พรีเมียร์ ลีค อังกฤษ นัดที่ 9 สัปดาห์นี้ กลับมาเตะกันอีกครั้งหลังจากหลีกทางให้กับฟุตบอลทีมชาติไป 2 สัปดาห์ โดยสัปดาห์นี้ทีมต่างๆ ยังคงยึดตำแหน่งเดิมกันเหนียวแน่น ส่วนไฮไลท์เด็ดที่น่าจะเป็นประเด็นบนหน้าหนังสือพิมพ์ ก็คงหนีไม่พ้นอาการหัวร้อนของกุนซือ ปีศาจแดง โจเซ่ มูริญโญ่ ที่ปรี๊ดแตกเกือบมีเรื่องกับสต๊าฟฟ์โค้ชทีมเชลซี สัปดาห์นี้มีอะไรเกิดขึ้นบ้าง ไปดูกันเลยครับ!!
Chelsea 2 – 2 Manchester United
บิ๊กแมตช์ประจำสัปดาห์ เริ่มเตะกันไวตั้งแต่หัวค่ำคืนวันเสาร์ ต้องบอกลเยว่าเป็นเกมที่สนุกมากๆ ใครจะไปคาดคิดว่า แมนฯ ยู จะกลับมาเล่นได้เข้าฟอร์มอีกครั้ง รวมถึงการที่ดรอป อเล็กซิส ซานเชส แล้วเปิดทางให้กับ อองโตนี่ มาร์กซิยาล ได้โชว์ของเต็มที่กับ 2 ประตู ที่เกือบฝังสิงห์ไฮโซคาบ้าน แต่ก็ต้องชมลูกทีมของ เมอริซิโอ ซาร์รี่ ด้วย ที่ไม่ยอมแพ้จนวินาทีสุดท้าย ได้ลูกตีเสมอก่อนหมดเวลาเสี้ยววิจาก รอสส์ บาร์คลี่ย์ และไฮไลท์สำคัญของเกมก็เกิดขึ้นในจังหวะนั้นเอง ที่ทีมงานเชลซีเข้าไปดีใจผ่านหน้าซุ้มม้านั่งของยูไนเต็ด ซึ่งจากมุมของผู้ชมเราไม่มีทางรู้เลยว่าเกิดอะไรขึ้น เพราะภาพตัดมาอีกที โจเซ่ มูริญโญ่ กุนซือปีศาจแดง ได้ปรี่เข้าไปจะเอาเรื่อง ทุกสายตาทั่วโลกที่ดูถ่ายทอดสดรวมถึงในสนามวันนั้นต่างสงสัยไปตามๆ กัน ว่าอะไรที่ทำให้มูริญโญ่เดือดได้ขนาดนั้น?
AFC Bournemouth 0 – 0 Southampton
สมานฉันท์กันไปแบบปรองดองสำหรับทีมฟอร์มแรงของปีนี้ เดอะ เชอร์รี่ ที่เล่นเหมือนหมดแรง หรือว่าของขลังที่ลงไว้จะโดน นักบุญแดนใต้ ปัดเป่าออกไปหมดแล้ว สร้างสรรค์เกมติดขัดไปเสียหมด แต่ก็ยังดีที่มีแต้มติดมือ ทำให้ทีมจอมเซอร์ไพรส์ประจำปี ยังคงเกาะกลุ่มนำอยู่ที่ 6 ของตารางไปได้ อย่างเหนียวแน่นหนึบ
Cardiff City 4 – 2 Fulham
เจ้าสัวร้อยล้านกับความความฝันลมๆ แล้งๆ หลังจากลงทุนไปมหาศาลเมื่อซัมเมอร์ที่ผ่านมา เจ้าสัวลอนดอน ฟูเเล่ม ที่เหมือนจะออกตัวได้ดีในฐานะน้องใหม่ พรีเมียร์ แต่อยู่ไปอยู่มาทำท่าจะออกอาการเสียแล้ว หลังจากทีมควานหาชัยชนะไม่ค่อยเจอ ติดอยู่อันดับที่ 3 จากท้ายตาราง นัดนี้ก็ยังแถมบวกแต้มให้คู่แข่งหนีตกชั้นอย่าง คาร์ดิฟฟ์ ได้เปิดซิงคว้าชัยเกมแรกบนลีกสูงสุดไปเรียบร้อย จนมีข่าวลือหนาหูว่าอดีตกุนซือ เมืองทอง ยูไนเต็ด อาจจะกระเด็นตกเก้าอี้ในเร็ววัน หากผลงานยังไม่กระเตื้อง
Manchester City 5 – 0 Burnley
โชว์ฟอร์มสมกับเป็นเต็งแชมป์จริงๆ สำหรับเรือใบสีฟ้า เบิร์นลี่ย์ ที่ว่าฟอร์มดีๆ มาเยือนยังโดนถล่มกลับไปไม่ไว้หน้า โดยเฉพาะไฮไลท์ของเกมนี้กับการที่ โจ ฮาร์ท อดีตผู้รักษาประตูลูกหม้อของทีมเรือใบ กลับมาเยือนถิ่นเก่า เอติฮัท สเตเดี้ยม หลังจากระเหเร่ร่อนไปอยู่กับหลายทีมมาก่อนหน้านี้ และเกมนี้เพื่อนเก่าทั้งหลายก็พากันยิงไม่เห็นใจอดีตผู้รักษาประตูทีมชาติอังกฤษเลยทีเดียว กระซวกผู้มาเยือนไปถึง 5 แผล รวมถึงต้องบอกว่าถ้าไม่ได้ฮาร์ทช่วยเซฟ น่าจะมีไหลเกินครึ่งโหลแน่นอน
Newcastle United 0 – 1 Brighton & Hove Albion
ถือว่าเป็นทีมบ๊วยที่น่าสงสารที่สุดแล้วสำหรับ สาลิกาดง นิวคาสเซิล ที่เล่นดีแค่ไหนแต่ก็ยังไม่มีแต้ม นับรวมไปถึงเกมก่อนหน้าที่เจอ แมนฯ ยู ด้วย เพราะเกมนี้โอกาสยิงนับ 20 ครั้ง มากกว่าคู่แข่งเกือบ 3 เท่า แต่ก็ไม่สามารถทำให้ลูกทีมของ ราฟาเอล เบนิเตซ จะคว้าชัยชนะนัดแรกของฤดูกาลนี้ไปได้ บอกเลยว่าอาการหนักจริงๆ ทรงบอลดีแต่ผลสกอร์ไม่เป็นใจ รวมถึงเจ้าของทีมที่ไม่ให้ความร่วมมือใดๆ ในการเสริมทีม หรือว่าปีนี้จะเป็นปีสุดท้ายของทีมจากแดนอีสาน บนลีกสูงสุดของอังกฤษก็เป็นได้
West Ham United 0 – 1 Tottenham Hotspur
นอกจากนิวคาสเซิล อีกทีมที่อาการน่าเป็นห่วงก็คือ เวสต์แฮม ของกุนซือ มานูเอล เปเญกรินี่ ที่ผลงานเหมือนจะฟื้นหลังจากเอาชนะแมนฯ ยู มาได้ แต่หลังจากนั้นเหมือนดีแตก เพราะความหวังแดนหน้าไว้ใจใครไม่ได้เลย ยามที่ไม่มีกองหน้าตัวเก่ง มาร์โก อาเนาร์โตวิช นัดนี้ทำศึกลอนดอนดาร์บี้กับไก่เดือยทอง ที่ฟอร์มหล่นหน่อยๆ แต่ได้ทีเด็ดจาก เอริค ลาเมล่า น่าวนใจว่าอนาคตของ เปเญกรินี่ กับเก้าอี้ร้อนๆ ของ เบนิเตซ ใครจะปลิวก่อนกัน
Wolverhampton Wanderers 0 – 2 Watford
สะดุดจนได้สำหรับทีม วูฟแฮมตัน โปรตุกีส วอนเดอเรอร์ หลังจากฟอร์มร้อนแรงฉุดไม่อยู่มาหลายต่อหลายเกม นัดนี้เหมือนเล่นกันหลุดฟอร์ม ทำอะไรไม่เป็นชิ้นเป็นอันสักอย่าง กลับกันเป็นทาง แตนอาละวาด ที่อาศัยจังหวะผิดพลาดของเจ้าถิ่น ยิง 2 ประตูรวด คว้าชัยไปได้อย่างไม่ยากเย็น เป็นอีกนัดที่น่าผิดหวังของหมาป่า แต่ยังน่าเชื่อเหลือเกินว่าปีนี้ทีมน่าจะเอาตัวรอดบนลีกสูงสุดได้ไม่น่าเป็นห่วงนัก
Huddersfield Town 0 – 1 Liverpool
กลับเข้าฟอร์มจนได้สำหรับ หงส์แดง ที่ใช้คำว่ากลับเข้าฟอร์มไม่ใช่ว่าเพรราะกลับมาชนะนัดแรก หลังจากเสมอมาติดๆ กัน แต่เป็นการกลับมาเล่นแบบที่แฟนบอลลุ้นกันหืดจับจนจบเกม เนื่องจากกองหน้าปืนฝืด รวมถึงกองหลังที่ยังพร้อมสร้างงานสร้างอาชีพให้กับทีมอยู่เสมอ โดยที่นัดนี้ได้ทีเด็ดจาก โมฮาเหม็ด ซาลาห์ ที่สลัดความสากยิงประตูชัย ช่วยให้ทีมเครื่องจักรสีแดงยังคงไร้พ่าย และเกาะกลุ่มนำไปอย่างต่อเนื่อง เป็นปัญหาที่กุนซือ เจอเก้น คล็อปป์ ต้องแก้ไขเรื่องความสม่ำเสมอ รวมถึงอีกอย่างที่ต้องกังวลคือการที่นักเตะนัดกันเจ็บ ทำให้ทีมทำผลงานได้ไม่ต่อเนื่องอีกด้วย
Everton 2 – 0 Crystal Palace
ส่วนคู่สุดท้าย คืนนี้ที่สนาม Emirate Stadium ปืนใหญ่ Arsenalที่ฟอร์มแรงสุดฉุดไม่อยู่ ชนะรวดมา 9 นัดติดต่อกันทุกรายการ จะเปิดรังรับมือ จิ้งจอกสยาม Leicester City แล้วมาดูกันว่าคลังแสงแห่งลอนดอน จะยังคงฟอร์มร้อนแรงไปได้อีกสักกี่นัด คืนวันจันทร์ที่ 22 ตุลาคม 2561 เวลา 02.00 น. แฟนฟุตบอลพรีเมียร์ ลีก ห้ามพลาดเด็ดขาด!!
