สาวอุดรฯร้องศูนย์ดำรงธรรมเข้าผ่าตัดมดลูกแต่ไตหาย
สายวานนี้ที่ศูนย์ดำรงธรรมอุดรธานี น.ส.ศินวพร หอมกลาง อายุ 33 ปี พร้อม น.ส.วรรณลี แสนชาติ อายุ 56 ปี มารดา ชาวบ้าน อ.หนองวัวซอ จ.อุดรธานี ได้เข้ายื่นหนังสือร้องขอความเป็นธรรม และแจ้งความเอาผิดแพทย์โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี กรณีพบว่า น.ส.ศินวพร ไตหาย หลังเข้ารับการผ่าตัดมดลูกจากอาการมะเร็งรังไข่
น.ส.วรรณลี ระบุว่า ก่อนหน้าลูกสาวของตนได้ไปอยู่กับแฟนหนุ่มที่ประเทศสิงคโปร์ และมีการอาการปวดท้องอย่างรุนแรง จึงกลับมารักษาที่อุดรธานี ซึ่งหมอได้ วินิจฉัยโรคผิดพลาด ว่าลูกสาวเป็นมะเร็ง และได้ตัด รังไข่ มดลูก และลำไส้บางส่วนออก จนพวกตนต้องเข้าร้องเรียนต่อหลายหน่วยงาน ได้รับเงินเยียวยามา 2 แสน 4 หมื่นบาท แต่พวกตนเห็นว่ายังไม่คุ้มค่าต่อความเสียหายจึงอยู่ระหว่างทำเรื่องขออุทธรณ์
อย่างไรก็ตามภายหลัง เมื่อวันที่ 9 พ.ย.ที่ผ่านมา พวกตนพบว่า นอกจากรังไข่ มดลูก และลำไส้บางส่วนออก ของ น.ส.ศินวพร จะถูกตัดไปแล้ว ยังมีไตอีกข้างหนึ่งถูกตัดไปด้วย โดยที่ไม่แจ้งให้ผู้ป่วยและญาติทราบ หรือ ยินยอม จึงออกมาร้องขอความเป็นธรรมเพิ่ม
ขณะที่ น.ส.ศินวพร ระบุว่า กรณีที่เกิดขึ้น ทำให้ตตนรู้สึกทุกข์ทรมานมาก เพราะนอกจากจะมีบุตรไม่ได้แล้ว ยังต้องมีสภาพทำงานหนักไม่ได้ด้วยเพราะมีไตข้างเดียว ซ้ำแฟนหนุ่มชาวสิงคโปร์ที่จะแต่งงานกันในปีหน้า ยังมีท่าทีเหินห่างเพราะตนมีลูกให้ไม่ได้ จนตนรู้สึกท้อใจ และเคยคิดจะฆ่าตัวตาย ก่อนเลือกมาร้องรอความเป็นธรรม ”
ทั้งนี้ตนอยากตั้งคำถามว่า การที่หมอตัดไตของตนไปโดยไม่แจ้งนั้น มีเจตนาเพื่อเอาไตไปหาประโยชน์หรือไม่ ถ้าเป็นเช่นนั้นก็ถือเป็นภัยร้ายแรงต่อประชาชน ตนจึงอยากให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดสั่งตั้งกรรมการสอบสวน และ สั่งพักงานแพทย์ที่รักษา รวมถึง ดำเนินการทางวินัย และ คดีอาญา
ด้าน นายแพทย์ ณรงค์ ธาดาเดช ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี ชี้แจงทางโทรศัพท์ว่า เรื่องนี้มีการร้องเรียนไปหลายส่วน รวมทั้งร้องเรียนไปสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งที่ผ่านมาทางโรงพยาบาลได้ดำเนินการตามขั้นตอน ทั้งการรายงานไปยัง สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดทราบ และเยียวยาตามกฎหมาย ส่วนกรณีไตของผู้ป่วยหายนั้่น ก่อนหน้าไม่ได้มีการรายงานเรื่องนี้ ทำให้ต้องมีการสอบสวนเพิ่มเติมต่อไป
