โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

สาวหลอกขายประกัน ผู้เสียหายนับ 100 ตกเป็นเหยื่อสูญเงินกว่า 2 ล้านบาท

Manager Online

อัพเดต 18 ก.ย 2560 เวลา 22.57 น. • เผยแพร่ 18 ก.ย 2560 เวลา 22.57 น. • MGR Online
สาวหลอกขายประกัน ผู้เสียหายนับ 100 ตกเป็นเหยื่อสูญเงินกว่า 2 ล้านบาท
สาวหลอกขายประกัน ผู้เสียหายนับ 100 ตกเป็นเหยื่อสูญเงินกว่า 2 ล้านบาท
สาวหลอกขายประกัน ผู้เสียหายนับ 100 ตกเป็นเหยื่อสูญเงินกว่า 2 ล้านบาท

โบรกเกอร์สาวอ้างเป็นตัวแทนประกันภัยรถยนต์จากบริษัท เอส เอ็ม พี อินชัวร์ จำกัด หลอกขายกรมธรรม์ผ่านทางโทรศัพท์ มีผู้เสียหาย 143 รายรวมเป็นเงินเกือบ 2 ล้านบาท ก่อนปิดบริษัทขนข้าวของหลบหนี

เมื่อวันที่ 18 ก.ย.60 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากเรืออากาศโท ธภัทร สิงห์โตแก้ว ว่าถูกผู้ที่อ้างตัวเป็นบริษัทตัวแทนประกันภัย หลอกให้ทำประกันรถยนต์สูญเงินเกือบ 20,000 บาท พร้อมกับนำใบเสร็จ การถูกหักเงินผ่านบัญชี รวมทั้งเอกสารต่างๆ มาแสดงเพื่อเป็นหลักฐาน นอกจากนี้ยังมีผู้เสียหายกว่า 100 คน เตรียมรวบรวมผู้เสียหายเข้าร้องกองปราบฯ ล่าสุดเมื่อช่วงสายที่ผ่านมา บริษัทดังกล่าวได้ปิดและขนข้าวของหลบหนีไปแล้ว

โดยเรืออากาศโท ธภัทร ได้บอกผู้สื่อข่าวว่า เมื่อประมาณต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา ตนได้รับการติดต่อทางโทรศัพท์ จาก น.ส.ดวงกมล กาบแก้ว โดยอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากโบรกเกอร์ตัวแทนจำหน่ายประกันภัยรถยนต์บริษัท เอส เอ็ม พี อินชัวร์ จำกัด ติดต่อมาให้ตนทำประกันรถยนต์ ซึ่งทาง น.ส.ดวงกมล กาบแก้ว มีการบอกข้อมูลเกี่ยวกับตัวรถของตน รวมไปถึงระยะเวลาที่ประกันภัยจะหมด โดยได้เสนอขายประกันชั้นหนึ่ง ราคา 15,757 บาท ซึ่งตนสนใจทำประกันดังกล่าว โดยต้องการชำระเงินผ่านเคาน์เตอร์ธนาคารเท่านั้น

ต่อมา น.ส.ดวงกมล กาบแก้ว ได้ติดต่อขอให้ตน ส่งภาพเอกสารเกี่ยวกับตัวรถยนต์ เพื่อใช้ในการทำประกันไปให้ และถามว่ามีบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตหรือไม่ ซึ่งตนตอบไปว่าไม่มีแต่ด้าน น.ส.ดวงกมล กาบแก้ว ต้องการให้หาบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิตให้ได้ตนจึงขอยืมหน้าบัตรของพี่ที่รู้จัก ถ่ายรูปส่งไปให้ และได้สอบถามถึงตัวกรมธรรม์ว่า จะดำเนินการแล้วเสร็จเมื่อไหร่ซึ่งได้รับคำตอบว่า ประมาณต้นเดือนกันยายนซึ่งตนเองก็เริ่มแปลกใจ เพราะระยะเวลาในการทำเอกสารค่อนข้างนาน ต่อมาวันที่ 3 กันยายน ตนได้รับซองเอกสารจากบริษัทโบรกเกอร์ดังกล่าว ภายในบรรจุ หนังสือยืนยันการชำระเบี้ยประกัน ใบคำขอเอาประกัน ใบเสร็จรับเงิน สลิปการหักเงินผ่านธนาคารจำนวน 15,757 บาท ตนตกใจมากจึงโทรศัพท์ไปสอบถามเจ้าของบัตรเดบิตว่า มีการหักเงินตามจำนวนดังกล่าวหรือไม่ ซึ่งเจ้าของบัตรตอบว่า มีการหักเงินจำนวนดังกล่าวไปจริง จึงโทรศัพท์ไปสอบถามธนาคาร ถึงระบบการหักเงินดังกล่าว

โดยยืนยันว่าไม่ได้ยินยอมให้หักเงินผ่านธนาคารทั้งสิ้น ซึ่งหลังจากจบเรื่องการหักเงิน สังเกตเห็นว่าที่ใบกรมธรรม์ ระบุยศ และชื่อของตนผิด จึงติดต่อกลับไปที่โบรกเกอร์ดังกล่าว เพื่อให้ทำการแก้ไข แต่กลับติดต่อไม่ได้อีกเลย จึงตัดสินใจโทรไปสอบถามบริษัทที่ตนเอาประกัน กลับได้คำตอบว่าทางบริษัท เอส เอ็ม พี อินชัวร์ จำกัด ไม่มีชื่อน.ส.ดวงกมล กาบแก้ว ที่อ้างตัวเป็นโบรกเกอร์ดังกล่าวอยู่ในเครือ และเคยมีผู้เสียหายถูกฉ้อโกงจากโบรกเกอร์ รายนี้ติดต่อไปแล้วหลายครั้ง ซึ่งตนมั่นใจแล้วว่าถูกหลอกแน่ จึงนำเอกสารทั้งหมดเข้าแจ้งความต่อ ร.ต.อ.มนตรี รัตนพันธ์ รอง.สว.สอบสวน สภ.คูคต เมื่อวันที่ 13 ก.ย. ที่ผ่านมา ด้านโดยเรืออากาศโท ธภัทร สิงห์โตแก้ว ฝากเตือน ซึ่งตนอยากฝากเตือนให้ระมัดระวัง การหลอกขายประกันภัยรถยนต์ผ่านทางโทรศัพท์ เกรงว่าจะมีคนตกเป็นเหยื่อเหมือนตนอีก

เบื้องต้นผู้สื่อข่าวได้ทำการค้นหาชื่อบริษัทโบรกเกอร์ดังกล่าวในระบบอินเตอร์เน็ต ก็ไปพบเว็บไซต์หนึ่ง ที่มีผู้มาตั้งกระทู้ว่าเคยถูกบริษัทเอส เอ็ม พี อินชัวร์ จำกัดและนางสาวที่อ้างตัวเป็นโบรกเกอร์ดังกล่าว หลอกเหมือนกัน และมีผู้มาแสดงความคิดว่าเคยถูกหลอกเช่นกันเป็นจำนวนมาก และผู้สื่อข่าวได้มีการติดต่อไปยังฝ่ายกฏหมายของบริษัทประกันแห่งหนึ่งสอบถามถึงกรณีฉ้อโกงที่เกิดขึ้น ซึ่งขณะนี้มีผู้เสียหายแล้วประมาณ 143 รายรวมเป็นเงินเกือบ 2 ล้านบาทและเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาทางสำนักงานนายหน้าประกันวินาศภัยได้นัดผู้เสียหายคนอื่นไปรับเงินประกันคืนแต่ปรากฏว่าทางสำนักงานได้ปิดหนีไปก่อนและซึ่งขณะทางด้านผู้เสียได้จัดตั้งกลุ่มไลน์เพื่อสอบถามเรื่องที่มีโบรกเกอร์หลอกขายประกันนั้นมีผู้เสียหายจำนวนกี่คนพร้อมทั้งรวมรวบพยานหลักฐานทั้งหมดเข้าแจ้งความกับทางตำรวจปราบปรามให้นำตัวและบริษัทที่กระทำผิดมาดำเนินต่อไป

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0