21 ม.ค.62- พ.ต.ท.นรินทร์ พุ่มสวัสดิ์ รอง ผกก.(สอบสวน)สภ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร รับแจ้งเหตุมีคนพบศพในร่องน้ำสวนปาล์มน้ำมันริมถนนสายเขาทุเรียน-สถานีรถไฟ หมู่ที่ 7 ตำบลทุ่งตะไคร อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร จึงนำกำลังและหน่วยกู้ภัยทุ่งตะโก ไปตรวจสอบที่เกิดเหตุในร่องน้ำสวนปาล์มใกล้ถนนลูกรัง พบศพนายไกรสร สุทธานี อายุ 16 ปี อยู่บ้านเลขที่ 40/1 หมู่ที่ 7 ตำบลทุ่งตะไคร อ.ทุ่งตะโก จ.ชุมพร โดยบ้านผู้ตายอยู่ห่างจากจุดเกิดเหตุประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นนักศึกษาสาขาช่างยนต์ ระดับ ปวช 1 วิทยาลัยการอาชีพหลังสวน สภาพศพลอยคว่ำหน้าในร่องน้ำใกล้กับท่อระบายน้ำ นุ่งกางเกงสีน้ำเงินเข้มและใส่เสื้อสีน้ำเงินเข้ม สวมรองเท้าผ้าใบสีดำ ซึ่งเป็นชุดช็อปของนักศึกษาสาขาช่างยนต์ เจ้าหน้าที่จึงนำร่างขึ้นจากน้ำ มีบาดแผลถูกยิงที่ขมับด้านขวากระสุนทะลุขมับซ้ายด้วยอาวุธปืนไม่ทราบขนาดจำนวน 1 นัด ตามร่างกายมีรอยเขียวช้ำคล้ายถูกทำร้ายหลายแห่ง คาดว่าตายมาแล้ว 2 วัน เจ้าหน้าที่ส่งศพไปชันสูตรอย่างละเอียดที่โรงพยาบาลทุ่งตะโก สอบถามนายประดิษฐ์ บุทธนา อายุ 41ปี อาชีพรับจ้างทั่วไปผู้พบศพคนแรกกล่าวว่า ช่วงค่ำขณะที่ตนขับรถจักรยานยนต์มากับภรรยา แสงไฟหน้ารถส่องสว่างได้สังเกตเห็นศพลอยอยู่ในร่องน้ำข้างทาง แต่ตนไม่กล้าจอดจึงขับเลยไปหาเพื่อนแล้วแจ้งตำรวจมาตรวจสอบดังกล่าว สำหรับนายไกรสร สุทธานี อายุ 16 ปี นักศึกษาวิทยาลัยการอาชีพหลังสวน อำเภอหลังสวน หายตัวออกจากบ้านตั้งแต่ช่วงเย็นวันศุกร์ที่ 18 ม.ค.62 ที่ผ่านมา หลังจากเลิกเรียนแล้วได้อาศัยนั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์เพื่อนมาลงที่บริเวณสี่แยกเขาปีบ แล้วมีเพื่อนอีกคนขับรถจักรยานยนต์มารับไปส่งที่หน้าวัดถ้ำเขาปีบเพื่อจะรอให้ญาติมารับเข้าบ้าน จากนั้นได้ขาดการติดต่อกับญาติๆทางบ้าน ต่อมาช่วงสายของวันที่ 19 ม.ค.62 ญาติได้ไปแจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.ทุ่งตะโก จนมาพบกลายเป็นศพถูกจ่อยิงขมับลอยอืดอยู่ในร่องน้ำสวนปาล์มดังกล่าว เบื้องต้นคาดว่าคนร้ายมีมากกว่า 1 คน อาจใช้วิธีลวงหรืออุ้มนายไกรศรขึ้นรถยนต์หรือรถจักรยานยนต์ แล้วพาไปจ่อยิงจนตายจากนั้นได้นำศพไปทิ้งในร่องน้ำริมถนนดังกล่าว สันนิฐานอาจจะมาจากเรื่องชู้สาว เนื่องจากผู้ตายเป็นคนรูปหล่อร่างกายสูงใหญ่ มีหญิงสาวมาชอบหลายคน จึงอาจทำให้หนุ่มๆที่ตามจีบหญิงสาวบางคนไม่พอใจจึงลวงมายิงแล้วนำศพมาทิ้งในร่องน้ำดังกล่าว หรืออาจจะมาจากเรื่องความขัดแย้งส่วนตัวกับเพื่อนนักศึกษาหรือกลุ่มวัยรุ่น เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อหาสาเหตุที่แท้ต่อไป.
