โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

"สุชาติ" ชี้เสียบบัตรแทนซ้ำซาก เผยกำชับเฝ้าระวัง แต่มีข้อจำกัดเทคโนโลยี

ไทยรัฐออนไลน์ - Politics

อัพเดต 22 ม.ค. 2563 เวลา 10.02 น. • เผยแพร่ 22 ม.ค. 2563 เวลา 10.02 น.
ภาพไฮไลต์
ภาพไฮไลต์

"สุชาติ" ชี้เสียบบัตรแทนซ้ำซาก รอผลสอบจากเลขาฯสภา พร้อมระบุห้องประชุมไม่พร้อม ซ้ำ สนง.เลขาฯมีแผนใช้เทคโนโลยีป้องกัน แต่ถูกตัดงบฯ ชี้ถ้ากระทบกับร่าง พ.ร.บ.งบฯ ทำประเทศเสียหาย

เมื่อวันที่ 22 ม.ค.63 นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่ 1 กล่าวถึงกรณีที่มีการตรวจพบว่า มีการใช้บัตรลงคะแนนของ ส.ส.บางรายลงมติในระหว่างการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2563 โดยที่เจ้าของบัตรไม่อยู่ในห้องประชุมว่า คงรอผลการตรวจสอบของเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรตามที่ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯได้มอบหมายไป และเรื่องนี้ทราบว่า ทางพรรคต้นสังกัดเองได้ตั้งกรรมการสอบสวนด้วย ส่วนจะมีผลทำให้ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯเป็นโมฆะหรือไม่นั้น ก็ขึ้นอยู่กับว่าจะมีการยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาหรือไม่ และศาลจะวินิจฉัยอย่างไร

ทั้งนี้ พฤติกรรม ส.ส.เสียบบัตรแทนกันนั้น มีมาก่อนหน้านี้แล้ว จนครั้งล่าสุดก็ส่งผลถึงขั้นทำให้กฎหมายสำคัญเป็นโมฆะมาแล้ว ซึ่งเป็นเรื่องที่ทราบกัน ซึ่งได้กำชับให้มีการเฝ้าระวังอยู่แล้ว แต่มีข้อจำกัดในเรื่องการจัดหาเครื่องมือและเทคโนโลยีที่จะนำมาใช้ เนื่องจากไม่มีงบประมาณ ประกอบกับช่วงนี้การก่อสร้างห้องประชุมสุริยันยังไม่เสร็จ ทำให้สภาผู้แทนฯต้องมาใช้ห้องประชุมจันทราของวุฒิสภา ซึ่งมีจำนวนเครื่องเสียบบัตรลงคะแนนไม่เพียงพอต่อจำนวน ส.ส. ทำให้ ส.ส.จำนวนหนึ่งต้องมีการใช้เครื่องเสียบบัตรแสดงตนร่วมกัน ในการลงมติคราวเดียวกัน อาจทำให้เกิดความสับสนและเฝ้าระวังการออกเสียงแทนกันยาก

"ยิ่งไปกว่านั้นสำนักเลขาธิการสภาฯ ได้ทำร่างแผนงบประมาณ เพื่อใช้ในการติดตั้งระบบออกเสียงลงคะแนน ที่ปัจจุบันมีเทคโนโลยีของระบบการลงมติที่ทันสมัยด้วยการแสดงตนหรือยืนยันตัวตนผ่านลายนิ้วมือ ซึ่งสามารถแก้ปัญหาการเสียบบัตรแทนกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ แต่ที่ผ่านมาไม่ได้รับงบประมาณ และในการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ 63 ได้มีการตัดงบประมาณในส่วนนี้ออกไป ทำให้เกิดปัญหาขึ้นอย่างที่เห็น และอาจส่งผลเสียหายทำให้งบประมาณฯปีนี้ที่ล่าช้าอยู่แล้ว ยิ่งล่าช้ามากขึ้นไปอีก กระทบต่อการพัฒนาแก้ไขปัญหาของประเทศและประชาชนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้" นายสุชาติ ระบุ

นายสุชาติ กล่าวต่อว่า รัฐสภาที่เป็นหนึ่งในเสาหลักของประเทศ มีข้อมูลสำคัญมากมาย ยังต้องมีการดำเนินการสร้างระบบเทคโนโลยี Diaster Recovery (DR site) ที่ใช้ในการกู้คืนระบบเมื่อระบบสื่อสารข้อมูลหลักล้มเหลว การแบ็กอัพข้อมูล ซึ่งระบบนี้สามารถจัดเก็บและเรียกใช้ข้อมูลได้แม่นยำรวดเร็วเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉินใดๆ ดังนั้นเมื่องบประมาณถูกตัดไป ก็ทำให้การทำระบบต่างๆ เพื่อให้การดำเนินการของสภาฯ ในส่วนนี้ด้อยประสิทธิภาพไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ ดังนั้นการที่เกิดปัญหาขึ้น ตนอยากให้เข้าใจว่าจะโทษฝ่ายสภาฯ อย่างเดียวไม่ได้ เพราะเราได้ทำเต็มที่เต็มความสามารถในการร้องของบประมาณที่จำกัดดังกล่าวแล้ว แต่ก็ถูกตัดออกไปจำนวนมาก

"ผมเห็นด้วยกับการตัดงบประมาณในส่วนที่ไม่จำเป็น แต่ในส่วนของสภาฯที่เกี่ยวข้องกับด้านไอที ด้านเทคโนโลยี ซึ่งจะช่วยอำนวยความสะดวก ให้การทำงานเป็นไปด้วยความรวดเร็ว แม่นยำ ถูกต้อง โดยเฉพาะเกี่ยวกับระบบการลงมติ และความปลอดภัยของบุคคลสำคัญและความปลอดภัยของประชาชนที่มาสภาฯ ซึ่งสภาฯเป็นหัวใจสำคัญในการพิจารณากฎหมาย จะต้องมีความถูกต้อง แม่นยำ และปลอดภัย ผมเห็นว่าเรื่องนี้มีความจำเป็นที่จะต้องมีงบประมาณเข้ามาขับเคลื่อนให้การทำงานของสภาฯเกิดประสิทธิภาพมากที่สุด" นายสุชาติ กล่าว

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0