วันที่ 20 พ.ย. 62 ความคืบหน้าจากกรณีผู้ใช้เฟซบุ๊ก “Nalinee Vongsavas” โพสต์ภาพคลิปวิดีโอพร้อมบรรยายข้อความระบุใจความว่า เมื่อวันที่ 13 พ.ย. พ่อของตนเองขับรถบรรทุกเดินทางไปส่งของ ระหว่างทางพบด่านตำรวจตรวจที่สามร้อยยอด พ่อถูกตำรวจจับ เพราะถูกกล่าวหาว่ามียาบ้าไว้ในครอบครอง 1 เม็ด ทั้งที่ตรวจพ่อแล้วไม่พบว่ามีเสพสารเสพติด จากการตรวจสอบกล้องวงจรปิดภายในรถ พบว่ามีตำรวจแอบขึ้นไปบนรถ ไปอยู่ตรงจุดที่พบยาบ้า ก่อนลงมาจากรถ และขอค้นรถ โดยถามพ่อว่าเล่นยาไหม พ่อยังบอกว่าไม่ยุ่งกับยา ค้นได้เลย แต่ต้องขึ้นไปตรวจพร้อมกัน
ตำรวจอีกคนจึงขึ้นไปตรวจค้นบนรถ และไปพบยา 1 เม็ด ตรงที่ตำรวจคนแรกขึ้นไปวางมือบริเวณนั้น ตนเองจึงสงสัยว่าตำรวจที่ขึ้นไปคนแรก น่าจะมีพิรุธจากการพบยา จึงอยากขอความเป็นธรรมกับเหตุการณ์เกิดขึ้น
ล่าสุด นายสมใจ (นามสมมติ) คนขับรถบรรทุกผู้เสียหาย เล่าว่า เหตุเกิดวันที่ 13 พ.ย. ช่วงเวลาประมาณ 02.00-03.00น. ตนเองได้ขับรถบรรทุกของบริษัทไปส่งแผ่นยางพาราจากชุมพร ไปส่งที่ จ.ระยอง ขณะเดินทางไปมาจนถึงจุดด่านตรวจสกัดของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สามร้อยยอด ตำรวจได้โบกเรียกเพื่อตรวจค้น ตนเองได้ให้ตรวจค้นเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ โดยเปิดประตูรถค้างไว้ จากนั้นตำรวจจำนวน 3-4 นาย เดินเข้ามาล้อมตนเอง และพยายามสอบถามจนตนเองเริ่มสับสน ก่อนที่ตำรวจคนหนึ่งเดินไปที่ด้านท้ายรถและบอกกับตนเองว่าไฟท้ายรถเสีย เหมือนเป็นการดึงความสนใจให้ตนเองเดินไปดูที่ท้ายรถ
จังหวะนั้นก็มีตำรวจคนหนึ่งเดินขึ้นไปบนรถ ขณะที่ตนเองกำลังคุยกับตำรวจอีกคนหนึ่งอยู่ แต่ด้วยความบริสุทธิ์ใจตนเองก็ไม่ได้ว่าอะไร ก่อนที่ตำรวจคนที่ขึ้นไปจะลงมาจากรถ และทำเป็นลงมาชวนคุยกับตนเอง ซึ่งก่อนที่จะมีตำรวจคนที่ 2 ขึ้นไปขอตรวจค้น ตนก็ได้บอกไปว่า “จะทำอะไรดี ๆ ในรถมีกล้อง” ซึ่งตนพูดเพื่อให้ตำรวจไม่กล้าทำอะไรไม่ดีกับตนเอง เพราะเคยได้ยินข่าวอยู่บ่อยครั้ง
ตำรวจตรวจค้นไปสักพักจนไปพบยาเสพติดอยู่บนรถบริเวณช่องวางของระหว่างเบาะคนขับ และเรียกให้ตนเองมาดูว่ามียาเสพติดอยู่จำนวน 1 เม็ด ตอนนั้นยอมรับว่าตกใจ และปฏิเสธตำรวจไปทันทีและพูดกับตำรวจว่า “คุณจะมาแกล้งผมแบบนี้ไม่ได้ ยาเสพติดผมไม่เคยยุ่งมาก่อน พาผมไปตรวจดูก็ได้ ด้วยความบริสุทธิใจ”
หลังจากพูดคุยอยู่พักหนึ่ง เจ้าหน้าที่ก็บอกว่าให้ตนเองขับรถเลยจุดตรวจไปหน่อย เพื่อมาคุยกันที่โต๊ะเสียค่าปรับ เมื่อไปถึงตำรวจก็ถามตนเองว่าจะเคลียร์ไหม ตนเองก็บอกว่า “ผมจะเคลียร์ได้ยังไง ไม่ใช่ของผม” และไม่ยินยอมที่จะเสียค่าปรับใด ๆ ทั้งสิ้น จากนั้นตำรวจจึงควบคุมตัวไปขังคุกไว้ที่ สภ.สามร้อยยอด เพื่อเตรียมส่งฟ้องศาลในวันที่ 14 พ.ย. และให้ลงบันทึกการจับกุมไว้ เนื่องจากตนเองไม่ยอมรับสารภาพ ก่อนจะนำส่งฟ้องศาล แต่ญาติได้ขอประกันตัวไว้เพื่อขอสู้คดี
อย่างไรก็ตาม ตนเองก็อยากจะขอให้ตำรวจชั้นผู้ใหญ่ให้ความเป็นธรรมกับตนเองด้วย เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นตนเองไม่ได้เป็นฝ่ายผิด หากโดนจับไปครอบครัวก็จะต้องลำบาก และอยากให้ทางหน่วยงานที่เกี่ยวข้องช่วยตรวจสอบรอยนิ้วมือจากยาเสพติด หากเป็นของตนเองก็ยอมติดคุก แต่หากเป็นของตำรวจขอให้ดำเนินคดีด้วยความยุติธรรม
ด้านนางสาวนลินี วงศ์สวัสดิ์ อายุ 27 ปี ลูกสาวผู้เสียหาย เล่าว่า ตนเองก็รู้สึกว่าพ่อไม่ได้รับความเป็นธรรม ซึ่งหลังจากโพสต์คลิปดังกล่าวก็มีตำรวจติดต่อมาทางเฟซบุ๊ก โดยสั่งให้ลบคลิป อ้างว่าจะผิดกฎหมาย เพราะทำให้เจ้าหน้าที่เสียหาย แต่ตนเองยังยืนยันว่าจะไม่ลบ ซึ่งเรื่องราวที่เกิดขึ้นยืนยันว่าจะไม่ยอมเด็ดขาด เพื่อเป็นกรณีตัวอย่างให้สังคม ตนยืนยันได้ 100 เปอร์เซ็นต์ว่ายาเสพติดดังกล่าวไม่ใช่ของพ่อตนเองแน่นอน
ขณะที่ พล.ต.ต.สุรศักดิ์ สุขแสวง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เปิดเผยว่า ภายหลังรับทราบเรื่อง ได้มีคำสั่งตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริง และตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างละเอียด ยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
นอกจากนี้ ยังได้กำชับให้ตำรวจตรวจค้นรถทุกคันอย่างละเอียดรอบคอบต่อไป เพราะที่ผ่านมามียาเสพติดขนส่งทางรถบรรทุกบ่อยครั้ง เช่น เมื่อต้นเดือนที่ผ่านมา พบรถพ่วง 18 ล้อ นำยาบ้า 1 ล้านเม็ด ใส่ในห้องโดยสารของคนขับ จึงอยากให้ประชาชนเข้าใจการทำงานของเจ้าหน้าที่ด้วย
https://youtu.be/X3Xkwv-ulOo