โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

สุดยอด! ใช้ “โลกเสมือน” รักษาโรค!

TheHippoThai.com

เผยแพร่ 30 ก.ค. 2561 เวลา 05.00 น. • Mr.Vop

สุดยอด! ใช้ “โลกเสมือน” รักษาโรค!

ความกลัว เป็นหนึ่งในอารมณ์พื้นฐานของมนุษย์ทุกคนที่เกิดขึ้นเมื่อถูกคุกคามหรือเมื่อเจอภัยอันตรายต่างๆ เช่น กลัวภัยธรรมชาติ กลัวการถูกทำร้าย กลัวความเจ็บปวด ซึ่งความกลัวเหล่านี้เป็นความกลัวที่มนุษย์มีเป็นปรกติเกือบทุกคน แต่หากมีความกลัวในเรื่องใดเรื่องหนึ่งที่ไม่สมเหตุสมผล ยกตัวอย่างเช่น กลัวที่แคบ กลัวลูกโป่ง กลัวงู กลัวรู กลัวฟ้าร้อง กลัวความสูง กลัวเช็ม กลัวกลุ่มคน ฯลฯ 

ผู้ที่มีอาการเหล่านี้ จะกลัวสิ่งต่างๆ ทั้งๆ ที่สิ่งเหล่านั้นยังไม่ได้ทำอะไรเลย เช่น ในคนปรกติเวลาเห็นมีด เราก็จะรู้ว่ามีดมีอันตรายแต่จะไม่กลัวมีดจนกว่าจะมีคนถือมีดหันคมมาหาเรา แต่สำหรับคนที่เป็นโฟเบีย แม้มีดเล่มนั้นจะเก็บอยู่ในกล่องหรือเห็นแค่รูปถ่ายมีดก็จะเกิดอาการกลัวแล้ว บางคนอาจกลัวรุนแรงจนหมดสติ ซึ่งอาจทำให้ตัวเองเป็นภาระ หรือก่อให้เกิดอันตรายกับผู้คนรอบข้างก็เป็นได้ ตัวอย่างเช่นผู้ที่กลัวความสูง (อะโครโฟเบีย  Acrophobia ) แต่กลับต้องไปใช้ชีวิตหรือทำงานบนที่สูง ในวันใดวันหนึ่งก็จะก่อปัญหาให้ตนเองหรือคนรอบตัว ดังนั้นการหาวิธีรักษาอาการโฟเบียจึงเป็นสิ่งที่มีความจำเป็น

โดยทั่วไปสำหรับการรักษาอาการโฟเบีย จิตแพทย์จะใช้วิธีทำให้ผู้มีอาการเหล่านั้นค่อยๆเคยชินกับสิ่งที่กลัวเพื่อเรียนรู้ว่ามันไม่มีอันตราย วิธีเหล่านี้ สำหรับโฟเบียบางชนิดก็อาจทำได้ไม่ยากเช่นการรักษาอาการกลัวงู ก็อาจให้ชินกับรูปภาพงู เชือก งูยาง โดยค่อยๆเพิ่มระดับจนเคยชิน แต่สำหรับโฟเบียบางอาการ เช่น อาการกลัวความสูง วิธีการรักษาอาจทำได้ไม่ง่ายนัก

โชคดีที่โลกเราวันนี้มีเทคโนโลยี  Virtual Reality (VR) หรือ เทคโนโลยีความเป็นจริงเสมือน นี่จึง เป็นหนึ่งในวิธีการรักษาใหม่ล่าสุดสำหรับผู้ที่ป่วยเป็นโรคกลัวความสูง โดยอาศัยเทคโนโลยี VR นี้ เราสามารถจำลองสภาพแวดล้อมเสมือนจริงขึ้นมาผ่านทางการมองเห็นของผู้ใช้งานบนอุปกรณ์แสดงผลแบบสามมิติ โดยในการรักษาผู้ป่วยนั้น ทีมจิตแพทย์นำโดย "Daniel Freeman" จากมหาวิทยาลัย Oxford ได้ออกแบบสภาพแวดล้อมเสมือนจริงของออฟฟิศแห่งหนึ่งที่มีความสูงหลายชั้นขึ้นมาด้วยเทคโนโลยี VR เมื่อผู้ป่วยทำการสวมใส่อุปกรณ์เพื่อเข้าไปสู่โลกเสมือนจริงแล้ว ก็จะได้รับภารกิจให้ทำในแต่ละชั้นของสิ่งก่อสร้าง 

เช่น การช่วยลูกแมวที่ติดอยู่บนต้นไม้คล้ายกับการเล่นเกม เพื่อให้พวกเขารู้สึกว่าความสูงที่เคยกลัวไม่ใช่ของที่น่ากลัวอีกต่อไป และช่วยให้พวกเขาสามารถควมคุมความกลัวของตนเองได้ ซึ่งจากการทดลองวิธีการรักษาดังกล่าวกับผู้ป่วยจริงแล้วเปรียบเทียบกับผู้ป่วยที่ได้รับการรักษาแบบเก่าๆเช่นการสะกดจิตแล้วพบว่าการรักษาผ่าน VR สามารถลดอาการกลัวความสูงของผู้ป่วยได้อย่างมีประสิทธิภาพมากกว่าหลายเท่า

จากความสำเร็จเบื้องต้นในการรักษาผู้ป่วยเป็นโรคกลัวความสูงด้วยวิธีการดังกล่าว ได้ช่วยบุกเบิกวิธีการรักษาอาการกลัวแบบโฟเบียอื่นๆของมนุษย์ผ่านระบบ VR ซึ่งได้ผลเป็นรูปธรรมชัดเจนโดยในการศึกษาขั้นต่อไปทีมนักวิจัย นักจิตวิทยา และจิตแพทย์ จะช่วยทำการพัฒนาขีดความสามารถของ VR ให้มีรายละเอียดแตกต่างกันไปตามอาการโฟเบียแต่ละชนิด สมกับเป้าหมายในการนำเทคโนโลยมารับใช้มนุษย์

 

ที่มา sciencenews.org

โดย Mr.Vop

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0