เมื่อช่วงเช้าของ วันนี้ (18 ม.ค. 62) นายจงคล้าย วรพงศธร รองอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช พร้อมด้วยพลเรือตรี อาภากร อยู่คงแก้ว ผู้บัญชาการ หน่วยบัญชาการสงครามพิเศษทางเรือ หรือ ผบ.หน่วยซีล นำคณะที่เกี่ยวข้องและนักสำรวจถ้ำ เข้าไปสำรวจถ้ำหลวง เพื่อสำรวจและบันทึกภาพ เครื่องจักร อุปกรณ์ ในปฏิบัติการค้นหา ช่วยเหลือ 13 หมูป่า ระหว่างวันที่ 23 มิถุนายน -10 กรกฎาคม 2561 ที่ผ่านมา
โดยเจ้าหน้าที่แบ่งทีมสำรวจออกเป็น 2 ทีมในการสำรวจและบันทึกภาพ ซึ่งชุดแรกนำโดย รองอธิบดีกรม อุทยานฯ และชุดที่ 2 นำโดย ผบ.หน่วยซีล ซึ่งใช้เวลาในการสำรวจประมาณ 5 ชั่วโมง
การสำรวจครั้งนี้ เจ้าหน้าที่ไปถึงได้แค่บริเวณสามแยก เนื่องจากไม่สามารถเดินหน้าต่อไปได้ และออกซิเจนภายในถ้ำเบาบาง รวมทั้งมีน้ำไหลออกจากหินงอกหินย้อยตามผนังอยู่ตลอดเวลา เจ้าหน้าที่ จึงตัดสินใจกลับออกมาก่อน
อย่างไรก็ตาม ผลการสำรวจ พบว่าภายในถ้ำมีถังออกซิเจนวางอยู่ตลอดรายทาง โดยมีอยู่ที่โถงที่ 3 ประมาณ 100 กว่าถัง โถงที่ 2 ประมาณ 100 กว่าถัง ซึ่งในโถงทั้ง 2 แห่งยังพบเปลสนามและสายเชือกที่ใช้สำหรับเชื่อมโยงเส้นทางถึงกันตลอดรายทาง โดยพบระหว่างโถงที่ 2-3 มากที่สุด เพราะโถงที่ 2 มีความยาวและภูมิประเทศที่ขรุขระ และเต็มไปด้วยหน้าผาและซอกหินผาสูงต่ำจำนวนมาก
พลเรือตรี อาภากร กล่าวว่า จากการเข้าไปสำรวจสภาพภายในถ้ำทุกอย่างยังอยู่ในสภาพเดิมเหมือนกับตอนที่ได้เข้าไปช่วยเหลือ 13 หมูป่า ซึ่งในครั้งนั้นเมื่อช่วยเด็กออกมาได้ ก็ตัดสินใจกันว่าจะทิ้งเครื่องมือและอุปกรณ์ทุกอย่างไว้ในถ้ำก่อน รอจนน้ำแห้งจึงจะเข้าไปดู และจะเข้าไปเอาออกมา แต่ว่าไปได้ถึงแค่ 3 แยก เลยสามแยกยังมีน้ำท่วมอยู่ ซึ่งสภาพที่เห็น ทุกคนก็ยอมรับว่าในการช่วยเหลือ 13 หมูป่านั้น เป็นปฎิบัติการที่ต้องใช้ความพยายามสูงมาก
ด้าน นายจงคล้าย กล่าวว่า เท่าที่ได้เข้าไปดู คาดว่าต้องรออีกประมาณ 1 เดือนเป็นอย่างต่ำ ว่าจะทำยังไงกันต่อ ภารกิจวันนี้เข้าไปดูบันทึกภาพ ไม่มีการเคลื่อนย้ายสิ่งใดในถ้ำหลวง ทุกอย่างยังอยู่เหมือนเดิมเหมือนกับตอนที่กำลังปฏิบัติช่วย 13 หมูป่า จากนี้จะได้มีการปรึกษาหารือกันว่า จะบริหารจัดการทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ภายในถ้ำกันอย่างไร
เบื้องต้น ได้เข้าไปเคลียร์เรื่องขยะที่ตกค้างอยู่ในถ้ำเท่านั้น