น้องปลา สาว18ถูกฆ่าเผา เข้าฝันยายนั่งนิ่งหน้าบ้านแฟน ไม่พูดไม่จา ยายจี้ตำรวจจับฆาตกร อยากถามคนร้ายฆ่าหลานทำไม เผยถ้าจับคนร้ายได้จะบวชไม่มีกำหนด
จากกรณีพบศพ น.ส.จรินยา ช่วยพยัคฆ์ อายุ 18 ปี ชาวจ.สุราษฎร์ธานี เสียชีวิตในลักษณะถูกไฟเผาไหม้เกรียมทั้งตัวกระดูกขา แขน ซ้ายหัก กะโหลกด้านซ้ายมีรอยร้าว ด้านบนมีรถจยย. ฮอนด้า รุ่นเวฟ ทะเบียน กบษ382 สุราษฎร์ธานี ถูกไฟเผาทั้งคันทับร่างผู้ตายอยู่ ข้างถนนสายควนราชา-ห้วยโศก หมู่ที่ 12 ต.ช้างขวา อ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎร์ธานี หลังแต่งงานกับนายศรายุทธ คงคล้าย อายุ 35 ปี ได้ 5 เดือน โดยตำรวจนำนายพีระพล นวลเสน่ห์ อายุ 27 ปี บ้านอยู่ใกล้ที่เกิดเหตุและพบในภาพวงจรปิด ขี่รถตามหลังน.ส.จรินยา ก่อนจะหายตัวไปเป็นศพ เหตุเกิดช่วงเย็นวันที่ 17 พ.ค. ที่ผ่านมา ตามที่เสนอข่าวไปนั้น
- อ่านข่าว ค้น 4 จุดคลี่คดีสาว 18 ถูกฆ่าเผา พบชายต้องสงสัย แฉสร้อยทอง-แหวนเหยื่อหาย
- อ่านข่าว ตร.ลุยคลี่ปมสาววัย 18 เป็นศพถูกไฟไหม้พร้อมจยย. ญาติเล่าพิรุธ “ทำไมจะไม่มีใครเห็น”
สาว18ถูกฆ่าเผา / เมื่อวันที่ 21 พ.ค. ที่ สภ.กาญจนดิษฐ์ จ.สุราษฎรฺธานี พ.ต.อ.สมบัติ ฉ่ำแสง ผกก.สภ.กาญจนดิษฐ์ พร้อม พ.ต.อ.สถาพร พัฒนรักษ์ ผกก.สส. กก.1 บก.สส.ภาค 8 พ.ต.ท.วิทยา พิทักษ์ รองผกก.สส.ภ.จว.สุราษฎร์ธานี และ พ.ต.ท.นพดล เกิดกุลรัตน์ สว.สส.สภ.กาญจดิษฐ์ ประชุมติดตามแนวทางสืบสวนคลี่คลายคดี หลังจากสอบปากคำพยานแวดล้อมไปแล้ว 22 ราย พร้อมทั้งสอบปากคำนายพีระพล
พ.ต.อ.สมบัติกล่าวว่า ชุดสืบสวนลงพื้นที่เก็บพยานหลักฐานที่เกี่ยวข้องกับคดีอย่างละเอียด จากการสอบปากคำนายพีระพลยังให้การปฏิเสธ ไม่เกี่ยวข้องกับการเสียชีวิตของ น.ส.จรินยา ส่วนรอยบาดแผลขีดข่วนที่แขนทั้ง 2 ข้างนายพีระพล ยังไม่พิสูจน์ทราบว่าเกิดจากการถูกหนามข่วนจากการไล่จับตัวตะกวดตามที่ให้ปากคำหรือไม่
นางจริยา ปานรินทร์ อายุ 57 ปี ยาย น.ส.จรินยา กล่าวว่า ทุกคนในครอบครัวยังเสียใจ ซึ่งได้ฝันเห็นหลานสาวนั่งอยู่ที่หน้าบ้านแฟน แต่ในฝันไม่ได้พูดอะไร ทุกวันนี้สวดมนต์และได้บนบานกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ว่าถ้าจับคนร้ายได้ ตนจะบวชชีโดยไม่กำหนด และยังเชื่อว่าคนร้ายเป็นคนใกล้ชิดกับหลานสาวมากกว่าเรื่องชิงทรัพย์ เพราะลงมือโหดร้ายมาก ถึงกับเผาทั้งคนทั้งรถ
“เพียงแค่ขู่บังคับหลานสาวปลดสร้อยทองของมีค่าให้ก็ได้แล้ว เพราะหลานสาวเป็นเด็กขี้กลัว ตอนนี้ขอร้องให้ตำรวจช่วยเร่งจับกุมคนร้ายให้ได้เร็วที่สุด อยากถามว่าฆ่าหลานด้วยเหตุผลอะไร และทำไมต้องทำกันถึงขนาดนี้” นางจริยา กล่าว
