สินเชื่อส่วนบุคคลพุ่งห่วงคนไทยหนี้ท่วม

วันนี้ (12ธ.ค.61) หลังจากที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ออกมาตรการคุมเข้มสินเชื่ออสังหาริมทรัพย์ ล่าสุด มีความเป็นไปได้ที่ธปท. อาจจะออกมาตรการดูแลระบบการเงิน หรือ แมคโครพรูเด็นเชียล เพิ่มเติม เพื่อมาควบคุมการก่อหนี้ส่วนบุคคล เน้นไม่ให้มีการก่อหนี้เกินตัว หลังจากภาวะหนี้ครัวเรือนยังอยู่ระดับสูง ซึ่งมุมมองคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) แสดงความกังวลอย่างต่อเนื่องจากการคงดอกเบี้ยต่ำเป็นเวลานาน

นายยรรยง ไทยเจริญ รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสูงสุด ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ (อีไอซี) ธนาคารไทยพาณิชย์ มองว่า ส่วนที่ยังสามารถใช้มาตรการแมคโครพรูเด็นเชียลเข้าไปดูแลเพิ่มเติมได้ คือ สินเชื่อบัตรเครดิต และสินเชื่อบุคคล ที่อาจจำกัดวงเงินทุกใบต่อบุคคล จากมาตรการก่อนหน้านี้ ให้วงเงิน 1.5-5 เท่าต่อใบ สำหรับผู้ที่มีรายได้ต่ำกว่า 3 หมื่นบาทต่อเดือน และให้ถือบัตรได้ไม่เกิน 3 ใบ

ทั้งนี้ เนื่องจากภาระหนี้ครัวเรือนสูง อีกทั้ง กลุ่มผู้มีรายได้น้อยและปานกลาง มีรายได้เพิ่มขึ้นช้า ส่งผลให้แนวโน้มการบริโภคภาคเอกชนในปี 2562 ไม่กระจายตัวมากนัก

นอกจากนี้ ภาคธุรกิจและภาคครัวเรือนที่มีการกู้ยืมในสัดส่วนสูง อาจมีความท้าทายเรื่องการบริหารจัดการต้นทุนทางการเงิน ที่จะเปลี่ยนไปตามแนวโน้มอัตราผลตอบแทนพันธบัตรที่ทยอยปรับตัวสูงขึ้น

ทั้งนี้ ข้อมูลจากศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า ในไตรมาส 3 ปี 2561 สินเชื่ออุปโภคและบริโภค คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 33.7 ของสินเชื่อรวม เป็นการเพิ่มของสินเชื่อรถยนต์ สูงสุด ร้อยละ 12.5 ตามด้วย สินเชื่อบุคคล สินเชื่อบัตรเครดิต และสินเชื่อที่อยู่อาศัย ในขณะที่ สินเชื่อโครงการขนาดใหญ่ขยายตัวเพียง ร้อยละ 0.6

ขณะเดียวกัน ผลสำรวจสถานภาพหนี้ครัวเรือนไทย ปี 2561 ของศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย พบว่า จำนวนหนี้เฉลี่ยครัวเรือนในปี 2561 มีมูลค่า 3 แสน 1 หมื่น 6 พันบาทต่อครัวเรือน ซึ่งเป็นมูลค่าสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หรือนับตั้งแต่ทำการสำรวจมาเมี่อปี 2552 ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 5.8 เทียบกับการสำรวจหนี้ครัวเรือนปี 2560 ที่มีหนี้ฉลี่ย 2.99 แสนบาท โดยหนี้ส่วนใหญ่มาจากหนี้เพื่อใช้จ่ายทั่วไป รองลงมาคือ หนี้ซื้อยานพาหนะหนี้เพื่อประกอบธุรกิจจ่ายบัตรเครดิตและหนี้ซื้อบ้าน