โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

"สุรชัย" กลัวแก่ ไม่กลัวตาย ทุบหน้ารอบ 2 เตรียมผ่าซิกแพ็ก จวกคนแฉเฟซออฟ "ดร.เซปิง" เปลี่ยนคนให้เป็นผี ทำไมเฟก!

Manager Online

เผยแพร่ 20 ส.ค. 2562 เวลา 18.09 น. • MGR Online

"สุรชัย" ทุบหน้ารอบ 2 กระชากวัยลงอีก 10 ปี พิสูจน์เฟซออฟไม่ใช่ศัลยกรรมเปลี่ยนคนให้เป็นผี เตรียมผ่าทั้งร่างทำซิกแพ็ก จวกคนแฉ "ดร. เซปิง" ทำไมเฟก เชื่อมีเบื้องหลัง ทำร้ายกันเพื่อผลประโยชน์ ด้าน ดร.เซปิง เจ็บปวด ถูกสังคมพิพากษา เครียด 5 เดือน งัดหลักฐานโต้แหลก

ไม่กลัวตาย แต่กลัวแก่ ลูกทุ่งดัง "สุรชัย สมบัติเจริญ" หลังเคยศัลยกรรมเฟซออฟไปเมื่อปี 2559 กระชากวัยลง 30 ปี ผ่านมา 3 ปี ลูกทุ่งดังลงทุนทุบหน้าอีกครั้ง ลดวัยไปอีก 10 ปี อีกทั้งครั้งนี้ เจ้าตัวจะขอสานฝันผ่าทั้งร่างอีก 10 จุดศัลยกรรมซิกแพ็ก โดยล่าสุดสุรชัย ได้อวดลุคใหม่ มาพร้อม "ดร.เซปิง ไชยศาสน์" ประธานโครงการเฟซออฟ ซึ่งถือโอกาสเคลียร์ข่าวฉาว "ศัลยกรรมหน้าผี" พร้อมงัดหลักฐานเด็ดแหกลับคู่กรณี

ดร.เซปิง : "วันนี้รู้สึกภูมิใจมากๆ เลยค่ะที่ได้มีโอกาสพูดคุยอย่างมีความสบายใจมากยิ่งขึ้นจากเหตุการณ์ที่ผ่านมา ก็อยู่กับความเครียดมา 5 เดือนเต็มๆ ค่ะ ตั้งแต่วันที่ 19 มีนาคม ที่รายการดังรายการหนึ่งได้ออกอากาศไป หลังจากนั้นโครงการเฟซออฟของเรามันเปลี่ยนแปลงไปมากเลยค่ะ"

"เราเองก็ใจหายในเรื่องของการถูกสังคมมองเราอย่างไรบ้าง แต่ในวันนี้ก็ดีใจที่คุณสุรชัยยังคงเชื่อมั่นกับโครงการเฟซออฟอยู่ค่ะ และได้กลับมาเข้ารับการผ่าตัดครั้งที่สอง ซึ่งเพิ่งจะผ่าตัดเสร็จไปไม่นานนี้เองนะคะ ก็ต้องขอบพระคุณคุณสุรชัยนะคะ"

"จริงๆ วันนี้ก็ยังไม่พร้อม แต่ที่ผ่าตัดไปอีกครั้งก็เพราะอยากจะดูดีขึ้น ก็รู้สึกดีใจมากที่คุณสุรชัยให้ความไว้วางใจให้ดร.เซปิงให้คำแนะนำในการทำผ่าตัดให้ตัวเองดูหนุ่มและดูดีขึ้น ผลการผ่าตัดเป็นยังไงบ้างคะ"

สุรชัย : "การผ่าตัดก็ดีครับ เพราะจากครั้งแรกมาก็ได้เปลี่ยนชีวิตเราได้หลายๆ อย่าง 3 ปีกว่าแล้วนะครับจากวันนั้นจนถึงวันนี้ น้องดร.เซปิงก็ให้คำแนะนำที่ดีนะครับ ก็ผ่าตัดอีกครั้งนึงเพื่อให้มันกระชับขึ้นกว่าเก่าและดูดีกว่าเก่า ก็ทำให้เรามีความสุขและเราแฮปปี้ ก็ไม่น่าจะต้องคิดอะไรมาก"

"และมาทราบข่าวที่เกิดขึ้นก็รู้สึกเสียใจเหมือนกันว่าเกิดอะไรขึ้น ตอนแรกก็ยังนึกเป็นห่วงเหมือนกัน พอได้ดูได้เห็นความจริงแล้ว ผมก็อยากจะให้ทุกคนได้ดูคลิปกัน เพราะผมพูดเองคงไม่ได้ ยังไงเราก็หนีความจริงไปไม่พ้นนะครับ แล้วก็ตกใจในเรื่องของทางเจ้าหน้าที่ในการเข้าไปลงตรวจจับกัน ก็ทำให้เรารู้สึกเป็นห่วงคนที่เขาไม่ได้ทำผิดกฎหมาย ไม่ได้เป็นคนฆ่าคนตาย ไม่ได้ค้ายาเสพติด ไม่ได้ค้าประเวณี แต่ถูกสังคมทำเหมือนเป็นอาชญากร ก็เลยโทรศัพท์ถามกัน"

"แต่ก็ไม่ว่ากันนะครับเรื่องของกฎหมาย แต่ผู้หญิงคนเดียวน่าจะอลุ่มอล่วยกัน หรือมีจดหมายสักฉบับหนึ่งถึงทนายความเข้า สังคมก็อาจจะมองดูว่ามันโหดร้ายเหลือเกิน ว่าฉ้อโกง แล้วฉ้อโกงแบบไหน จึงเกิดวันนี้ขึ้นมาเพื่อจะทำให้ทุกๆ คนได้ทราบถึงความจริง เพราะที่ผ่านมาผมก็เห็นว่าหลายๆ ท่านที่ประสบความสำเร็จจากความสุขที่ได้รับการดูแลจากน้องด็อกเตอร์ ก็ไม่ต่างอะไรกับผมเหมือนกัน พอผมกลับมาอีกครั้งท่านก็ดูแลตลอด"

"และโดยเฉพาะเราเองอยู่ในสื่อของสังคม ก็อยากจะทำอะไรที่มันมีการพัฒนา เพราะผมมาทำตอนที่ผมอายุเยอะแล้ว ผมทำตอนที่ผมอายุ 60 แล้ว นี่ก็ล่วงเลยมา 3 ปีครึ่งแล้ว ฉะนั้นก็อยากให้สังคมเห็นใจน้องดร.เซปิงนะครับ ผมเองก็อยากจะให้ความจริงปรากฎ"

"และจริงๆ น้องเขาก็ไม่อยากเอาเบื้องหลังที่มีข้อเท็จจริงมาออก ผมก็ถามว่าทำไมไม่เอาข้อเท็จจริงให้สังคมเขารู้ เขาก็บอกว่าสงสารคนที่ออกมาพูดเท็จ แต่ผมก็บอกว่าบางครั้งเราก็จำเป็นเหลือเกินที่จะต้องเอาความจริงออกมาให้สังคมได้รับทราบ ไม่อย่างนั้นก็จะถูกรังแกอยู่อย่างนี้ตลอดเวลา ผมว่ามันอาจจะมีอะไรเบื้องหลังอยู่ข้างในนะครับ อันนี้ก็แล้วแต่มุมมองของแต่ละท่านก็แล้วกัน ผมคิดว่าวันนี้เป็นวันที่หลายๆ ท่านได้รับทราบ รู้ข่าวความเป็นจริงที่อยากนำเสนอให้ทุกๆ ท่านได้ทราบถึงที่มาที่ไปกันจากวันนั้นจนถึงวันนี้ครับ"

ดร.เซปิง : "ขอบพระคุณมากค่ะสำหรับกำลังใจนะคะ"

ทนาย : "อย่างน้อยๆ คุณสุรชัยก็เชื่อมั่นในการที่ทำมาครั้งที่แล้ว"

สุรชัย : "ก็จากโรงพยาบาลที่มีชื่อเสียงทั่วโลก กับคุณหมอที่มีความสามารถ มีแต่คนประสบความสำเร็จเยอะแยะไปหมด แต่มีอยู่ส่วนหนึ่งที่อาจจะมีอะไรอยู่เบื้องหลังหรือเปล่า ผมไม่แน่ใจนะครับ ท่านลองดูเอาก็แล้วกันนะครับ"

คอนเฟิร์มเฟซออฟ ไม่ใช่ศัลยกรรมหน้าผี งงคู่กรณีเซปิงทำไมเฟก

ดร.เซปิง : "ตกลงไม่เป็นหน้าผีนะคะ (หัวเราะ)"

สุรชัย : "(หัวเราะ) ไม่ครับ ก็ได้เห็นที่เขาบอกว่าผ่าออกมาแล้วเป็นหน้าผี ผมก็งงว่าทำไมถึงเฟกกันได้ขนาดนี้ ทำร้ายกันเพื่อผลประโยชน์อะไรกัน มีใครอยู่เบื้องหลังอะไรหรือเปล่า อันนี้ก็ปล่อยเป็นหน้าที่ของพี่จำนง ทนายความก็แล้วกันในเรื่องของกฎหมาย ให้ไม่ต้องมารังแกกัน อยู่ในความยุติธรรมซึ่งกันและกันครับ"

ทนาย : "จริงๆ แล้วเรื่องกฎหมายเราไม่ได้กังวล แต่สิ่งที่กังวลคือคำพิพากษาจากประชาชน คือความเสียหายมันเกิดขึ้นทุกวัน ถ้าตราบใดที่เรายังไม่เอามาปรากฎให้สังคมได้เห็นบ้าง กว่ากระบวนการจะถึงที่สุดมันต้องใช้เวลา 3-5 ปี บางคดีเป็น 10 ปี ก็เลยคิดว่าเมื่อวันนี้เรามีความจริงอยู่บางสิ่งบางอย่างก็ควรที่จะให้สื่อมวลชนได้เห็น แม้จะเป็นบางส่วนในทางคดี แต่พอเป็นความเสียหายแล้วก็คงต้องให้ดูบ้าง สื่อมวลชนจะได้เอาไปประกอบว่าใครพูดอะไร และความจริงคืออะไร"

เจ็บปวดถูกสังคมพิพากษาหลอกลวง ฉ้อโกงประชาชน

ดร.เซปิง : "ต้องทนเจ็บปวดกับสังคมมากๆ กับคำพิพากษาของสังคมนะคะ ว่าดร.เซปิงเป็นคนหลอกลวงและฉ้อโกงประชาชน และได้มีกลุ่มผู้เข้าร่วมโครงการได้ไปออกรายการโหนกระแส และได้พูดกล่าวหาว่าดร.เซปิงทำร้ายพวกเขาจนกลายเป็นหน้าผี บางคนก็บอกว่าหน้าเบี้ยว จมูกไม่เท่ากัน หน้าเป็นตื้นตะปุ่มตะป่ำ ต้องใช้ผมปิดหน้า น้ำหนักผมจนตัวเล็กผิดปกติเหลือ 38 กก."

"แล้วเดี๋ยวความจริงเราจะได้ฟังไปพร้อมๆ กัน ก็จะขออนุญาตเปิดหลักฐานความจริงให้ได้ชมเดี๋ยวนี้เลย ด้วยคลิปที่ทุกๆ ท่านที่ได้ไปออกในรายการโหนกระแส ได้พูดเอาไว้ถึงปัญหาของตนเองก่อนเข้ารับการผ่าตัดกับโครงการเฟซออฟ ว่าพวกเขาเหล่านั้นมีปัญหาอะไรกันมาบ้าง"

ทนาย : "จริงๆ พวกนี้เป็นภาพทางคดีนะครับ แต่พอมันมีปัญหาอย่างนี้ผมก็เลยอนุญาตให้เปิดเผยได้บ้าง และมีภาพที่เกี่ยวข้องอีกจำนวนไม่น้อยนะครับ อย่างน้อยก็จะได้ให้สื่อเห็นว่าความจริงมันคืออะไร แต่ถ้าวันหนึ่งศาลยกฟ้องจนเสร็จหมดทุกอย่างแล้ว วันนั้นไม่สามารถอธิบายได้ และความเสียหายมันเยอะ ก็เลยถือโอกาสวันนี้ได้ชี้แจงครับ"

เสียงสั่น ศัลยกรรมดี ไม่อยากให้ทำร้ายกัน

ดร.เซปิง : "อยากให้ประเทศไทยช่วยกันสนับสนุน ศัลยกรรมของเราดีนะคะ แต่ไม่อยากให้ทำลายกันและกันเองในประเทศของเรา (เสียงสั่น) เราจะสู้เขาไม่ได้ นั่นคือความตั้งใจจริงๆ ค่ะ ซึ่งในส่วนของคุณสุรชัยเร็วๆ นี้เราก็กำลังจะมีการผ่าตัดรอบที่สามค่ะ อยากหนุ่มทั้งหน้า รวมถึงร่างกายด้วยคุณสุรชัยก็ตั้งใจที่จะทำในเรื่องของซิกแพ็กก่อน ปกติแล้วผู้ชายทั่วไปที่อายุไม่เยอะกล้ามเนื้อท้องแข็งแรงก็ทำซิกแพ็กได้เลยนะคะ แต่อันนี้ต้องเตรียมร่างกายก่อน เพราะมีรายละเอียดจุดในรายการอีก 10 กว่า​รายการ และมีในเรื่องของการเสริมจมูกด้วยค่ะ"

มีความสุขก็ทำ ตายไปก็เอาเงินไปไม่ได้ เตรียมทำซิกแพ็กไปอวดเพื่อนๆ ออกกำลัง ดูดไขมันคงไม่ไหว

สุรชัย : "อะไรก็ได้ที่มันมีความสุขก็ทำ เพราะผมตายไปผมก็เอาเงินไปไม่ได้ ลูกๆ ผมก็บอกว่าพ่ออยากทำอะไรก็ทำไป ผมก็ได้น้องดร.เซปิงดูแลผม เรื่องปัจจัยอะไรต่างๆ ท่านก็ดูแลให้เป็นพิเศษ ก็ทำให้เรารู้สึกว่าเรายังพอมีกำลังที่จะทำอะไรให้กับตัวเองได้ ก็ให้เป็นของขวัญสำหรับตัวเรา"

"จะบอกว่าเสพติดศัลยกรรมไหม คือบางคนก็อยากได้ในสิ่งที่ต้องการนะครับ เพราะเราเป็นนักแสดงก็ไม่อยากจะตกยุค ตกวัย เวลาไปแสดงดนตรีหรือแสดงละคร เดี๋ยวนี้ถ้าเราไปเสียเวลาทำซิกแพ็ก 4-5 ปีมันก็ไม่ขึ้น เพราะมันไม่ใช่ง่ายๆ หนุ่มๆ เขายังไม่ง่ายเลย แล้วอายุอย่างผมล่ะ"

"แต่เดี๋ยวนี้มันลัดเวลา ลัดโอกาส ก็ทำให้มันเกิดขึ้นได้ จริงๆ ต่างประเทศเขามีมานานแล้วนะ และเดี๋ยวนี้หมอไทยเราก็เก่ง ผมก็ตัดสินใจทำเลยเพราะเห็นน้องที่นี่คนนึงไปทำมา สวยมากนะครับ ก็คิดว่าถ้าเรามีซิกแพ็กเนี่ย ผู้ชายวัยอย่างผมก็อยากมีจะมีซิกแพ็กไปอวดเพื่อนๆ แล้วมันก็สบายใจกับตัวเราเอง ก็ลองดูครับไม่เห็นเสียหายอะไร เห็นน้องเขาทำมันก็สวยดี ถ้าเราไปนั่งรีดไขมัน ดูดไขมันก็ช้า แต่ถ้าเราทำได้แล้วดูดีดูเฟิร์มก็โอเค"

"ก็ลองเอามาปรึกษาน้องดร.เซปิงว่าวัยอย่างผมสามารถทำได้ไหม ก็ไปปรึกษาคุณหมอด้วยนะครับ คุณหมอก็บอกว่ายังพอได้อยู่เพราะเรายังไม่ถึงกับอ้วนเกินไป ก็อยากจะให้สังคมได้รับรู้นะครับ สงสารน้องเขา โทร.มาปรึกษาร้องไห้ใหญ่เลย ผมก็เลยบอกว่าใจเย็นๆ กว่าคนจะรู้ความจริง กว่า​คดีจะจบ 4-5 ปีจะจบหรือยังก็ไม่รู้"

สู้คดีกันต่อ โต้ฉ้อโกง

ทนาย : "ในมุมคดีก็ต้องสู้กันไปนะครับ อย่างการกล่าวหาว่าฉ้อโกงประชาชนเนี่ย ถ้าดูหลักฐานแล้วมันฉ้อโกงตรงไหน ที่เขากล่าวว่ามาแล้วทำหน้าเขาไม่ดี คือทำแล้วมันต้องดูก่อนดูหลัง เราก็จะเห็นได้ชัดตรงไปตรงมาแล้ว ในเมืองไทยนี่ก็กล่าวหาไว้ก่อน คนเสียหายก็เสียหายไปแล้ว ผมก็มีความมั่นใจว่าความยุติธรรมนั้นเราสามารถพิสูจน์ได้"

"การฉ้อโกงประชาชนก็อย่างเช่นว่าเอาสตางค์เขามา แล้วไม่พาเขาไปทำ อันนั้นเป็นได้ หรือว่าแทนที่จะพาไปทำกับหมอเก่งๆ หมอดีๆ ก็ไปทำกับหมอห้องแถวหรือคนไม่ใช่หมอ นั่นเขาก็หาว่าฉ้อโกงเขา อันนี้เขาผ่านโครงการ พาไปโรงพยาบาลระดับมาตรฐาน JCI หมอก็จบแพทย์ศัลยกรรมโดยตรง แพทย์ก็มีสองแบบ แพทย์ที่จบแพทย์ธรรมดา เรียน 8 ปี อาจจะมีอบรมอีก 2 ปีก็เป็น 10 ปี แต่แพทย์ศัลยกรรมโดยตรงเขาเรียนประมาณ 12 ปี เขาก็ส่งไปยังแพทย์ศัลยกรรมโดยตรง"

"เพราะฉะนั้นในมุมคดีผมก็เชื่อในกระบวนการบุติธรรม มันก็อาจจะมีเคส 1 ใน 100 หรือ 1 ใน 1,000 ที่กลับมาให้ดร.เซปิงดูและแก้ไขให้ แต่มันก็มีหลายกรณีอีกเหมือนกัน อย่างเรื่องแผลเป็นมันก็เกิดได้หลายสาเหตุ"

หมอไม่ใช่เทวดา จะเสกให้จบกระบวนการ ต้องดูแลตัวเองให้ดีด้วย

ดร.เซปิง : "แผลเป็นเกิดได้หลายสาเหตุนะคะ อย่างเช่น ทานอาหารที่มันแสลงต่อร่างกายของเรา และการไม่ดูแลตัวเองให้สะอาด ทุกคนพอผ่านการผ่าตัดแล้วต้องดูแลตัวเอง หมอไม่ใช่เทวดาที่จะเสกให้เราจบกระบวนการ ก็ต้องดูแลตัวเองด้วย เหมือนกับพี่ๆ ทุกท่านที่มาก็ไม่มีรอยแผลเป็นกันนะคะ ประเด็นสุดท้ายคือพันธุกรรมร่างกายของแต่ละท่านไม่เหมือนกันค่ะ พันธุกรรมคนๆ นั้นบังเอิญเป็นแผลเป็นโดยที่ตัวเองไม่รู้ มันก็จำเป็นต้องเป็น แต่เป็นแล้วแก้ไขได้ ขอเพียงกลับมาบอก กลับมาหาสิคะ แต่ไม่ใช่เป็นลักษณะแบบนี้ค่ะ"

ทนาย : "ไม่ใช่มากล่าวหากันแบบนี้ครับ ต้องมาพิสูจน์กันด้วยว่ามันคืออะไร อย่างเช่นคดีนี้ผมเห็นพยานในคดีเอาคู่อริของดร.เซปิงมาเป็นพยานน่ะ ทำไมไม่ใช้แพทยสภา ทำไมไม่เอาแพทย์ที่เป็นกลางเอามาสอบ อย่างนั้นน่ะน่าฟัง อย่างบางเรื่องแพทยสภากล่าวหาดร.เซปิงว่าที่นี่มีการลูบหน้า จับหน้า ทางพยานที่กล่าวหาดร.เซปิงบอกว่าเป็นการแบบนั้นเป็นการทำตัวเป็นแพทย์ แต่แพทยสภาบอกว่าไม่ใช่ ไม่ผิดอันนี้ก็เป็นรายละเอียดที่เราต้องมาสู้กันครับ"

ยืดเยื้อแค่ไหนยังตอบไม่ได้

ทนาย : "มันเดายากนะครับ เพราะศาลเรามีตั้ง 3 ศาล อย่างศาลชั้นต้นเดี๋ยวนี้ก็เป็นปีกว่าๆ แล้ว ศาลอุทธรณ์บางทีก็ปีกว่าเกือบ 2 ปี ขึ้นฎีกาอีกก็ 2 ปี ก็ 4-5 ปีกว่าคดีจะจบ ถึงเวลานั้นคนลืมหมดแล้ว"

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0