จากกรณีที่มีผู้ร้องเรียนผ่านสื่อฯ ว่า ประสบเหตุฝาตะแกรงท่อระบายน้ำหัก ทำให้ขาตกลงไปได้รับบาดเจ็บ เมื่อวันที่ 5 ธ.ค. 61 และได้เดินทางไปร้องเรียนเขต แจ้งว่าจะให้ค่าชดเชย 20,000 บาท แต่หากอยากได้มากกว่านี้ ให้ไปทำการฟ้องร้องที่ กทม.เอง
ล่าสุด วันที่ 22 มี.ค. 62 ผู้เสียหายได้เดินทางแจ้งความร้องทุกข์ สน.โชคชัย พร้อมด้วยหลักฐาน ภาพถ่ายบาดแผลที่ได้รับบาดเจ็บ จากวันเกิดเหตุ
นางสุธาสิโนบล พฤกษาทร ผู้เสียหาย เปิดเผยว่า วันเกิดเหตุ ประมาณ 14.30 น. ขณะนั้น ตนกำลังก้าวขึ้นรถสองแถวขนาดเล็ก ภายใน ซ.โชคชัย 4 โดยเท้าเหยียบตะแกรงฝาท่อระบายน้ำจนหัก ขาขวาตกลงไป จนเหล็กครูดขาเป็นแผลยาว ก้นกระแทกพื้นแรงมาก เจ็บถึงกระดูก ตอนนั้นก็รู้สึกอาย เพราะคนมามุงดูเยอะมาก จากนั้น เจ้าหน้าที่มูลนิธิมาช่วยเหลือ นำส่งโรงพยาบาล ซึ่งหมอแนะนำให้เอ็กซเรย์ โดยมีค่าใช้จ่ายประมาณกว่า 8,000 บาท ซึ่งตอนนั้นตนมีเงินติดตัวแค่กว่า 1,000 บาท จึงทำได้แค่ล้างแผล ทำแผลเท่านั้น จ่ายเงินประมาณ 1,800 บาท
นางสุธาสิโนบล กล่าวต่อว่า หลังเกิดเหตุ ตนก็ไปติดต่อเขต แต่ทางเขตแจ้งว่า ไม่เกี่ยวข้องกับทางเขต ซึ่งเป็นส่วนรับผิดชอบของส่วนที่ดูท่อระบายน้ำ ซึ่งหลังจากเกิดเหตุการณ์ในครั้งนี้ ได้มีการดำเนินการซ่อมแซมอย่างเรียบร้อย
อย่างไรก็ตาม ตนได้ร้องเรียน กทม. เพื่อไปฟ้องกับหน่วยงานที่รับผิดชอบ โดยไม่ได้ต้องการเงินแล้ว แต่ต้องการได้รับการเยียวยาทางจิตใจมากกว่า ซึ่งเจ้าหน้าที่ กทม. ก็ถามเรื่องค่ารักษาพยาบาล ตนก็ได้แจ้งไปว่า หากวันนั้น ตนตกท่อมาแล้วพิการ หรือว่าเสียหลักแล้วมีรถชนจะทำอย่างไร เพราะกทม.แจ้งว่าชดเชยได้ 20,000 บาท แต่ตนอยากให้ กทม. เยียวยาจิตใจมากกว่า จึงได้บอกไปว่า 20,000 บาทไม่เพียงพอสำหรับความเสี่ยงต่อชีวิตคนหนึ่งคน เพราะทั้งค่าเอ็กซเรย์ ค่ารักษาพยาบาล และด้านสภาพจิตใจ ซึ่งทาง กทม. แจ้งว่า ถ้าตนอยากได้มากกว่านี้ ก็ให้ไปดำเนินการฟ้องร้องเอง
โดยวันนี้ ตนเดินทางมาแจ้งความ เพื่อจะฟ้องร้อง เรียกค่าเสียหาย 500,000 บาท ซึ่งตนมองว่าชีวิตคนมีคุณค่ามากกว่าผักปลา หรือมีค่าแค่ 20,000 บาท ตนอยากให้เป็นกรณีตัวอย่าง ที่คงไม่มีประเทศไหนที่คนจะตกท่อแบบนี้
