วันที่ 5 มิถุนายน 256 ที่บริเวณถนนรอบนอกค่ายสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช(ค่ายพล.ร.6) ข้างโรงพยาบาลค่ายฯ ระหว่างซุ้มประตูอบต.โพธิ์สัย(ตู้ยามตำจรวจสภ.ศรีสมเด็จ) ก่อนจะถึงทางแยกเข้าบ้านโคกก่อง ต.ปอภาร อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ดประมาณ150 เมตร เกิดเหตุคนร้ายจำนวน2 คน ดักทำร้ายร่างกาย สิบเอกอภิสิทธิ์ โกศรี ทหารสังกัดค่ายพล.ร.6 บาดเจ็บ
สิบเอกอภิสิทธิ์ โกศรี เล่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นให้ผู้สื่อข่าวฟังว่าเมื่อคืนที่ผ่านมาตนเลิกงานประมาณเกือบ4ทุ่มครึ่ง ก็ได้ขี่รถจักรยานยนต์คู่ใจเดินทางกลับบ้านซึ่งเป็นเส้นทางที่ใช้เป็นประจำทุกวัน พอถึงที่เกิดเหตุจังหวะนั้นได้มีรถเก๋งและรถกระบะวิ่งตามหลังผมมาติดๆ และรถเก๋งได้เปิดไฟสูงเพื่อเป็นสัญญาณว่าจะแซงรถผม และจังหวะนั่นเองผมได้มองไปข้างหน้าจึงได้เห็นผู้ชาย2 คนพร้อมอาวุธ(เหล็กแป๊บ)ยาวประมาณ1 ฟุต ยืนรออยู่ห่างไปประมาณไม่ถึง100 เมตร ผมจึงได้ชะลอรถหวังจะเลี้ยวรถกลับแต่มีรถกระบะวิ่งสวนมาพอดีจึงไม่สามารถเลี้ยวรถได้ทันและคนร้ายก็ได้วิ่งมาประชิดตัวของผมแล้ว
และคนร้ายได้ใช้อาวุธที่เตรียมมาตีเข้าที่ศรีษะผมอย่างแรงโชคดีโดนหมวกกันน็อกผมจึงจอดรถและลงไปยืนอยู่ข้างรถคนร้ายก็ได้ใช้อาวุธตีเข้าที่ตะแกรงรถด้านหน้ารถผมอีก1ครั้ง ผมพยายามที่จะเปิดกระเป๋าเป้(ใส่โน้ตบุ๊ค)ที่ผมสะพายมาด้วยทุกวันเพื่อจะเอากระบองดิ้ว(ที่ตำรวจใช้)ที่พกติดตัวก่อนออกจากบ้านเพราะวันนี้มีรางสังหรณ์ยังไงบอกไม่ถูกเลยเอาใส่กระเป๋ามาด้วยช่วงที่ผมกำลังล้วงไปในกระเป๋าคนร้ายก็ได้ใช้อาวุธ(เหล็กแป๊บ)ตีเข้าหมวกกันน๊อกของผมอย่างแรงอีกครั้ง ผมจึงวิ่งอ้อมไปอยู่ด้านหน้ารถและคนร้ายก็วิ่งตาม
โชคคงเข้าข้างผมไม่ได้เข้าข้างคนร้ายกางเกงของคนร้ายไปเกี่ยวตรงด้านข้างรถผมพอดีทำให้คนร้ายเสียหลักจังหวะนั่นเองผมได้ใช้กระบองดิ้วที่อยู่ในมือกระหน่ำตีคนร้ายไม่ยั้งเหตุการณ์เกิดขึ้นเร็วมาก และคนร้ายอีกคนก็ได้วิ่งกลับไปที่รถของตนเองที่ห่างออกไปประมาณ300 เมตร เพื่อหาอาวุธหรืออะไรสักอย่างมันมืดผมมองไม่เห็น
จากนั้นได้มีรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์2คัน วิ่งมุ่งหน้ามาทางผมพอดี(ที่เกิดเหตุ) คันหนึ่งจอดเลยตรงที่ผมออกไปอยู่ประมาณ150 เมตร และอีกคันจอดอยู่ด้านหลัง ห่างออกไปประมาณ150 เมตร เช่นกัน ซึ่งเป็นจังหวะที่ผมกำลังกระหน่ำตีคนร้ายอยู่พอดี ทั้ง2 คนร้องถามผมว่า ทำไรกันว่ะ คนที่อยู่ข้างหลังตะโกนถามผมมาอีกเป็นครั้งที่2 บอกว่าทำไรกัน ทำไรเขา หยุด พร้อมชักปืนพกสั้นผมไม่รู้ยี่ห้ออะไรหันปลายประบอกปืนมาทางผม ผมตกใจมากเกรงว่าเขาจะเข้าใจผิดและยิงผมจริงๆ ผมจึงได้อธิบายเรื่องลาวที่เกิดขึ้นให้ชายทั้ง2 คนฟัง แต่เขาก็ไม่เชื่อผม คนหนึ่งวิ่งเข้ามาล็อกตัวผมไว้ทันทีจังหวะนี้เองคนร้ายอาศัยช่วงชุลมุนวิ่งหลบหนีขึ้นรถจักรยานยนต์ที่เตรียมมาก่อเหตุขี่ออกไปพร้อมกัน2 คันอย่างรวดเร็ว
พี่บิ๊กไบค์ทั้ง2คนจะพาผมไปพบตำรวจให้ได้ผมก็ไม่ได้ขัดขืนเพราะตอนนั้นเขามีปืนด้วยผมกลัวจะเกิดอันตรายต่อชีวิตเลยต้องขี่รถตามชายทั้ง2คนไปที่ป้อมตำรวจ(จุดสกัดตู้ยามโพธิ์สัย)ที่ห่างจากที่เกิดเหตุออกไปไม่ถึง1 กิโลเมตร แต่ไม่เห็นตำตรวจอยู่ตู้ฯ ผมจึงพูดกับผู้ชายทั้ง2 คนว่า พี่ผมขอตัวกลับบ้านก่อนนะครับผม ว่าแล้วผมก็ขี่รถออกมาทันที พอผมจะเลี้ยวเข้าหมู่บ้านชาย2คนก็ขี่บิ๊กไบค์ตามผมมาติดๆเพื่อจะส่งผมหรือไม่อย่างไรผมไม่อาจทราบได้ ผมจึงเร่งเครื่องเข้าบ้าน และชาย2 คนก็ได้ขี่รถวนออกไป
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผมในครั้งนี้ถือเป็นเหตุการณ์ที่เฉียดตายก็ว่าได้ดูจากที่คนร้ายลงมือเอาเหล็กแป๊บตีเข้าหมวกกันน๊อกผมถึง3 - 4 ครั้ง ถ้าวันนั้นผมไม่ได้ใส่หมวกกันน๊อกผมคงตายหรือเป็นเจ้าชายนิทราไปแล้ว หลายคนอาจจะไม่โชคดีเหมือนกับผมก็เป็นได้ อยากจะฝากเตือนผู้ที่สัญจรถนนเส้นโรงเรียนเฉลิมพระเกียรติ-โรงพยาบาลค่าย (บ้านโคกก่อง) ระมัดระวังคนดักทำร้ายเพื่อหวังต่อทรัพย์หรืออะไรสักอย่างเราไม่รู้ให้ระวังตัวไว้ก่อน โดยเฉพาะผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ที่สัญจรผ่านตอนดึกๆ เพราะตลอดทั้งสาย มีไฟแค่30% ข้างทางก็เป็นป่ารกน่ากลัวมาก
ขอแนะนำผู้หญิงไม่ควรขี่รถจักรยานยนต์หรือรถยนต์ผ่านเส้นทางนี้ตอนค่ำๆโดยเด็ดขาดเพราะอาจไม่ปลอดภัย และอยากฝากไปยังผู้รับผิดชอบที่มีส่วนเกี่ยวข้องในการพัฒนาชุมชนเพื่อให้เกิดความเจริญทุกท่าน ช่วยสำรวจและปรับปรุงแก้ไขปัญหาเพื่ิอให้เกิดความเจริญและปลอดภัยแก่ชุมชนด้วย ฝากขอบคุณพี่ไบค์เกอร์(บิ๊กไบค์)ทั้ง2ท่านด้วยที่จอดรถช่วย (แต่เกือบยิงผมไปแล้ว)
และล่าสุดหลังจากผมได้นำเรื่องนี้ไปบอกกับผู้ใหญ่บ้านและผู้นำชุมชนหลายท่านรวมถึงผมได้นำเรื่องนี้โพสในเฟสบุคส่วนตัวของผมเองเพื่อเตือนพี่น้องประชาชนที่ใช้เส้นทางดังกล่าวให้ระวังตัว และวันนี้เทศบาลตำบลปอภาร อำเภอเมืองร้อยเอ็ด จังหวัดร้อยเอ็ดได้นำไฟส่องสว่างไปติดยังจุดที่เกิดเหตุ และถนนเส้นนี้ตลอดสายเรียบร้อยแล้ว ต้องขอกราบขอบพระคุณมา ณ ที่นี้ สิบเอกอภิสิทธิ์ กล่าว