วันที่ 20 ก.ย. 62 นายเอ (นามสมมติ) อายุ 23 ปี พา น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 17 ปี นักเรียนชั้น ม.5 เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.เมืองอุดรธานี ว่าเมื่อกลางดึกของวันที่ 19 ก.ย. ที่ผ่านมา น.ส.บีผู้เป็นน้องสาวได้ใช้บริการรถโดยสารโดยเรียกผ่านแอปพลิเคชั่น ให้ไปส่งที่หอพัก แต่คนขับได้ขับรถพาน้องสาวไปจอดที่เปลี่ยวแล้วข่มขืน ซึ่งขณะนั้นน้องสาวอยู่ในอาการเมาเหล้า
โดย น.ส.บี ให้การว่า เมื่อคืนวันที่ 18 ก.ย. เวลาประมาณ 23.00 น. ตนเองได้ไปที่หอพักของรุ่นพี่ผู้หญิงที่รู้จักกัน โดยมีการดื่มกินปาร์ตี้กันจนกระทั่งเวลา 02.00 น. ของวันที่ 19 ก.ย. ทุกคนเริ่มมีอาการเมากันหมด ไม่มีคนที่จะสามารถขับรถไปส่งตนได้ ตนจึงเรียกบริการรถผ่านแอปพลิเคชั่น
ระหว่างยืนรอที่หน้าปากซอย มีรถเก๋งสีขาวขับมาถึงแล้วจอดรับ ตนจึงขึ้นไปบนรถเบาะข้างคนขับแล้วส่งตำแหน่งของหอพักที่ตนปักหมุดเอาไว้ให้คนขับรถ ซึ่งคนขับเป็นชายอายุประมาณ 30 ปี ตอนนั้นตนเองอยู่ในอาการเมามาก เมื่อขึ้นรถก็หลับไป แต่ก็พอรู้สึกตัวบ้าง ต่อมาคนขับรถได้ขับไปจอดในที่เปลี่ยว ซึ่งตนไม่ทราบว่าอยู่ที่ไหน จากนั้นเขาเข้ามาโอบกอด บอกว่าขอจูบปากหน่อย ตนบอกเขาไปว่ารู้สึกจะอ้วกออกมา
จากนั้นคนขับรถก็ลากตนไปอยู่ที่เบาะด้านหลังรถ ซึ่งในตอนนั้นตนเมาพอรู้สึกตัว แต่ก็หลับไป จนกระทั่งมารู้สึกตัวจะอ้วก จึงลืมตาขึ้นมาเห็นกางเกงยีนส์ และกางเกงในของตนถูกถอดลงมาที่เข่าแล้ว โดยคนขับรถได้ลงมือข่มขืน ซึ่งตนพยายามจะดิ้นหรือดันเขาออกไป แต่ในตอนนั้นสภาพของตนไม่มีแรง หลังจากนั้นตนก็หลับไปด้วยความเมา พอมารู้ตัวอีกครั้งคนขับรถได้ปลุกตนถึง 3-4ครั้ง บอกว่ารถจอดหน้าหอพักตนแล้ว โดยตนได้จ่ายค่าโดยสารไปให้กับเขาไม่รอเอาเงินทอน และรีบเข้าหอพักไป
น.ส.บีให้การต่อว่า หลังจากนั้นตนนอนร้องไห้คิดเรื่องที่เกิดขึ้น จึงได้โทรศัพท์ไปปรึกษากับพี่ที่เป็นญาติ ก่อนเข้าไปตรวจสอบในแอปพลิเคชั่นที่ใช้บริการในคืนนั้น ทำให้ทราบทะเบียนและคนขับเป็นใคร แล้วพี่ชายได้เข้าไปติดต่อกับคนขับรถทางเฟซบุ๊ก ซึ่งเขายอมรับว่าได้ข่มขืนตนจริง จึงได้ให้พี่ชายพามาแจ้งความดังกล่าว
ด้านนายเอ บอกว่า คนขับรถยอมรับว่าได้ลงมือข่มขืนน้องสาวตนจริง และบอกว่าไม่อยากให้ไปแจ้งความ พยายามต่อรองว่าจะให้รับผิดชอบอย่างไรได้บ้าง แต่ตนคิดว่าน้องสาวเสียหายทั้งร่างกายและจิตใจ เงินทองไม่สามารถซื้อสิ่งที่มันเสียไปแล้วกลับคืนมาได้ เพราะมันเป็นภาพที่จะติดตาน้องสาวตนไปตลอดชีวิต ตอนนี้เสียความรู้สึกมาก และหมดความเชื่อถือที่เรียกรถมาใช้บริการ ซึ่งเรื่องนี้จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด
พ.ต.ต.เปลวทอง สารีนันท์ สว.สอบสวน สภ.เมืองอุดรธานี เปิดเผยว่า เบื้องต้นได้สอบปากคำผู้เสียหายไว้ และได้ทำหนังสือส่งตัว น.ส.บี ไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลศูนย์อุดรธานี เพื่อหาร่องรอยของการถูกข่มขืน พร้อมกับประสานให้ทีมสหวิชาชีพ และหน่วยงานที่เกี่ยวมาร่วมสอบปากคำอย่างละเอียดอีกครั้ง ก่อนที่จะเรียกตัวคนขับรถรายนี้มาสอบปากคำ เพื่อแจ้งข้อหาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป