โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

สาวห้างช็อก รายได้วันละ 300 กว่าบาท ถูกเรียกเก็บภาษี 32 ล้าน

PPTV HD 36

อัพเดต 08 ก.ค. 2563 เวลา 01.20 น. • เผยแพร่ 08 ก.ค. 2563 เวลา 01.10 น.
สาวห้างช็อก รายได้วันละ 300 กว่าบาท ถูกเรียกเก็บภาษี 32 ล้าน
พนักงานหญิง วัย 35 ปี เข้าขอความช่วยเหลือด้านกฎหมาย จากทนายความ หลังตกเป็น ผู้ต้องหาคดีเลี่ยงภาษี กว่า 30 ล้านบาท ยืนยันไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆกับบริษัทที่ถูกเรียกเก็บภาษี เผย ตัวเองทำงานรายได้วันละ 300 กว่าบาท

น.ส.นันทวรรณ คุ้มศิริ อายุ 35 ปี ซึ่งทำงานเป็นพนักงานรายวันอยู่ที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่งในย่านปู่เจ้าสมิงพราย ต.เทพารักษ์ อ.เมือง จ.สมุทรปราการ ได้หอบเอกสารเข้าขอความเป็นธรรมกับ นายเกรียงศักดิ์ พินทุสรศรี ทนายความ

สองสามีภรรยา จ.นครพนม แทบช็อก! ถูกเรียกเก็บภาษี 11 ล้านบาท

 หลังทราบว่าตัวเองตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายเรียก ที่กองบังคับการปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ ได้ออกหมายเรียกให้ไปพบ เพื่อแจ้งข้อกล่าวหา แจ้งข้อความเท็จ เพื่อหลีกเลี่ยงการเสียภาษีอากร ฯ ตามประมวลกฎหมายรัษฎากร ฯ ที่มี กรมสรรพากร เป็นโจทย์ยื่นฟ้องเรียกเก็บภาษีย้อนหลังเป็นเงินจำนวน 32 ล้านบาท กับ น.ส.นันทวรรณ ซึ่งถูกระบุว่า มีตำแหน่งเป็นกรรมการผู้จัดการ บริษัท บีอีเอ็นซี จำกัด

น.ส.นันทวรรณ เล่าทั้งน้ำตาว่า ตนเองตกเป็นผู้ที่ถูกกรมสรรพากร เรียกเก็บภาษี โดยกล่าวหาว่าตนเองมีชื่อเป็นประธานกรรมการผู้จัดการบริษัท ซึ่งไม่เคยทำหรือไปจดทะเบียนกับบริษัทอะไรเลย เพราะทำงานเป็นพนักงานของห้าง รายได้ก็วันละประมาณ 300 กว่าบาท ตกเดือนละไม่ถึงหมื่นบาท ไม่รู้ว่าตนเองถูกสวมสิทธิ์หรือว่าไปพลาดอะไรตรงไหน อยู่ ดี ๆ ก็มีหมายเรียกมาเมื่อ 4 ปีที่แล้ว เราก็ไปตามที่เขานัดและเราก็ปฏิเสธทุกข้อกล่าวหาว่าไม่รู้เรื่อง และก็ไม่ได้เป็นประธานกรรมการบริษัทนี้

เมื่อประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมาก็มีหมายเรียกส่งไปที่บ้านที่ต่างจังหวัด และแม่ตนเป็นคนรับหมายและให้ไปติดต่อกับตำรวจที่ทำคดีนี้ เจ้าตัวก็ไปหาตามหมายเรียกเมื่อ 2 เดือนที่แล้ว และตนก็ปฏิเสธเหมือน 4 ปีที่แล้วว่าไม่รู้เรื่อง และไม่เคยทำอะไรตามที่ถูกกล่าวหา แล้วตำรวจก็บอกว่าเดี๋ยวทำสำนวนเสร็จก่อนส่งอัยการ และจะโทรหา ต่อมาเจ้าหน้าที่ก็โทรมาบอกว่าทำสำนวนเสร็จแล้วเดี๋ยวไปอัยการกัน และเขาก็บอกว่าคดีนี้ก็ไม่น่ากลัว ให้ใช้ชีวิตได้ปกติขอแค่ไม่ผิดนัด และมาตามนัดก็พอ

แต่พอไปตามนัดเมื่อวันที่ 2 ก.ค. ที่ผ่านมา ตำรวจก็พูดอีกแบบเลย บอกว่ารับได้หรือเปล่า คดีแบบนี้มันรุนแรง เพราะเป็นคดีเศรษฐกิจ และถ้าเกิดไม่มีเงินประกัน ก็ต้องติดคุก ตำรวจก็บอกว่าเขาก็ทำตามหน้าที่ จากนั้นเขาก็เอาสำนวนขึ้นไปส่ง แล้วก็มีใบอะไรสักอย่างมาให้ตนเซ็น และบอกว่าตนต้องไปศาล ไปถามเขาว่าหลักทรัพย์ในการประกันตัวคดีหลีกเลี่ยงภาษีเท่าไหร่ ตนก็เดินไปถามเขาก็บอกว่าเงินประกันหลักทรัพย์ประมาณ 2 แสนบาท ก็ตกใจและถามว่าถ้าไม่มีเงินประกันจะทำอย่างไง เจ้าหน้าที่บอกว่า ก็ต้องติดคุก

ด้าน ทนายความ ระบุว่า อยู่ระหว่างรวบเอกสารหลักฐาน เพื่อยื่นต่อศาลจังหวัดมีนบุรี เพื่อพิจารณา ตามขั้นตอนต่อไป

ร้องถูกเรียกเก็บภาษีซ้ำซ้อน ระบุหากไม่ชำระจะถูกยึดทรัพย์

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0