โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

สาวรวมตัวแจ้งความ คลินิกความงาม ตุ๋นขายคอร์ส เชิดเงิน-ปิดหนี ผู้เสียหายอื้อ

Khaosod

อัพเดต 05 ก.ค. 2563 เวลา 13.05 น. • เผยแพร่ 05 ก.ค. 2563 เวลา 13.05 น.
หลอกลวง

สาวเชียงราย รวมตัวแจ้งความ คลีนิกเสริมความงาม ขายคอร์ส-จัดโปรโมโมชั่น ก่อนปิดคลีนิกเชิดเงินหนี พบผู้เสียหายกว่า 250 คน

เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 5 ก.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า มีหญิงสาวจำนวนมากพากันเดินทางไปแจ้งความร้องทุกข์ต่อพนักงานสอบสวน สภ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย ว่า ได้เข้าไปใช้บริการคลินิกเสริมสวยแห่งหนึ่ง ใกล้ศูนย์การค้าเซ็นทรัลพลาซา สาขาเชียงราย แต่ปรากฏว่าหลังจากโอนเงินซื้อโปรโมชั่นคอร์สเสริมความงาม เช่น ทรีตเมนต์ ทำผม ฉีดโบท็อกซ์ ร้อยไหม เป็นต้น แต่ทางคลินิกกลับไม่ยอมให้บริการตามโปรโมชั่นที่ขายให้ ล่าสุดยังปิดร้านหนีไปโดยไม่แจ้งผู้ใช้บริการ และไม่สามารถติดต่อทางร้านได้ โดยแต่ละรายเสียค่าใช้จ่ายประมาณ 1,500 บาทขึ้นไป บางรายเสียเงินไปกว่า 100,000 บาท

น.ส.กี้ (นามสมมติ) หนึ่งในผู้เสียหาย กล่าวว่า เมื่อรับทราบว่าคลินิกแห่งนี้เปิดโปรโมชั่นเสริมความงามผ่านตัวแทนขายช่วงเดือน ก.พ.ที่ผ่านมา ทำให้ตนไปใช้บริการในราคารวมประมาณ 5,000 บาท จากนั้นเดินทางไปใช้บริการซึ่งกำหนดเอาไว้จำนวน 10 ครั้ง ตนได้ไปเสริมความงามผิวหน้าได้ 3 ครั้ง และครั้งถัดไปคือต้องฉีดโบท็อกซ์ แต่ทางร้านขอเลื่อนอ้างว่ามีวิกฤตไวรัสโควิด-19

น.ส.กี้ กล่าวต่อว่า กระทั่งต่อมามีประกาศให้เปิดสถานบริการประเภทคลินิกความงามอีกครั้ง พวกตนได้สอบถามไปที่เซลล์ของร้านช่วงกลางเดือน มิ.ย. แต่เซลล์แจ้งว่าร้านเดิมได้ย้ายร้านออกไปแล้ว และมีผู้ประกอบการรายใหม่ที่เปลี่ยนชื่อและบุคคลภายในหมดแล้ว ทำให้เดือดร้อนหนักแ แม้ว่าไม่ได้เป็นเงินมากนัก แต่อยากให้ผู้ที่กระทำได้รับผิดชอบต่อพวกเราด้วย ขอฝากเป็นอุทาหรณ์ว่าอย่าได้หลงเชื่อกรณีมีโปรโมชั่นราคาถูกของคลินิกเสริมความงาม และให้พิจารณาให้ถี่ถ้วนก่อนซื้อ

ด้าน น.ส.ไก่ (นามสมมุติ) อดีตพนักงานของคลินิกดังกล่าว บอกว่า ตนได้รับว่าจ้างให้ทำงานในคลินิกเดือนละประมาณ 10,000 บาท แต่หลังจากปิดช่วงมีการป้องกันไวรัสโควิด-19 แล้วกลับมาเปิดใหม่ปรากฏว่าตนติดต่อกับเจ้าของร้านไม่ได้อีกเลย และเงินเดือนก็ไม่ได้ด้วย จึงเดินทางมาพร้อมกับลูกค้าคนอื่นๆ ที่ประสบปัญหาไม่ได้รับบริการ เข้าแจ้งความร้องทุกข์กับพนักงานสอบสวนด้วย

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ทางหญิงสาวที่ประสบปัญหาเดียวกันได้มีการรวมกลุ่มเปิดไลน์ เพื่อรวบรวมปัญหาต่างๆ พบว่ามีจำนวนทั้งหมดประมาณ 250 คน แต่ละรายประสบปัญหาเหมือนกัน คือ ติดต่อด้วยตัวเองและผ่านเซลล์ เพื่อซื้อโปรโมชั่นเข้าไปใช้บริการกับคลินิกเสริมความงามดังกล่าว ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2563 บางรายเริ่มประสบปัญหาไม่สามารถใช้บริการได้ตั้งแต่เดือน ก.พ. เพราะทางคลินิกขอเลื่อนโดยอ้างเรื่องการรออุปกรณ์ ต่อมาร้านปิดช่วงวิกฤติโควิด-19 ตั้งแต่เดือน มี.ค.-มิ.ย. แต่เมื่อถึงกำหนดเปิดร้าน ทางผู้ใช้บริการก็ติดต่อไม่ได้อีกเลย เมื่อติดต่อกับพนักงานเก่าก็ไม่สามารถให้คำตอบได้ จึงไปดูที่คลินิกก็พบว่ามีการเปลี่ยนเป็นกิจการรายอื่นไปแล้ว

ด้าน พ.ต.ท.ภาสกร สุขะ รอง ผกก.สส.สภ.เมืองเชียงราย มอบหมายให้ พ.ต.ท.หญิง ชลธิชา ธานีวรรณ สว.(สอบสวน) สภ.เมืองเชียงราย สอบปากคำและตรวจสอบหลักฐานของแต่ละราย ซึ่งเดินทางไปแจ้งความวันแรกประมาณ 20-30 คน ส่วนใหญ่มีหลักฐานใบเสร็จโอนเงินไปให้ผู้จัดการคลินิกดังกล่าว บางรายโอนผ่านบัญชีธนาคารด้วยระบบออนไลน์

พ.ต.ท.ภาสกร กล่าวว่า เบื้องต้นเจ้าหน้าที่จะได้สอบปากคำและเก็บข้อมูลของแต่ละรายเอาไว้ก่อนเพื่อให้ได้ข้อเท็จจริงให้มากที่สุด ล่าสุดทางตำรวจก็ได้ติดต่อไปยังผู้จัดการคลินิกได้แล้ว และรับว่าจะมาให้ปากคำว่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นเป็นอย่างไร เหตุใดจึงปิดกิจการไป รวมทั้งจะรับผิดชอบต่อความเสียหายที่เกิดขึ้นอย่างไร ส่วนผู้เสียหายพบว่ามีความเสียหายแตกต่างกันไป จึงอยู่ระหว่างรวบรวมว่าจะให้เป็นเรื่องเดียวกันได้หรือไม่

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0