เย้! ปิดเทอมแล้ว…
ได้เวลาพาเด็กๆ ออกไปสนุกกับธรรมชาติอีกครั้ง ยิ่งช่วงนี้ค่าฝุ่นละออง PM 2.5 กลับมารบกวนชาวเมือง ยิ่งควรพาบุตรหลานออกไปหาอากาศบริสุทธิ์ พร้อมกับเที่ยวชมธรรมชาติป่าเขาลำเนาไพรไปด้วยเลย
ช่วงปลายฝนแบบนี้ ผืนป่าเขียวขจีชุ่มฉ่ำสวยงามตามฤดูกาล มองหาผืนป่าใกล้กรุงที่เหมาะสำหรับพาบุตรหลานไปเที่ยวชมศึกษาธรรมชาติ สามารถเดินทางไปได้สะดวกและเที่ยวชมธรรมชาติได้ด้วยตนเอง อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ย่อมเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ และน่าจะเป็นทางเลือกที่เหมาะสมที่สุด
เขาใหญ่…รู้จักกันดีว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวยอดนิยมมานานแล้ว ขณะเดียวกันก็เป็นแหล่งศึกษาธรรมชาติที่เต็มไปด้วยสิ่งน่าสนใจให้เรียนรู้ได้อย่างสนุกสนานสำหรับทุกคนในครอบครัว
เขาใหญ่มีอาณาเขตกว้างใหญ่นับล้านไร่ ครอบคลุมพื้นที่ถึง 4 จังหวัด คือ นครราชสีมา ปราจีนบุรี สระบุรี และนครนายก อุดมไปด้วยผืนป่าดงดิบ เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารของแม่น้ำหลายสาย และถิ่นอาศัยของสัตว์ป่าจำนวนมาก มีเส้นทางหลวงตัดผ่านให้เดินทางไปได้สะดวก เลือกไปได้ทั้งทางจังหวัดปราจีนบุรี หรือทางปากช่อง จังหวัดนครราชสีมา ใช้เวลาเดินทางจากกรุงเทพฯ เพียง 2-3 ชั่วโมง ก็ถึงด่านตรวจของ อช. เขาใหญ่ทั้งสองฝั่ง
พอจ่ายค่าธรรมเนียมเรียบร้อย ผู้ใหญ่ 40 บาท เด็ก 20 บาท รถยนต์อีกคันละ 20 บาท ก็ผ่านเข้าไปสัมผัสบรรยากาศของผืนป่าเขาใหญ่ได้เลย
นักท่องเที่ยวที่ไปเขาใหญ่มักมีเป้าหมายอยู่ที่น้ำตกขึ้นชื่ออย่างน้ำตกเหวนรกและน้ำตกเหวสุวัต ช่วงฤดูฝนเป็นช่วงเวลาที่น้ำตกสวยที่สุด มีปริมาณน้ำมาก ไหลตกลงมาสู่แอ่งน้ำเบื้องล่างอย่างงดงาม โดยเฉพาะน้ำตกเหวนรก ซึ่งเป็นน้ำตกสูงใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งของเมืองไทย ด้วยภาพตระการตาของสายน้ำที่หลั่งไหลลงมาจากผาสูงนับร้อยเมตร และไม่พลาดตามจุดชมทิวทัศน์อย่าง จุดชมวิว กม. 30 ทางฝั่งปากช่อง และจุดชมวิวผาเดียวดายบนยอดเขาเขียว ไม่เพียงได้เห็นภาพผืนป่ากว้างใหญ่ตระการตา ยังอาจเห็นนกกกและนกเงือกกรามช้างบินผ่านไปด้วย รวมทั้งตามทุ่งหญ้าอย่างมอสิงโต หรือหนองผักชี มีเก้งกวางออกมาเดินหากินเป็นฝูงใหญ่ ถ้าโชคดีจะมีโขลงช้างพากันออกมากินดินโป่งให้ชมด้วย
พอไปถึงที่ทำการอุทยานฯ ก่อนเริ่มต้นศึกษาธรรมชาติ ควรติดต่อสอบถามข้อมูลที่ศูนย์บริการนักท่องเที่ยวก่อน พร้อมกับเรียนรู้ความเป็นมาของพื้นที่อนุรักษ์และธรรมชาติของ อช. เขาใหญ่ ภายในอาคารนิทรรศการที่จัดแสดงอย่างทันสมัยได้น่าสนใจ ช่วยปูพื้นฐานความรู้ก่อนออกไปเที่ยวศึกษาธรรมชาติได้ด้วยตัวเอง และควรซื้อถุงเท้ากันทากใส่ด้วย เพื่อป้องกันทากในช่วงหน้าฝน
เส้นทางเดินป่าศึกษาธรรมชาติบนเขาใหญ่มีหลายเส้นทาง สำหรับเส้นทางสะดวกและเดินง่ายที่สุดก็อยู่ด้านหลังศูนย์บริการนักท่องเที่ยวนั่นเอง เริ่มต้นจากสะพานแขวนข้ามห้วยลำตะคอง แล้วเดินผ่านป่าไปตามทางที่ปูอิฐอย่างสะดวก จนไปถึงทางออกข้ามห้วยอีกครั้งบริเวณน้ำตกกองแก้ว รวมระยะทาง 1.2 กิโลเมตร
เส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกกองแก้ว สามารถพาเด็กๆ เดินได้โดยไม่จำเป็นต้องมีเจ้าหน้าที่นำทาง เพียงเริ่มต้นด้วยการเดินข้ามสะพานแขวนก็รู้สึกตื่นเต้นแล้ว ระหว่างชมผืนป่าดงดิบริมน้ำ อาจมีนากใหญ่ขนเรียบออกมาว่ายน้ำหากินในลำตะคองด้วย จากนั้นก็เดินตามทาง ผ่านป่าดงดิบที่เด็กๆ จะได้รู้จักด้วยตนเอง พร้อมเรื่องราวอันน่าทึ่งของธรรมชาติผ่านป้ายสื่อความหมายธรรมชาติที่บอกให้ความรู้เป็นระยะตลอดทาง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องราวของต้นไม้ใหญ่ ไม้เล็ก ไม้พุ่ม ไม้เถา ไม้อิงอาศัย เช่น เฟิร์น กล้วยไม้ และไม้พื้นล่าง หมาก หวาย ขิง-ข่า เตยหนาม
เส้นทางนี้ยังเหมาะสำหรับการดูนกอีกด้วย มีนกสวยๆ ให้เห็นง่ายตลอดทาง ไม่ว่าจะเป็นนกปรอด นกโพระดก นกแซงแซว นกพญาปากกว้าง นกขุนแผน นกพญาไฟ ฯลฯ โดยเฉพาะนกแก๊ก นกเงือกขนาดเล็กที่ชอบส่งเสียงร้องดังบอกชื่อก่อนเห็นตัว การดูนกจึงเป็นกิจกรรมยอดนิยมบนเขาใหญ่ที่สนุกได้ทุกวัย เพียงแค่มีกล้องส่องทางไกลและคู่มือดูนก
ปลายทางจะข้ามสะพานแขวนเหนือน้ำตกกองแก้ว น้ำตกเล็กๆ ที่มองเห็นความชุ่มฉ่ำของสายน้ำที่เป็นผลมาจากความชุ่มชื้นของผืนป่าดงดิบบนเขาใหญ่ที่เป็นแหล่งต้นน้ำของห้วยลำตะคองที่ไหลลงไปหล่อเลี้ยงชีวิตของชาวนครราชสีมา ซึ่งเป็นคุณค่าของผืนป่าที่เด็กๆ จะได้เรียนรู้จากเส้นทางศึกษาธรรมชาติน้ำตกกองแก้ว
สำหรับเวลาสนุกสุขสันต์ระคนความรู้กับธรรมชาติบนเขาใหญ่ในช่วงปิดเทอมนี้
อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่
โทร .0-2561-4292-3 ต่อ 718, 720, 0-3731-9002, 08-6092-6530 และ 08-6092-6531
การเตรียมตัว
- สวมเสื้อแขนยาว-กางเกงขายาว เพื่อป้องกันแมลงและหนามขีดข่วน
- สวมหมวก เพื่อป้องกันศีรษะ
- รองเท้าหุ้มส้น ที่กระชับและสะดวกในการเดิน
- สมุดและดินสอสำหรับจดบันทึกสิ่งน่าสนใจ
- กล้องส่องทางไกลสำหรับดูนก สัตว์ และพืชที่อยู่ระดับสูง
- กระติกน้ำ
- เป้สะพายหลังสำหรับใส่สิ่งของ