โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

สำรวจการเสี่ยงโชคลุ้นรวย คนไทยเล่นหวย คนต่างชาติเล่นอะไร?

ประชาชาติธุรกิจ

อัพเดต 21 ม.ค. 2563 เวลา 08.32 น. • เผยแพร่ 21 ม.ค. 2563 เวลา 08.32 น.
Mega Millions Jackpot Becomes Largest Prize In U.S. History at $1.6 Billion
Photo by Drew Angerer/Getty Images

ภาคิน วลัยวรางกูร : เรื่อง

รายได้เฉลี่ยต่อครัวเรือนของประเทศไทยอยู่ที่ราว 27,000 บาทต่อเดือน (อ้างอิงจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ) ต้องใช้เวลาราว 19 ปี โดยที่ไม่ใช้จ่ายสักบาทจึงจะมีเงินเก็บถึง 6,000,000 บาท แต่หากใครคนหนึ่งถูกลอตเตอรี่รางวัลที่ 1 คนคนนั้นจะมีเงิน 6,000,000 บาทภายในชั่วข้ามคืน ด้วยเงินลงทุนราว 80-100 บาท/ใบ นี่อาจเป็นเหตุผลว่าทำไมลอตเตอรี่จึงเป็นที่นิยมสำหรับนักเสี่ยงโชคที่หวังจะรวยทางลัด ถึงแม้ว่าจะมีโอกาสถูกรางวัลที่ 1 เพียง 0.0001% หรือเพียง 1 ในล้านก็ตาม

นอกจากสลากกินแบ่งรัฐบาลแล้ว ก็ยังมีการเล่นหวยใต้ดินที่แพร่หลายทั่วประเทศ โดยอิงผลการออกรางวัลสลากกินแบ่งรัฐบาล ก็คือ การอิงเลขท้าย 2 ตัวของผลรางวัลที่ 1 ของสลากกินแบ่งรัฐบาล เป็น “เลขบน” เลขท้าย 3 ตัวของผลรางวัลที่ 1 ของสลากกินแบ่งรัฐบาลเป็น “เลข 3 ตัวบน” และผลการออกรางวัลเลขท้าย 2 ตัว เป็น “เลขล่าง” นอกจากนั้น ยังมีสารพัดรายการลุ้นโชคที่ยึดเอาตัวเลขจากการออกรางวัลต่าง ๆ มาเล่นกัน เช่น หวยสลากออมสิน หวยสลากออมทรัพย์ หวยหุ้น หวยปิงปอง หวยประเทศเพื่อนบ้าน ฯลฯ ก็ล้วนแต่ได้รับความนิยม บ้างก็เป็นการเพิ่มโอกาสในการเสี่ยงดวง บ้างก็ด้วยการออกผลรางวัลที่ถี่ ทำให้ (เชื่อว่าจะ) เพิ่มโอกาสในการถูกรางวัลมากขึ้น

ในปัจจุบันรัฐบาลกำลังผลักดัน “หวยอิเล็กทรอนิกส์” ที่ให้เหตุผลว่าเพื่อช่วยลดปัญหาการขายสลากกินแบ่งเกินราคา รวมถึงเพื่อให้คนเล่นหวยใต้ดินน้อยลง ทำให้เงินไหลคืนสู่ระบบมากขึ้น ซึ่งหลายฝ่ายตั้งคำถามว่าจะยิ่งเป็นการมอมเมาคนในประเทศยิ่งกว่าเดิมหรือเปล่า จากประเด็นนี้ทำให้เรานึกสงสัยว่าที่ต่างประเทศเขาเล่นลอตเตอรี่กันอย่างไร จึงได้รวบรวมข้อมูลสลากกินแบ่งที่น่าสนใจในต่างแดนมานำเสนอ ดังนี้

Powerball (สหรัฐอเมริกา)

พาวเวอร์บอลเป็นหนึ่งในสลากกินแบ่งที่ได้รับความนิยมในสหรัฐอเมริกา ด้วยเงินรางวัลแจ็กพอตที่สูงถึง 40 ล้านเหรียญสหรัฐ มีการประกาศรางวัลทุกวันพุธและวันเสาร์ เวลา 22.59 น. ตามเขตเวลาตะวันออกของสหรัฐ (ช้ากว่าไทย 12 ชั่วโมง) ซึ่งจำนวนเงินรางวัลแจ็กพอตที่ว่าจะถูกทบไปเรื่อย ๆ จนกว่าจะมีผู้ถูกรางวัล สถิติเงินรางวัลที่สูงที่สุดเคยมีมาอยู่ที่ 1,586 ล้านเหรียญ หรือราว 4.8 หมื่นล้านบาท เป็นสถิติเงินรางวัลจากลอตเตอรี่ที่สูงที่สุดในโลก

วิธีการเล่น คือ ผู้เล่นจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ 2 เหรียญต่อหนึ่งตา ในแต่ละตาสามารถเลือกได้ 6 หมายเลข ซึ่ง 5 หมายเลขแรกจะต้องเลือกระหว่างเลข 1 ถึง 69 ส่วนตัวสุดท้ายเรียกว่า เลข Powerball เลือกระหว่างเลข 1 ถึง 26 และยังสามารถจ่ายเพิ่มอีก 1 เหรียญ เพื่อคูณเงินรางวัลที่จะได้รับ (ยกเว้นรางวัลแจ็กพอต) เงินรางวัลเริ่มต้นอยู่ที่ 4 เหรียญ สำหรับการทายถูกหนึ่งหมายเลข โอกาสถูกรางวัลทั่วไปอยู่ที่ 1 ใน 25 ส่วนโอกาสถูกรางวัลแจ็กพอตอยู่ที่ 1 ใน 292 ล้าน (โอกาสถูกน้อยกว่ารางวัลที่ 1 ของไทยเกือบ 300 เท่า)

ในประเทศสหรัฐอเมริกา นอกจากพาวเวอร์บอลแล้ว ยังมี “เมกา มิลเลียนส์” (Mega Millions) ที่เป็นที่นิยม ซึ่งมีวิธีการเล่นและเงินรางวัลที่ใกล้เคียงกัน

Euro Millions (สหราชอาณาจักร, ฝรั่งเศส, สเปน, ออสเตรีย, เบลเยียม, ไอร์แลนด์, ลักเซมเบิร์ก, โปรตุเกส และสวิตเซอร์แลนด์)

ยูโรมิลเลียนส์มีเงินรางวัลแจ็กพอตเริ่มต้นที่ 17 ล้านยูโร ประกาศรางวัลทุกวันอังคารและวันศุกร์ เวลา 20.45 น. ตามเขตเวลาชาติยุโรปกลาง (ช้ากว่าไทย 6 ชั่วโมง) จำนวนเงินรางวัลแจ็กพอตจะถูกทบไปเรื่อย ๆ เช่นเดียวกับพาวเวอร์บอล แต่มีข้อแตกต่าง คือ จะมีเพดานมูลค่าสูงสุดที่ 190 ล้านยูโร หรือราว 6,400 ล้านบาท ซึ่งหากทบไปถึงจำนวนนี้แล้วยังไม่มีผู้ถูกรางวัลแจ็กพอตภายใน 5 รอบ เงินรางวัลนั้นก็จะถูกนำมาแบ่งให้ผู้ที่ถูกรางวัลรองลงมาแทน

ผู้เล่นจะมีค่าใช้จ่ายอยู่ที่ราว 2.5 ยูโรต่อหนึ่งตา โดยจะต้องเลือกหมายเลขทั้งหมด 7 หมายเลข ซึ่ง 5 ตัวแรกจะต้องเลือกระหว่างเลข 1 ถึง 50 ส่วนตัวสุดท้ายเรียกว่า เลข lucky star ให้เลือกระหว่างเลข 1 ถึง 12 เงินรางวัลเริ่มต้นอยู่ที่ 4 ยูโร สำหรับการทายหมายเลขหลักถูก 2 หมายเลข โอกาสถูกรางวัลทั่วไปอยู่ที่ 1 ใน 13 ส่วนโอกาสถูกรางวัลแจ็กพอตอยู่ที่ราว 1 ใน 140 ล้าน

สำหรับประเทศในยุโรปอื่นที่อยู่นอกเหนือขอบเขตของยูโรมิลเลียนส์ จะมีบริษัทลอตเตอรี่อีกเจ้าหนึ่ง ชื่อว่า “ยูโรแจ็กพอต” (Eurojackpot) ซึ่งมีวิธีการเล่นใกล้เคียงกับทั้งพาวเวอร์บอลและยูโรมิลเลียนส์ แต่รางวัลแจ็กพอตจะทบสูงสุดที่ 90 ล้านยูโร หรือราว 3,000 ล้านบาท

The Mega-Sena (บราซิล)

เดอะเมกา-เซนา คือ สลากกินแบ่งที่ได้รับความนิยมและมีรางวัลใหญ่ที่สุดในประเทศบราซิล ความน่าสนใจของสลากกินแบ่งนี้ คือ การจัดสรรเงิน 46% ของรายได้การขายในแต่ละรอบออกมาเป็นเงินรางวัลในรอบนั้น ๆ โดยที่ 35% ของเงินรางวัลจะแบ่งกันในกลุ่มคนที่ทายตัวเลขถูก 6 ตัว (ในกรณีที่ไม่มีคนทายถูกทั้ง 6 ตัว เงินรางวัลจะทบสะสมไปในรอบถัดไป) 19% สำหรับผู้ที่ทายตัวเลขถูก 5 ตัว อีก 19% สำหรับผู้ที่ทายตัวเลขถูก 4 ตัว 22% แบ่งและทบรวมไว้สำหรับจับรางวัลพิเศษทุก 5 รอบ และ 5% สุดท้ายทบรวมทั้งปีไว้สำหรับรางวัลแจ็กพอต “เมกา ดา วิราดา” (Mega da Virada) ที่เป็นการจับรางวัลพิเศษในคืนปีใหม่ การจับรางวัลเมกา ดา วิราดา ช่วงคืนปีใหม่เป็นที่นิยม เพราะการทบรวม 5% ในทุกรอบกลายเป็นรางวัลใหญ่ ซึ่งมีสถิติในปี 2018 อยู่ที่ 306.7 ล้านเรอัลบราซิล หรือราว 2,300 ล้านบาท

Takara-kuji Scratch Lottery (ญี่ปุ่น)

คำว่า takara ในภาษาญี่ปุ่นมีความหมายว่า “ทรัพย์สมบัติ” ส่วน kuji มีความหมายว่า “ใบเสี่ยงทาย” ซึ่งหมายถึงลอตเตอรี่นั่นเอง จริง ๆ ลอตเตอรี่ในประเทศญี่ปุ่นก็มีหลากหลายรูปแบบไม่แพ้ชาติใดในโลก แต่ลอตเตอรี่ประเภทที่เป็นที่นิยมที่สุด คือ “หวยขูด” (scratch lottery) หรือเพราะสามารถหาซื้อได้ง่าย แถมยังไม่มีความยุ่งยากในการลุ้นรางวัล เพียงแค่ซื้อมาแล้วใช้เหรียญขูดก็จะสามารถตรวจผลรางวัลได้ทันที ยิ่งมีตัวการ์ตูนหรือสัญลักษณ์ตรงตามข้อกำหนดมากเท่าไร เงินรางวัลก็จะยิ่งสูงขึ้นตาม ซึ่งเงินรางวัลจะอยู่ระหว่าง 50,000 เยน (ราว 14,000 บาท) ไปจนถึง 100 ล้านเยน (ราว 27 ล้านบาท) ซึ่งหากถูกรางวัลก็จะสามารถนำใบลอตเตอรี่ไปขึ้นเงินรางวัลได้ทันที

Fapiao Lottery (จีน)

ประเทศจีนมีลอตเตอรี่ที่เป็นที่นิยมที่สุด คือ “ลอตเตอรี่สวัสดิการ” (welfare lottery) และ “ลอตเตอรี่เพื่อการกีฬา” (sports lottery) อยู่แล้ว ซึ่งแต่ละอย่างก็มีหลากหลายเกมให้เลือกเล่นอีก อย่างไรก็ตาม หนึ่งไอเดียในการป้องกันการหลีกเลี่ยงภาษีของรัฐบาลจีนที่น่าสนใจและเคยใช้ได้ผล คือ Fapiao Lottery หรือหวยขูดจากใบกำกับภาษี ซึ่งเป็นการจูงใจให้คนซื้อขอใบเสร็จ และเพื่อทำให้พ่อค้าแม่ค้าทุกระดับเข้ามาอยู่ในระบบภาษีอีกทีหนึ่ง (เพราะถ้าไม่เข้ามาอยู่ในระบบก็จะไม่สามารถออกใบเสร็จหวยขูดให้ลูกค้าได้) ส่วนเงินรางวัลในแต่ละพื้นที่จะไม่เท่ากัน ขึ้นอยู่กับจำนวนคนในพื้นที่ตามระบบจัดแบ่งภาษี ในปัจจุบันรัฐบาลจีนเลิกออกใบเสร็จหวยขูดไปแล้ว เพราะหันไปใช้ระบบไอทีเข้ามาช่วยในการจัดการภาษีแทน จึงเปลี่ยนเป็นออกรางวัลเลขที่ใบกำกับภาษีแทน

The Speed Camera Lottery (สวีเดน)

สวีเดนเป็นประเทศในทวีปยุโรปที่มีลอตเตอรี่ที่เป็นที่นิยมอยู่แล้ว คือ “ยูโรแจ็กพอต” อย่างไรก็ดี ลอตเตอรี่ The Speed Camera Lottery นี้เป็นหนึ่งในไอเดียจากโครงการ “The Fun Theory” ของแบรนด์รถยนต์ Volkswagen ในปี 2010 ซึ่งเป็นไอเดียของนายเควิน ริชาร์ดสัน (Kevin Richardson) เพื่อจูงใจให้คนขับขี่ภายในความเร็วที่กฎหมายกำหนด โดยปกติผู้ที่ขับรถด้วยความเร็วเกินกำหนดจะต้องได้รับบทลงโทษอยู่แล้ว แต่ริชาร์ดสันมองว่า นอกจากลงโทษคนที่ทำผิดแล้ว การให้รางวัลคนที่ทำถูกกฎหมายก็น่าจะช่วยได้ เมื่อไรก็ตามที่มีรถขับด้วยความเร็วตามที่กฎหมายกำหนด ระบบจะใส่ชื่อเจ้าของรถเข้าไปในลิสต์สลากกินแบ่ง แม้เงินรางวัลอาจจะไม่ได้สูงมาก แต่มีที่มาจากค่าปรับที่ได้มาจากพวกที่ขับรถเร็วเกินกำหนดนั่นเอง ผลก็คือ ความเร็วเฉลี่ยที่กล้องจับได้ลดลงจาก 32 กิโลเมตร/ชั่วโมง เหลือเพียง 25 กิโลเมตร/ชั่วโมงเท่านั้น

กลับมาที่ประเทศไทย มีข้อมูลเชิงสถิติที่น่ารู้จากศูนย์วิเคราะห์ Customer Insights by TMB Analytics และสำนักงานสถิติแห่งชาติ ระบุว่า ราว 1 ใน 4 ของคนไทยซื้อลอตเตอรี่และหวยรวมเป็นจำนวนเงินกว่า 2.5 แสนล้านบาทต่อปี ที่น่าแปลกใจคือ กว่าครึ่งของกลุ่มคนที่มีรายได้มากกว่า 100,000 บาทต่อเดือน ซื้อลอตเตอรี่และหวยใต้ดินเฉลี่ย 14 ครั้งต่อปี เป็นเงินกว่า 10,000 บาท ซึ่งเป็นจำนวนเงินที่มากกว่ากลุ่มคนที่มีรายได้น้อยกว่านั้นใช้ในการซื้อหวยเกือบสองเท่า ข้อมูลนี้ชวนให้คิดว่า ประโยคที่ว่า “คนจนเล่นหวย คนรวยเล่นหุ้น” นั้นเป็นความจริงเพียงครึ่งเดียว

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0