วันที่ 23 ก.พ. 62 ผู้สื่อข่าวรายงานว่านางดอกรัก ทองดี อายุ 56 ปี อาศัยอยู่บ้านไม่มีเลขที่ ม.6 ต.บ้านกล้วย อ.เมืองชัยนาท พิการทางการเคลื่อนไหว ถูกลูกสาวแท้ ๆ ทิ้งให้อยู่ตามลำพังมากว่า 2 เดือน ต้องใช้ชีวิตด้วยความยากลำบาก อาศัยข้าวจากเพื่อนบ้านประทังชีวิตอยู่ในแต่ละวัน
ผู้สื่อข่าวจึงเดินทางไปที่บ้านหลังดังกล่าว พบเป็นบ้านปูนชั้นเดียวขนาด 3×3 เมตร มุงด้วยกระเบื้อง สภาพเก่าทรุดโทรม ประตูเป็นสังกะสี ภายในบ้านพบนางดอกรัก ป่วยเป็นโรครูมาตอยด์ มือเกร็งหงิกงอ ขาเดินไม่ได้ ต้องใช้ก้นเคลื่อนที่แทน กำลังนั่งร้องไห้รอลูกสาวด้วยความหวังว่าลูกจะกลับมาหามาเยี่ยมแม่บ้าง
นางดอกรัก เปิดเผยว่าเมื่อ 10 ปี ก่อนตนป่วยเป็นโรครูมาตอยด์ จนอาการกำเริบทำให้แขนขาพิการ ตอนนี้ก็รักษาไปตามอาการ กินยาชุดของหมอ จะไปรักษาที่ไหนก็ไม่ได้ เพราะไม่มีทั้งเงินและไม่มีปัญญาออกไปจากบ้าน พอช่วงเช้าอากาศเย็นก็ปวดไปถึงกระดูก
ส่วนสามีก็เลิกรากันไปตั้งนานเป็น 10 ปี แล้วแต่เดิมก็อยู่กับลูกสาวและหลานสาววัย 7 ขวบ โดยมีอาชีพรับจ้างทั่วไป ได้เงินมาก็กินก็ใช้จ่ายกันในครอบครัวจนเมื่อ 2 เดือนก่อนลูกสาวหายตัวไปจากบ้าน ทิ้งหลานไว้ให้ดูแล ครั้นจะออกไปตามหาก็ทำไม่ได้ จึงให้เพื่อนบ้านที่เป็นญาติกันช่วยโทรไปหา จึงทราบข่าวว่าไปอยู่กับสามีใหม่ในตัวเมืองชัยนาท และก็ติดต่อไม่ได้อีก ตั้งแต่ตอนนั้นอยากฝากบอกลูกสาวว่าถ้ามีเวลาก็มาหาแม่บ้าง ข้าวปลาอาหารก็อาศัยญาติกินประทังชีวิต
นางตวงรัตน์ มีทรัพย์ น้องสะใภ้ของนางดอกรัก เปิดเผยว่าเรื่องเงิน ที่กินใช้ในแต่ละเดือนของนางดอกรัก ใช้เงินสวัสดิการรัฐ และเบี้ยยังชีพคนพิการของเทศบาล ไม่เดือดร้อนเรื่องเงินเท่าไร แต่ความต้องการของนางดอกรักคืออยากเจออยากอยู่กับลูก
ส่วนอีกเรื่องคืออยากได้บ้านหลังใหม่ไม่ต้องใหญ่ เป็นกระท่อมเล็ก ๆ แต่ไปสร้างอยู่หลังบ้านตนในที่ดินของตนเอง เพื่อสะดวกต่อการดูแล เพราะตอนนี้กว่าจะเอาข้าวเอาน้ำมาให้ต้องเดินทางเข้ามากว่า 100 เมตร หากเป็นอะไรไปก็ไม่มีใครรู้ เพราะนางดอกรักดูแลตัวเองไม่ได้
ส่วนหลานวัย 7 ขวบ ที่ถูกทิ้งไว้อยู่กับนางดอกรัก ตอนนี้ก็มาอยู่กับตนเอง เพราะเอ็นดูและเห็นมาตั้งแต่เด็กๆ และเด็กเรียนดี น่ารักเชื่อฟังผู้ใหญ่ ตนก็อยากสนับสนุนเรื่องการเรียน แต่ติดอยู่ที่เงิน เพราะตนก็มีครอบครัวต้องดูแลเหมือนกัน
ทั้งนี้ขอยืนยันว่าอย่างไรก็จะไม่ทอดทิ้งนางดอกรักแน่นอน แม้จะไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขเดียวกัน ไม่ใช่สายเลือดเดียวกันก็ตาม ขอดูแลไปจนกว่าจะตายกันไปข้างหนึ่ง