โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

สุดภูมิใจ เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น ขึ้นแท่นบอสใหญ่เปิดค่ายเพลง

Khaosod

อัพเดต 19 ม.ค. 2563 เวลา 06.00 น. • เผยแพร่ 18 ม.ค. 2563 เวลา 10.11 น.

 สุดภูมิใจ เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น ขึ้นแท่นบอสใหญ่เปิดค่ายเพลง 

สุดภูมิใจ – วันที่18 ม.ค. ณ Go Production (1995) studio  เจนนี่ รัชนก สุวรรณเกตุ หรือ เจนนี่ ได้หมดถ้าสดชื่น และ น้องสาว นารีนาท เชื้อแหลม หรอ ลิลลี่ เลิกคุยทั้งอำเภอ  มาร่วมถ่ายทำ MV ประกอบภาพยนตร์ “มนต์รัก…ดอกผักบุ้ง เลิกคุยทั้งอำเภอ” ซึ่งระหว่างพักกอง ทั้งคู่ได้ให้สัมภาษณ์ถึงความสำเร็จในชีวิตที่ได้เปิดค่ายเพลง รวมถึงอัพเดทอาการป่วยมะเร็งที่ต่อมน้ำเหลืองของคุณแม่เกตุ 

 

กดติดตามไลน์ ข่าวสด official account ได้ที่นี่

เพิ่มเพื่อน
เพิ่มเพื่อน

 

พูดถึงค่ายเพลง?
เจนนี่ : “ก็เป็นอะไรที่ภูมิใจที่สุดในชีวิตของหนูแล้วค่ะ การที่ได้เปิดค่ายเพลง เพราะว่าต่อให้วันนึงหนูไม่ได้อยู่เบื้องหน้า หนูก็ยังสามารถอยู่เบื้องหลังได้และหนูก็มั่นใจว่าหนูจะสามารถสร้างศิลปินได้ได้อีกหลายๆคนเลย เหมือนกับที่หนูได้ทำกับน้องลิลลี่

วางแผนกับค่ายเพลงยังไงบ้าง?
เจนนี่ : “ก็คิดว่าจะมีศิลปินให้แบบเยอะๆแบบ 40 50 คนเลย แล้วก็เพลงก็จะไม่ซื้อจากข้างนอกเลย เดี๋ยวจะเราจะสอนให้น้องลิลลี่แต่งเพลง เล่นดนตรีอะไร จะทำให้มันสมบูรณ์แบบที่สุดในฉบับที่ไม่เหนื่อยมากค่ะ

ตอนนี้เริ่มมีเด็กในสังกัดหรือยัง?
เจนนี่ : “ตอนนี้มี2คนค่ะ เป็นผู้ชายค่ะ จากนครสวรรค์แล้วก็จากจากชุมพร ซึ่งตอนนี้ก็ในภาคใต้ก็เรียกว่ามีความดังขึ้นมาอีกระดับหนึ่ง ก็ถือว่าประสบความสำเร็จกับน้องสองคนนี้อยู่

จะมีการเซ็นเซ็นสัญญาไหม?
เจนนี่ : “ไม่ต้องค่ะ หนูไม่อยากที่จะผูกมัดใครหนูก็ยังเป็นวัยรุ่น เราก็ยังเอาแน่เอานอนตัวเองไม่ค่อยได้แต่ว่าสิ่งหนึ่งที่น้องๆมาอยู่ในค่ายก็คือต้องมาด้วยใจ ต้องตั้งใจทำงานให้เยอะที่สุด คือเก็บเกี่ยวประสบการณ์ให้เยอะที่สุดแต่ถ้าวันหนึ่งเขาอยากจะไปข้างนอกหรืออยากจะไปทำอะไรด้วยตัวเองเราก็โอเคสบายมาก

ศิลปินแต่ละคนที่เข้ามาคือเราเลือกเองหมดเลยไหม?
เจนนี่ : “เลือกเองหมดเลยค่ะ วันที่ออดิชั่นก็ส่งมาเกือบ 1000 คน หนูก็เลือกมา2คน ก็เอาคนที่ไม่ได้เก่งอยู่แล้ว เพราะอยากได้คนที่พร้อมที่จะรับสิ่งที่เราให้ไป”

อย่างลิลลีนี่คือศิลปินเบอร์เบอร์แรกของค่าย?
เจนนี่ : “อ๋อ.. อันนี้ไปไหนไม่ได้ค่ะ(หัวเราะ)

ลิลลี่รู้สึกยังไงบ้างที่มีพี่สาวเก่งขนาดนี้?
ลิลลี่ : ก็รู้สึกภูมิใจในตัวพี่ เพราะว่าแกตั้งใจทำและใฝ่ฝันมาตั้งนานแล้ว พอวันนึงประสบความสำเร็จหลายเรื่อง แล้วนี่ก็จะเปิดค่ายใหม่อีก มันเหมือน….(ยิ้ม +หัวเราะ /ซึ้ง)

อย่างเรื่องเงินเก็บที่มีการแซวกัน?
เจนนี่ : “ของลิลลี่ตอนนี้ก็จะเยอะกว่าหนูละมั้ง เพราะอย่างของเค้าเนี่ย ไม่ต้องลงทุนอะไ รเลย เค้าทำงานแล้วก็เก็บ ทำงานแล้วก็เก็บคือหนูจะแบ่งให้เขาใช้ในส่วนที่เขาจำเป็นต้องใช้ แต่ว่าเงินของเขาก็ใจอยู่แยกอีกบัญชีนึง ก็สามารถเช็คได้ทั้งแม่และน้อง แต่ว่าหนูขอเป็นคนดูแลค่ะ เพราะว่าน้องยังเด็กเกินไปแต่ว่าถ้าอยากได้อะไรคือบอกได้เลยหนูก็ตามใจทุกอย่างอยู่แล้ว

เยอะจนหลายคนตกใจ?
เจนนี่ : “อุ๊ย! อันนั้นมันเป็นคลิปที่จะตอบจริงก็ได้ตอบโกหกก็ได้ จริงๆเราไม่ได้จำเป็นจะต้องมาเปิดเผยเรื่องแบบนี้อยู่แล้วเนาะ แต่ว่ามีเงินเก็บเยอะก็มีค่ะ เพราะหนูเชื่อว่าน้องลิลลี่ถือ ว่าสูงเป็นอันดับๆ เหมือนกันเพราะว่าน้อง 15 ปีก็คือว่าเป็นเงินที่หาเองนะคะ ไม่ได้เป็นเงินที่ขอพ่อแม่อะไรอย่างนี้”

เรียกว่าไม่ต่ำกว่าสิบล้าน?
เจนนี่ : “เฮ้ยไม่จริง”

ลิลลี่ว่าไงลูก?
ลิลลี่ : 20 ค่ะ (หัวเราะ )
เจนนี่: ก็ยังไม่ถึงขั้นนั้นค่ะ คือว่าตอนนี้เราก็ต้องรีบเก็บให้เยอะที่สุด เพราะอย่างที่หนูบอกไม่รู้พรุ่งนี้จะดังอีกหรือเปล่าก็ต้องรีบโกยกันค่ะทำงานหนักมาก”

ก่อนหน้านี้ก็ออกรถ?
เจนนี่ : “ค่ะ ซื้อรถค่ะ ก็ตามลำดับความจำเป็นค่ะพี่ โอเค BM อาจจะซื้อเพราะเป็นของขวัญรับปริญญาให้ตัวเอง เพราะตัวเองเรียนมาเกือบ 10 กว่าปี ที่ทรหด ก็เลยซื้อให้ตัวเองให้รู้สึกหายเหนื่อย ส่วน อัลพาร์ดตั้งใจจะให้คุณแม่ เพราะอย่างที่ทุกคนรู้ว่าแม่เป็นมะเร็ง อยากให้แม่สบายที่สุด “

แล้วคุณแม่เป็นไงบ้าง”
เจนนี่ : “ก็รักษาคีย์โม ตอนนี้คีย์โมไปรอบที่สองแล้วค่ะ กว่าจะรู้ผลว่ารักษาดีขึ้นไหม ต้องรออีกสองสามเดือน ในส่วนของกำลังใจพอเรามากรุงเทพทุกครั้ง เราก็จะไปเยี่ยมแม่ทุกครั้งที่ทำได้ค่ะ แต่ถ้าไม่เจอก็จะวิดีโอ วันนึงเป็น 10 10 ครั้ง เหมือนให้แม่รู้สึกว่าเราอยู่ใกล้ๆแม่ตลอด “

มันบั่นทอนยังไงบ้าง?
เจนนี่ : “ตอนที่เราทราบเรื่องตอนแรกก็ช็อกค่ะ เพราะว่าตั้งแต่เด็กจนโตก็รู้สึกว่าโรคมะเร็งเป็นอะไรที่หายยากแล้วก็น่ากลัว แต่ว่าตอนนี้เราช็อกไม่ได้แล้วถ้าช็อกนานเดี๋ยวคุณแม่ช็อกตาม ก็เลยต้องสร้างกำลังใจ แต่เรื่องที่หนักที่สุดสำหรับหนูก็คือเรื่องของการที่ไปไหนมาไหนโดยที่ไม่มีคุณแม่ มันเป็นอะไรที่เราไม่เคยเจอ จากที่หนูเหนื่อยหนูท้อหนูเจอเอฟซีด่าก็จะมีแม่ปกป้อง แต่ว่าวันนี้เราต้องไปปกป้องให้ลิลลี่อีกคนนึง มันก็เหนื่อยกว่าเดิม แต่เพื่อแม่ก็สบายมาก”

อย่างตอนนั้นครอบครัวเราก็ดาวน์ลงไปเหมือนกัน?
เจนนี่ : “ดาวน์ค่ะ ดาวน์มาก คือคนนอกอาจจะมองว่าเราสบายทำงานมีเงินมีชื่อ แต่ว่าภายในอ่ะร้องไห้แทบทุกคืน ลิลลี่ก็จะเป็นเด็กติดแม่มากคือจะขึ้นเวทีก็ต้องไหว้แม่กราบแม่ แต่ทุกวันนี้ต้องหนูแทน เค้าก็จะแบบต้องอดทนอีกระดับหนึ่ง

 

แล้วแม่กำลังใจเป็นยังไง?
เจนนี่ : “แม่กำลังใจดีมากๆค่ะ ตอนนี้เราพยายามที่จะไม่เศร้าให้แม่เห็นเลย คือถ้าเกิดเรากำลังดาวน์ลง เศร้าลงเราจะตัดคุณแม่ออกไปก่อน แต่ว่าพอเราอารมณ์ดีขึ้นมีงานเข้ามีอะไรใหม่ๆ ได้เล่นหนังอะไรอย่างนี้ แม่ก็จะภูมิใจดีใจ

แล้วอาการคุณแม่ เป็นยังไงหลังทำคีย์โมไปสองเดือน?
เจนนี่ : “ก็รอบแรกแพ้แต่รอบนี้ไม่แพ้แล้ว แต่ว่าก็จะเหนื่อยกว่าปกติ แต่ว่าก็จะรอดูว่ารักษาอีก4เดือนหายไหม ถ้าไม่หายก็คงต้องเปลี่ยนวิธีการรักษา คือจะทำทุกอย่างให้แม่หายป่วย”

เห็นเคยให้สัมภาษณ์ว่าเหมือนคุณแม่เพิ่งจะได้อยุ่แบบสบาย ?
เจนนี่ : “ใช่ค่ะคือวันแรกๆ ที่รู้ว่าแม่เป็น คำพูดแม่บอกว่าแม่เพิ่งเป็นไทย เพิ่งหลุดจากหนี้ปีนี้ แม่เพิ่งได้สัมผัสเงินแสนเงินล้าน แม่ไม่อยากตายเลย เราก็แบบ เอ่ย! ทำไมแม่พูดอย่างนี้ มันเศร้ามาก แต่เราก็พยายาม บอกว่ามันเป็นแค่มะเร็งหายได้ๆ เราก็พยามหาข่าวหาอะไรที่เป็นตัวอย่างว่ามะเร็งหายได้ เป็นคลิปตัวอย่างให้คุณแม่ดู”

 

ลิลลี่ให้คุณแม่ให้กำลังใจคุณแม่ยังไงบ้าง?
ลิลลี่ : ” ก็ให้กำลังใจคุณแม่อยู่ตลอดค่ะ ก่อนขึ้นเวทีก็โทรหา เสร็จคอนเสิร์ตก็โทรหา ตื่นก็โทรหากินข้าวก็โทรหา
เจนนี่ : เค้าจะเซนซิทีฟเรื่องแม่ คือถ้าเลือกได้ เรื่องชีวิตมันสำคัญที่สุดอยู่แล้ว ถ้าวันนี้กลับไปเป็นแม่ค้าขายรองเท้าเหมือนเดิม แต่แม่ไม่เป็นอะไรก็ยังดีกว่าที่จะต้องมาสูญเสีย คือมันแลกกันไม่ได้อะค่ะ คือยังไงก็อยากให้มีสามคนแม่ลูกไปให้นานที่สุดที่จะนานได้

ขอบคุณ : รัชนก สุวรรณเกตุ

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0