โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

สำรวจความเห็นเซียน ทำอย่างไรในวันที่หุ้นไทยร่วงแรง!

Stock2morrow

อัพเดต 21 มิ.ย. 2561 เวลา 04.06 น. • เผยแพร่ 21 มิ.ย. 2561 เวลา 04.30 น. • Stock2morrow
สำรวจความเห็นเซียน ทำอย่างไรในวันที่หุ้นไทยร่วงแรง!
สำรวจความเห็นเซียน ทำอย่างไรในวันที่หุ้นไทยร่วงแรง!

ตลาดหุ้นไทยร่วงแรงกว่า 40 จุด ฉุดให้ Market Cap หายไปมากกว่า 4 แสนล้านบาท รายย่อยขาดทุนกันระนาว ต่างชาติทิ้งหุ้นไทยไปแล้วเกือบ 2 แสนล้านบาท นี้อาจจะเป็นประโยคในวงสนทนาของกลุ่มคนในตลาดหุ้นหรือคอเศรษฐกิจ ที่อาจจะตกใจกับเหตุการณ์เมื่อวานนี้ แต่ถ้าเรามองดูโดยรอบจะเห็นได้ว่าไม่ใช่แค่ตลาดหุ้นไทยเพียงตลาดเดียว แต่ตกหนักกันทุกประเทศ ซึ่งโดยหลักแล้วจะกังวลกับปัจจัยภายนอกมากกว่าไม่ว่าจะเป็นเรื่องของสงครามการค้าที่ดูรุนแรงขึ้น ค่าเงินบาทที่อ่อนตัวอย่างรวดเร็ว ส่วนปัจจัยภายในประเทศก็ยังดูไร้ทิศทางไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเศรษฐกิจที่โตช้ากว่าที่คาด การไม่ชัดเจนในเรื่องโครงสร้างพื้นฐานประเทศ การลงทุนโครงการใหญ่ๆ

แต่ประเด็นสำคัญ คือ เมื่อหุ้นไทยร่วงหนักเช่นนี้ เราควรจะทำตัวอย่างไรดี …. 
ทางเลือกที่ 1. ขายหุ้นออกไปก่อนดีไหม แล้วค่อยไปรับข้างล่าง
ทางเลือกที่ 2. ซื้อสวน! 
ทางเลือกที่ 3. อยู่เฉยๆ ไม่ซื้อไม่ขาย รอตลาดนิ่งๆก่อนค่อยดูจังหวะอีกที

ไม่ว่าจะเลือกทางไหนก็ตาม ก็ขึ้นอยู่กับมุมมองของนักลงทุนแต่ละคน แต่ก็อดไม่ได้ที่จะฟังความคิดเห็นจากท่านอื่น วันนี้เราจะลองมาฟังความเห็นจาก "เซียนหุ้น" กันดูครับ

 

ดร.ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย กล่าวว่าการที่หุ้นไทยร่วงแรงนั้นเกิดจากปัจจัยภายนอกมากดดัน แต่นั้นเป็นเรื่องระยะสั้นและอยากให้นักลงทุนชาวไทยมองเป็นเรื่องระยะยาวเศรษฐกิจไทยยังคงแข็งแกร่งและกำไรบริษัทจดทะเบียนเติบโตได้ดี
"ตอนนี้หุ้นไทยโดนต่างชาติขายไป 1.6 แสนล้านคาดว่าน่าจะเป็นการขายทำกำไรบางส่วน ถ้าเศรษฐกิจมีความชัดเจน สภาพคล่องชัดเจน เชื่อว่าหุ้นไทยจะกลับมา Outperform ได้อีกครั้ง"

 

ดร.นิเวศน์ เหมวชิรวรากร กูรูวีไอชื่อดังให้สัมภาษณ์กับ Money Channel ว่า ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรกับการที่หุ้นไทยปรับฐานในช่วงนี้เพราะขึ้นมาสูงพอสมควร และยังเน้นย้ำว่าปรับตัวลงไม่มาก

ดร.นิเวศน์ เชื่อว่าปัจจุบันตลาดหุ้นไทยถือว่าไม่ถูก การปรับตัวลงรอบนี้ไม่เรียกว่า "Panic Sell" สิ่งที่กังวล คือ "Panic Sell" ในระยะถัดไปต่างหาก จึงยังไม่ได้เข้าซื้อหุ้นเพิ่ม และไม่ได้ขายหุ้นตัวไหนออกไป แถมยังทิ้งท้ายอีกว่า ตอนนี้ใครมีหุ้น P/E ตั้งแต่ 30 เท่า 50 เท่า 100 เท่าขึ้นไป ต้องระวัง เพราะถ้าหากกำไรของบริษัทนั้นไม่สามารถเติบโตได้โดดเด่นจริงๆ ไม่มีพื้นฐานรองรับ ในช่วงที่เกิดภาวะ Panic Sell หุ้นพวกนี้จะปรับตัวลดลงรุนแรง

 

คุณป้อม วัฒนา ชื่นจิตรวงษา นักลงทุนชื่อดังและเจ้าของแฟนเพจ Wattana Stock Page ที่มีนักลงทุนรายย่อยหลายหมื่นคนติดตาม ได้ให้ความเห็นว่า ถ้ามองในมุมนักเทคนิคเป็นเพราะตลาดหลุดแนวรับสำคัญจึงปรับตัวลง แต่หากมองในแง่ของภาพรวม ก็ต้องบอกว่า ลงแรงเกินไป!! เพราะปัจจัยภายในของบ้านเราก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง 
ถ้านักลงทุนมองว่าไม่สมเหตุสมผลในการปรับตัวลง ก็น่าจะเป็นโอกาสที่ดีในการซื้อหุ้น แต่หากมองว่า การปรับตัวครั้งนี้ น่าจะยังลงต่อได้อีก ก็เลือกใช้กลยุทธการลงทุนตามมุมมองที่ตนเองมีได้

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ อธิป กีรติพิชญ์
ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ อธิป กีรติพิชญ์

พี่นิ้วโป้ง อธิป กีรติพิชญ์ นักลงทุนแนว Fundamental VI ได้ให้ความเห็นในตลาดหุ้นช่วงนี้ว่า ในระยะสั้นต่างชาติขายหนักอาจจะยังไม่ค่อยดี แต่ถ้าระยะกลางถึงยาว Emerging Market รวมทั้งไทย ยังดูดีอยู่ การค้นหาหุ้นที่มีปันผล 3%+ ไม่ใช่เรื่องยากและสามารถเอาชนะเงินฝากได้ สุดท้ายถ้าหุ้นมันดีจริง เด๋วก็กลับมาทำจุดสูงสุดใหม่

 

พี่หยง หยง ธำรงชัย เอกอมรวงศ์ เทรดเดอร์ที่มีชื่อเสียงมากในวงการหุ้นไทยได้ให้ความเห็นตลาดช่วงนี้ว่า SET เด้งตามจังหวะแต่ยังไม่ใช่ขาขึ้น อาการไม่น่าไว้ใจ ให้รักษาทุนก่อนเป็นอันดับแรก ช่วงนี้ให้มองหุ้นแข็งแกร่งจดรายชื่อเอาไว้ เมื่อ SET ยืนระดับได้จริงๆ ค่อยซื้อก็ยังไม่สาย

 

นายกัมพล จันทวิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบล.ไทยพาณิชย์ ต่างชาติจะขายหุ้นไทยเกินกว่า 2 แสนล้านบาท เพราะกังวลในเรื่องสงครามการค้า ช่วงสั้นมีโอกาสลงไปถึง 1620 จุด แต่ฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการไว้ที่ 1900 จุด มองเป็นทยอยซื้อสะสม

 

คุณพีรพงศ์ จิระเสวีจินดา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บลจ.บัวหลวง เปิดเผยกับ "สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย" ตลาดหุ้นไทยเริ่มเข้าภาวะ Sideway down การถือครองเงินสดของกองทุนไทยอาจจะถือเพิ่มมากขึ้น อย่างเช่น บล.บัวหลวงจะถือเพิ่มเป็น 9-10% จากเดิมถือเพียง 6% มีการขายหุ้นบางตัวออกมาบ้าง แต่เป็นแค่การปรับพอร์ตปกติ เพราะหากเทียบกับเม็ดเงินที่เราบริหารกว่า 2 แสนล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนไม่ถึง 5% ด้วยซ้ำ

ค่าเงินบาทที่อ่อนตัวอย่างรวดเร็ว เป็นสัญญาณที่เด่นชัดว่า Fund Flow กำลังไหลออก

สอดคล้องกับคุณชาคริต พืชพันธ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการอาวุโส สายบริหารกองทุน บลจ.เอ็มเอฟซี ได้เปิดเผยกับสำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย กลุ่มนักลงทุนสถาบันเริ่มมีการปรับพอร์ต เพราะแม้จะมีปัจจัยบวกจากการลงทุนภาครัฐคอยหนุน แต่ในเชิงปฏิบัติมีความล่าช้าเกินไป โดยมีปัจจัยภายนอกคอยกดดันตลาดหุ้นไทยต่อเนื่อง ทั้งสงครามการค้า ราคาน้ำมัน เป็นต้น

นี้ก็เป็นความเห็นของเซียนหุ้นที่มาจากหลายสาขาไม่ว่าจะเป็นนักลงทุนวีไอ นักเก็งกำไร เทรดเดอร์ชั้นเซียน ผู้จัดการกองทุน นักวิเคราะห์ ทั้งนี้ทั้งนั้นการตัดสินใจต้องขึ้นอยู่กับตัวนักลงทุนเองครับ
 

หวังว่าตลาดหุ้นไทยจะไม่เป็นแบบนี้นานเกินไป …..

stock2morrow

ศูนย์รวมความรู้เรื่องหุ้น ศูนย์รวมนักลงทุนรายย่อย ที่อยากรู้วิธีการลงทุนในหุ้นอย่างถูกต้องและได้กำไรอย่างยั่งยืน ติดตามเราได้ที่ LINE@stock2morrow, FB:stock2morrow และ www.stock2morrow.com 

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0