกร้องหาความเป็นธรรมต่อไปอีก ก็ไม่รู้จะนานเท่าไร”
จากข่าวที่ปรากฏทางสื่อ นายสุรชัยนับเป็นนักกิจกรรมทางการเมืองรายที่ 5 ที่มีการหายตัวไปในประเทศเพื่อนบ้านในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา
ผู้ที่ใช้ชื่อในเฟซบุ๊กว่า “ภูผาเสรี สะเร็น” ซึ่งเป็นหนึ่งในคนสนิทของนายสุรชัย กล่าวกับบีบีซีไทยว่า ทันทีทีได้รับข่าวจากเพื่อนที่ลี้ภัยด้วยกัน รู้สึกตกใจ แต่ก็ทำใจเอาไว้ก่อนแล้ว เพราะการหายไปเป็นเดือนโดยที่ไม่ได้ติดต่อใครเลยนั้น เหมือนกับการถูกอุ้มไป และโอกาสรอดคงมีน้อย