รายงานข่าวสมาคมค้าทองคำแจ้งว่า ทองคำในประเทศปรับลง 50 บาท โดยทองแท่งรับซื้อบาทละ 18,750 บาท ขายออกบาทละ 18,850บาท ทองรูปพรรณรับซื้อบาทละ 18,419.40 บาท และขายออกบาทละ 19,350 บาท ราคาต่างประเทศอยู่ที่ 1,189.50 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ จากช่วงเช้าอยู่ที่ 1,192.50 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ค่าเงินบาททรงตัวที่ระดับ 33.39 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ
รายงานข่าวจากบริษัท วายแอลจี บูลเลี่ยน อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัดแจ้งว่า ราคาทองคำปรับตัวลง เนื่องจากกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากการทรุดตัวลงของค่าเงินลีราตุรกี รวมถึงถูกกดันจากเงินปอนด์อ่อนค่าลงต่อเนื่องหากเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ เนื่องจากการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ หรือ เบร็กซิต ยังเป็นปัยหาเนื่องจากอังกฤษขอคงไว้ซึ่งสิทธิพิเศษทางการค้ากับยุโรปเหมือนเดิม แต่ยุโรปไม่เห็นด้วย เพราะหากให้กับอังกฤษจะทำให้ประเทศอื่นขอแยกตัวออกจากยุโรปด้วยเช่นกัน ตลาดจึงมีความกังวลว่าหากอังกฤษไม่ได้สิทธิพิเศษทางการค้าก็จะทำให้เศรษฐกิจแย่และเงินปอนด์จะร่วงต่ออีก
นอกจากนี้รัฐบาลตุรกีจะมีมาตรการตอบโต้สหรัฐฯ ในสินค้าประเภทอิเลคทรอนิกส์หลังจากที่นาย โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ได้ประกาศตั้งกำแพงภาษีเหล็กและอลูมิเนียมนำเข้าจากตุรกีเพิ่มขึ้นอีกสองเท่ายิ่งหนุนค่าเงินดอลลาร์แข็งค่าขึ้นอีก อย่างไรก็ตาม แนวโน้มราคาทองคำยังเป็นขาลงต่อเนื่องจากปัจจัยต่างประเทศตราบใดที่ราคายังทำระดับต่ำสุดใหม่ ดังนั้นต้องรอดูการสร้างฐานใหม่ก่อนที่จะเข้าไปซื้อ แนะลงทุนในระยะสั้น แต่หากลงทุนระยะยาวให้ทยอยสะสมในช่วงราคาปรับตัวลง มองแนวรับ 1,181 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ และแนวรับต่อไปที่ 1,170 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ ส่วนแนวต้านอยุ่ที่ 1,203 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์ และแนวต้านต่อไปอยู่ที่ 1,214 ดอลลาร์สหรัฐต่อออนซ์