สังคมเสี่อม!! ผู้หญิงคนหนึ่งอายุประมาณ 23 ปี ชาว จ.สุราษฎร์ธานี ตั้งครรภ์ไม่พึงประสงค์เนื่องจากผู้ชายไม่ยอมรับว่าเป็นพ่อของเด็กที่เพิ่งคลอดออกมา ผู้หญิงคนนี้ตัดสินใจทิ้งลูกน้อยไว้ภายในร้านขนมจีนป้าน้อย ปากซอยประชาราษฎร์ 3 ริมถนนสายหลังสวน – สุราษฎร์ธานี(สายล่าง) อ.หลังสวน จ.ชุมพร
ย้อนเหตุการณ์วันที่ 13 ต.ค.2561 ตำรวจ สภ.หลังสวน รับแจ้งจากพลเมืองดีว่าพบเด็กทารกถูกทิ้งไว้ภายในร้านขายขนมจีน จากการตรวจสอบพบเด็กทารกเพศชาย อายุไม่เกิน 7 วัน หน้าตาน่ารักน่าชังสายสะดือยังไม่หลุด โดยข้างตัวเด็กทารกมีผ้าห่อ อุปกรณ์สำหรับเด็กทารก และผ้าอ้อม 2 ผืน ระบุชื่อโรงพยาบาลทักษิณ และโรงพยาบาลท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี
การสืบสวนหาตัวแม่ใจร้ายคนนี้ ตำรวจมอบเด็กทารกให้กับเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัย นำส่งโรงพยาบาลหลังสวน จ.ชุมพร เพื่อดูแลโดยแพทย์ของโรงพยาบาลชั่งน้ำหนักเด็กทารกเพศชายคนนี้น้ำหนักประมาณ 1 กิโลกรัม 7 ขีด สภาพร่างกายสมบูรณ์แข็งแรง แล้วสันนิษฐานว่าน่าจะเพิ่งคลอดประมาณ 7 – 15 วัน
ทันทีที่ได้ข้อมูลจากแพทย์ผู้ดูแลตำรวจ เริ่มแกะรอยจากผ้าอ้อม 2 ผืนที่ใช้ห่อเด็กทารกเพศชาย ผืนแรกทางโรงพยาบาลทักษิณ ยืนยันว่าผู้ป่วยหรือแม่ของเด็กไม่สามารถนำผ้าอ้อมของโรงพยาบาลนำออกไปได้ อีกทั้งผู้ป่วยหรือแม่ของเด็กที่มาคลอดในห้วงวันที่ 8 – 12 ต.ค.2561 ไม่พบปัญหาใดๆ
ผ้าอ้อมผืนที่สองของโรงพยาบาลท่าชนะ ตำรวจได้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์มากขึ้นว่ามีผู้ป่วยหรือแม่ของเด็กมาคลอดที่โรงพยาบาล น่าจะมีปัญหา 1 คนไม่ยอมบอกชื่อของพ่อเด็ก อีกทั้งหลังจากแพทย์อนุญาตให้กลับบ้านแม่ของเด็กไม่ยอมแจ้งให้นางพยาบาลทราบอีกทั้งยังค้างค่าใช้จ่ายในการคลอดบุตร
ประเด็กสำคัญผ้าอ้อมที่ระบุชื่อโรงพยาบาลท่าชนะ บางครั้งผู้ป่วยหรือแม่ของเด็กอาจเผลอไม่ได้ส่งคืนให้กับทางโรงพยาบาล !!!
ตำรวจเริ่มตรวจสอบชื่อนามสกุลแม่ของเด็กทารก พบว่ามีภูมิลำเนาอยู่ที่บ้านหลังหนึ่ง ใน ม.9 ต.ท่าชนะ อ.ท่าชนะ จ.สุราษฎร์ธานี จึงประสานงานให้ชุดสืบสวนในพื้นที่เข้าไปตรวจสอบซักถามข้อเท็จจริงกับเจ้าของบ้าน จนกระทั่งทราบความจริงทั้งหมด แล้วสรุปได้ว่าเด็กทารกเพศชายที่ถูกทิ้งไว้คือหลานของตนเอง!!!
อย่างไรก็ตามแม่ของเด็กทารกยังไม่เข้าพบพับพนักงานสอบสวน สภ.หลังสวน แม้ทางญาติพยายามร้องขอไม่ให้ตำรวจดำเนินคดีอาญา แต่ตำรวจไม่สามารถละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ จึงออกหมายเรียกให้แม่ของเด็กรับทราบข้อหาตามประมวลกฏหมายอาญามาตรา 306
“ผู้ใดทอดทิ้งเด็กอายุไม่เกินเก้าปีไว้ ณ ที่ใดเพื่อให้เด็กนั้นพ้นไปเสียจากตน โดยประการที่ทำให้เด็กนั้นปราศจากผู้ดูแล ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินสามปี หรือปรับไม่เกินหกพันบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ”
