เมื่อเวลา 19.00 น.วานนี้ (24 ส.ค.62) ร.ต.อ.มนูญ รักทอง รอง สวป.สภ.สวี พร้อมกำลังหน่วยกู้ภัยมูลนิธิชุมพรการกุศลสงเคราะห์ นำโดย นายจักรพงศ์ ประเสริฐสกุล พนักงานป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) สายปฏิบัติการ จ.ชุมพร และกำนันตำบลวิสัยใต้รวมกว่า 20 นาย ร่วมกันค้นหา นางสาวฉวีวรรณ พุ่มแก้ว อายุ 41 ปี ชาวตำบลวิสัยใต้ อำเภอสวี จังหวัดชุมพร ที่หายตัวไปนานกว่า 5 วัน พร้อมกับรถจักยานยนต์ฮอนด้า รุ่นสกรู๊ปปี้ไอ สีขาว ไม่ทราบทะเบียน หลังบอกกับพี่ชายว่าจะไปทวงหนี้กับญาติซึ่งเป็นลูกพี่ลูกน้องรายหนึ่ง หลังจากนั้นไม่กลับบ้านอีกเลย ครอบครัวจึงเดินทางไปแจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.สวี เพื่อให้เจ้าหน้าที่เร่งค้นหาติดตามตัวเกรงว่าจะเกิดอันตราย
โดยนายจักรพงศ์ นำทีมวางแผนออกติดตามค้นหาพร้อมอุปกรณ์แสงสว่าง เริ่มจากในสวนปาล์มน้ำมันแห่งหนึ่งพื้นที่หมู่ 2 ตำบลวิสัยใต้ ใกล้กับคลองวิสัยหรือห่างจากองค์การบริหารส่วนตำบลวิสัยใต้ ประมาณ 2 กม. ซึ่งเป็นจุดสุดท้ายที่มีพยานพบเห็น นางสาวฉวีวรรณ เป็นครั้งสุดท้ายก่อนหายตัวไป ซึ่งข้อมูลสอดคล้องกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าสัญญาณโทรศัพท์ของนางสาวฉวีวรรณ(ผู้สูญหาย) ได้ขาดหายไปบริเวณดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 20 ส.ค. เวลาประมาณบ่ายโมงกว่าๆ ทีมค้นหาแบ่งชุดค้นหาออกเป็น 3 ชุด กระจายกำลังค้นหาโดยการเดินเท้าท่ามกลางความมืดในรัศมี 500 เมตร ที่บ้านร้างในสวนปาล์มน้ำมัน เดินลัดเลาะตามคลองวิสัย จึงถึงน้ำตกแก่งร้อยรู ใช้เวลาประมาณ 4 ชม. แต่ไม่มีวี่แววจึงยุติการค้นหาในเวลา 01.00 น.ของวันที่ 25 ส.ค. 62 โดยจะเริ่มต้นค้นหากันใหม่เช้ามืดวันนี้อีกครั้ง
นายพรชัย พุ่มแก้ว อายุ 46 ปี และ นายต้อม พุ่มแก้ว พี่ชายกับน้องชายของ นางสาวฉวีวรรณ พุ่มแก้ว (ผู้สูญหาย) ให้ข้อมูลว่า นางสาวฉวีวรรณ มีนิสัยและพฤติกรรมเป็นสาวทอม เพิ่งกลับจากกรุงเทพเมื่อวันที่ 18 ส.ค. โดยพักอาศัยอยู่กับพี่ชายและพี่สะใภ้ในพื้นที่หมู่ 8 ตำบลวิสัยใต้ ต่อมาช่วงสายของวันที่ 20 ส.ค. นางสาวฉวีวรรณ บอกกับพี่ชายว่าจะไปทวงเงินที่ญาติคนหนึ่งซึ่งมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้อง ที่หมู่ 2 ตำบลเดียวกัน อยู่ใกล้องค์การบริหารส่วนตำบลวิสัยใต้ หลังจากนั้นได้ขับรถจักรยายนต์ฮอนด้าสกู๊ปปี้ไอ สีขาว หายเงียบทั้งคนทั้งรถ จึงไปแจ้งความคนหายไว้ที่ สภ.สวี เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตำรวจได้สอบสวนหาข้อมูลและออกติดตามค้นหา
ด้านนายต้อมน้องชายผู้สูญหาย บอกว่า หลังจากรู้ว่าพี่สาวหายไปก็รู้สึกไม่สบายใจ เนื่องจากโทรศัพท์ติดต่อหาเพื่อนๆ และญาติก็ไม่มีใครพบเจอ ส่วนเรื่องที่พี่สาวได้บอกว่าจะไปทวงหนี้ที่ยืมเงินไปนั้นเป็นความจริง แต่ไม่ขอเปิดเผยเรื่องจำนวนเงิน เนื่องจากให้การกับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้แล้ว เกรงว่าจะกระทบต่อคดี และจะเป็นปมเหตุทำให้เกิดเหตุร้ายกับพี่สาวหรือไม่นั้น เรื่องนี้ไม่ขอพูดถึงเพราะทั้งครอบครัวก็ยังมีความหวัง
