จากกรณีสาวโพสต์ว่าพี่สาวกลับมาจากต่างประเทศ และใช้บริการแท็กซี่จากสนามบินดอนเมือง มาแถวซอยกรุงเทพ-นนทบุรี โดยปกติใช้บริการรถแท็กซี่ที่สนามบิน ราคาไม่เกิน 110-150 บาท แต่วันเกิดเหตุ ช่วงเวลาเที่ยงคืน รถไม่ติดแล้ว ทั้งนี้ ในคลิปสังเกตได้ว่ามิเตอร์วิ่งเร็วผิดปกติด้วย
วันที่ 14 ต.ค. 62 นางสาวนาฏวิไล สุดบอนิด อายุ 30 ปี ผู้ใช้บริการแท็กซี่ เปิดเผยว่า ตนเองทำงานอยู่สิงคโปร์ และมีโอกาสกลับมาบ้านในรอบ 6 เดือน พอมาถึงที่ดอนเมือง วันที่ 11 ต.ค. ประมาณเกือบเที่ยงคืน ตนนั่งไปที่ซอยกรุงเทพฯ-นนทบุรี 50 ระหว่างที่นั่งรถกลับบ้าน ตนก็ได้วิดีโอคอลหาแฟน นั่งออกมาไม่นาน ตนเงยหน้าขึ้นจากมือถือ พบว่ามิเตอร์พุ่งขึ้นไป 100 กว่าบาท ก็รู้สึกสงสัย ก่อนถ่ายวิดีโอไว้
ซึ่งมิเตอร์ขึ้นเร็วมาก แต่ตนก็ไม่กล้าถาม เพราะว่าตนเดินทางมาคนเดียวตอนดึก และเป็นผู้หญิง ปกติที่ตนเองเดินทางมาระยะทางเท่านี้ จะไม่เกิน 150 บาท แต่ครั้งนี้พุ่งไปถึง 400 บาท เมื่อมาถึงจุดหมายค่าโดยสาร บวกค่าชาร์จสนามบิน 50 บาท เป็น 404 บาท เมื่อตนลงจากรถ คนขับก็จ้องหน้าตน แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร ก่อนขับรถออกไป
อย่างไรก็ตาม ตนเองเป็นผู้โดยสารก็รู้สึกแย่ คิดว่าไม่ควรที่จะโกง เพราะว่าค่าชาร์จออกจากสนามบินดอนเมืองก็ 50 บาทแล้ว และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรจะมีมาตรการควบคุม หากมีการพัฒนาเทคโนโลยีที่สามารถควบคุมได้ก็น่าจะดีกว่านี้
ด้าน นายกิตติพงศ์ พึ่งพา ผู้รับผิดชอบส่วนงานแท็กซี่สนามบินดอนเมือง ระบุว่า ได้แจ้งกับกรมการขนส่งทางบก ได้ระงับการบริการของผู้ขับขี่รายดังกล่าวไว้เรียบร้อยแล้ว พร้อมคัดชื่อออกจากการเป็นสมาชิกแท็กซี่ของสนามบินดอนเมือง และไม่สามารถที่จะมาให้บริการในสนามบินได้อีก นอกจากนี้ กรมการขนส่งทางบกได้รับเรื่องไว้เรียบร้อยแล้ว
https://youtu.be/nELbf-VdYaY
