กรณีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ “Mukmanee Lumsai” ได้โพสตเรื่องราวเตือนภัยพร้อมข้อความ #มันอาจจะเป็นความโง่ส่วนตัวหนูก็ได้ อันนี้มา #เตือน #เตือน และ #เตือน เฉย ๆ เมื่อคืนฝนตกอาจจะมีน้ำขังบางพื้นที่เช่นอุโมงค์หรือสะพาน เหตุการณ์คือ ขับรถมาจากสี่แยกไฟแดงทางไป รพ. เลี่ยวมาลงอุโมงค์ ระหว่างทางนั้นด้านบนของอุโมงค์จะมีช่องอยู่ ได้ยินเสียงรถขับไวมากอยู่ด้านบน เข้าใจว่าฝนตกน้ำขัง อวสานขนมปาทองโก๋ มีทั้งน้ำ ทั้งโคลน มาเป็นน้ำตกเลย มันยังดีที่โดนมุก ถ้าเป็นคนแก่อาจจะเสียหลักไปเลยเพราะน้ำมันเยอะ ส่วนอุโมงค์ก็ฝังน้ำขัง ลื่นได้เลย ไม่ว่าจะเป็นรถที่ขับด้านบนเห็นน้ำขังก็เบา ๆ นิดนึง ส่วนคนที่ขับรถด้านล่างก็ขับเบาๆ ชะลอรถด้วยนะคะอันตราย #ห่วงปาทองโก๋นั้นแหละอดกิน
วันที่ 31 พ.ค.63 ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ตรวจสอบตามที่ผู้โพสได้แจ้งข้อมูลไว้พบว่า บริเวณดังกล่าวเป็นสะพานข้ามทางรถไฟ ถนนทางหลวงหมายเลข 202 บัวใหญ่-สีดา ซึ่งอยู่ในความดูแลของการรถไฟแห่งประเทศไทย ในโครงการรถไฟรางคู่จิระ-ขอนแก่น ที่เพิ่งสร้างแล้วเสร็จและเปิดใช้งานได้เพียง 1 ปีเศษ จากการตรวจสอบพบว่าบริเวณกลางสะพานยังมีน้ำท่วมขังอยู่ ถึงแม้ในพื้นที่จะไม่มีฝนตกลงมาแล้ว 2-3 วัน ซึ่งยังพบอีกว่าบริเวณร่องระบายน้ำมีวัชพืชและดินโคลนอุดตัน ทำให้น้ำไม่สามารถระบายได้
เมื่อมีรถยนต์โดยเฉพาะรถบรรทุกขนาดใหญ่ ขับมาทับบริเวณแอ่งน้ำท่วมขังนี้ทำให้เกิดคลื่นน้ำสาดกระจายลงมาที่ถนน ถ้าโชคดีไม่มีใครขับขี่รถผ่านช่วงนั้นก็ถือว่าโชคดีไป แต่ถ้าโชคร้ายขับขี่รถมาตรงจังหวะเดียวกันกับที่ละอองน้ำสาดกระเซ็นลงมาก็ถึงคราวซวยดังเช่นน้องมุกที่ประสบเหตุ จนอาหารเช้าโดยเฉพาะปาท่องโก๋ที่ซื้อมาเปียกน้ำสกปรกไม่สามารถนำไปรับประทานได้ หรือถ้าแย่ไปกว่านั้นอาจจะทำให้เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อนขึ้นมาได้ วอนหน่วยงานที่รับผิดชอบเร่งแก้ไขอย่างเร่งด่วนเนื่องจากเข้าสู่ฤดูฝนแล้ว
