โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

สำรวจพฤติกรรมนักอ่านไทยผ่านผลตอบรับงานสัปดาห์หนังสืออนไลน์

BLT BANGKOK

เผยแพร่ 08 เม.ย. 2563 เวลา 11.48 น. • BLT Bangkok
สำรวจพฤติกรรมนักอ่านไทยผ่านผลตอบรับงานสัปดาห์หนังสืออนไลน์

ผ่านไปเป็นที่เรียบร้อยกับงานสัปดาห์หนังสือออนไลน์ปีแรกที่จัดขึ้นมาในวันที่25 มี.ค. - 5 เม.ย. 63 โดยทางสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย(PUBAT) เผยว่าตลอดระยะเวลา12 วันที่จัดงานมียอดรวมผู้เข้ามาใช้งานเว็บไซต์www.ThaiBookFair.com มากถึง660,000 ราย แบ่งเป็นผู้ใช้งานรายใหม่(New Visitor) จำนวน68% และผู้ใช้งานซ้ำ(Returning Visitor) จำนวน32% โดยเป็นผู้ใช้งานจากพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล60% ส่วนต่างจังหวัด40%

โดยโทรศัพท์นับเป็นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่นักอ่านใช้ในการชอปปิงมากที่สุด66% รองลงมาคือคอมพิวเตอร์29% และแท็บเล็ต5% ซึ่งช่วงเวลาที่มีจำนวนผู้เข้าใช้งานเว็บไซต์มากที่สุดจะเป็น13:00-19:00 น. และยอดจำหน่ายที่เกิดขึ้นตลอดการจัดงานที่มีสำนักพิมพ์กว่า200 แห่งนั้นอยู่ที่36 ล้านบาท ถึงแม้จะอยู่ในสัดส่วนที่น้อยมากเมื่อเทียบกับยอดจำหน่ายงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติปีที่แล้ว ซึ่งจัดที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติศิริกิติ์ที่มีรายได้อยู่ที่494 ล้านบาท

แต่ด้วยปัจจัยด้านการชะลอตัวของเศรษฐกิจ วิกฤตการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 และการปรับเปลี่ยนรูปแบบการจัดงานมาเป็นออนไลน์ครั้งแรก ฯลฯ ทำให้ทางสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย(PUBAT) ยังมองว่าเป็นตัวเลขที่น่าพอใจ และประเภทหนังสือที่ได้รับความนิยมมากที่สุด5 อันดับแรกจากงานสัปดาห์หนังสืออนไลน์ที่ผ่านมามีดังนี้1.วรรณกรรม ซึ่งเป็นหมวดที่ได้รับความนิยมจากนักอ่านเป็นระดับต้นๆ มาตลอด, 2.การ์ตูนและไลท์โนเวล ซึ่งเข้ากับกลุ่มผู้อ่านรุ่นใหม่ที่ชอบภาษาอ่านง่าย และมีงานภาพสวยๆ, 3.จิตวิทยาพัฒนาตัวเอง แสดงให้เห็นว่าผู้อ่านยังคงให้ความสำคัญกับการพัฒนาตัวเอง, 4.การศึกษา เป็นหมวดสามัญประจำบ้านที่นำไปใช้เรียนรู้สำหรับเยาวชนทุกระดับ, 5.ประวัติศาสตร์ซึ่งความหลากหลายของงานเขียนแนวประวัติศาสตร์ที่ออกมาในปัจจุบันทำให้ไม่เป็นที่น่าแปลกใจที่หนังสือหมวดประวัติศาสตร์ติดอยู่ในอันดับต้นๆ

และหากเรามองไปยังภาพรวมเกี่ยวกับพฤติกรรมการอ่านหนังสือของคนไทยทั้งประเทศจากผลสำรวจการอ่านของประชากรปี2561 ในกลุ่มประชากรตัวอย่าง55,920 คน ทั้งในและนอกเขตเทศบาลทั่วประเทศ ซึ่งจัดทำโดยสำนักงานอุทยานการเรียนรู้(TK Park) ร่วมกับ สำนักงานสถิติแห่งชาติ พบว่าคนไทยยังคงเลือกอ่านหนังสือเล่มอยู่ถึง88% แม้ปฎิเสธไม่ได้ว่าการเข้ามาของสื่ออิเล็กทรอนิกส์จะทำให้อัตราดังกล่าวลดลงไปเมื่อเทียบกับปี2558 ซึ่งจำนวนคนไทยที่อ่านหนังสือเล่มอยู่ที่96.1% แต่ก็ยังถือว่าเป็นการลดลงไปในจำนวนที่น้อยมาก ยิ่งเมื่อเทียบกับอัตราการอ่านหนังสือบนสื่ออิเล็กทรอนิกส์ในปี2561 ซึ่งอยู่ที่75.4% นั้น สะท้อนให้เห็นอย่างชัดเจนว่าหากหนังสือเล่มได้รับการออกแบบรูปเล่มอย่างสวยงาม เนื้อหาภายในที่มีคุณภาพ และตรงตามความต้องการของนักอ่านที่เป็นกลุ่มเป้าหมาย หนังสือเล่มก็ยังคงเคียงคู่ไปกับสื่อใหม่อย่างอิเล็กทรอนิกส์ได้ต่อไปแน่นอน แม้จะไม่ได้ยืนอยู่ในฐานะสื่อที่คนเลือกเสพอันดับ1 อีกต่อไปก็ตาม

โดยผลสำรวจในครั้งนี้ยังลงรายละเอียดไปจนถึง10 จังหวัดที่มีจำนวนคนอ่านหนังสือมากที่สุดดังนี้1.กรุงเทพฯ92.9%, 2.สมุทรปราการ92.7%, 3.ภูเก็ต91.3%, 4.ขอนแก่น90.5%,  5.สระบุรี90.1%, 6.อุบลราชธานี88.8%, 7.แพร่87.6%, 8.ตรัง87.2%, 9.นนทบุรี86.6%, 10.ปทุมธานี86.2%

ส่วนทิศทางของวงการหนังสือในบ้านเรานั้น นางสาวโชนรังสี เฉลิมชัยกิจนายกสมาคมผู้จัดพิมพ์และผู้จำหน่ายหนังสือแห่งประเทศไทย(PUBAT) ได้กล่าวว่าหลังจบงานสัปดาห์หนังสือครั้งนี้ ทางสมาคมมีแผนรวบรวมปัญหา และข้อเรียกร้องของสำนักพิมพ์ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ไปยังภาครัฐเพื่อให้มีมาตรการเยียวยาผู้ประกอบการในวงการหนังสือต่อไปเพราะมีหลายสำนักพิมพ์ที่ได้รับผลกระทบมากเช่นเดียวกับธุรกิจต่างๆ ของประเทศไทย

และอิเวนต์งานหนังสือครั้งต่อไปอย่างงานเชียงใหม่ บุ๊คแฟร์ ครั้งที่5 ในวันที่26 มิ.ย. - 7 ก.ค. 63 ที่เชียงใหม่ฮอลล์ ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา เชียงใหม่ แอร์พอร์ต และงานมหกรรมหนังสือระดับชาติ ครั้งที่25 (Book Expo Thailand 2020) ในเดือนตุลาคม ที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี นั้น หากสถานการณฺ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในบ้านเรายังไม่ดีขึ้น ก็อาจจะจัดออกมาในรูปแบบออนไลน์เช่นเดียวกัน โดยจะมีการนำประสบการณ์ในการจัดงานสัปดาห์หนังสือออนไลน์ครั้งนี้มาพัฒนา และเสริมความน่าสนใจของกิจกรรมต่างๆ เพิ่มเติม อีกทั้งจากความสำเร็จในการจัดงานสัปดาห์หนังสือออนไลน์ครั้งนี้ หลายสำนักพิมพ์ที่เข้าร่วมยังได้ร่วมมือกันเพื่อเปิดให้บริการwww.ThaiBookFair.com ในรูปแบบOnline Book Market หรือศูนย์รวมหนังสือที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย24 ชั่วโมง ต่อไป เพราะเป็นการเพิ่มช่องทางหลักในการชอปปิงหนังสือช่วงที่ร้านหนังสือส่วนใหญ่ยังต้องปิด

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0