โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

สามสิบสิ่งที่ผมได้เรียนรู้ในวัยสามสิบ - บองเต่า

THINK TODAY

เผยแพร่ 18 มิ.ย. 2562 เวลา 09.42 น.

ผมจำเหตุการณ์นึงได้แม่นมากแม้มันจะผ่านมาหลายปีแล้ว ตอนนั้นผมอายุ 28 และกำลังพบว่าธุรกิจที่ผมลงทุนร่วมกับหุ้นส่วนกำลังมีปัญหาใหญ่ ด้วยความเครียดจนเจ้านายสังเกตได้ระหว่างที่เรานั่งรถไปประชุมกับลูกค้าด้วยกัน 

ผมเลยเล่าเรื่องทั้งหมดให้เจ้านายฟัง โดยที่ผมก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะขอคำปรึกษา หรือให้เจ้านายมาช่วยแก้ไขปัญหาให้ พอเล่าจนจบ เจ้านายผมถามมาแค่ประโยคสั้นๆว่า “ตอนนี้เอ็งอายุเท่าไร” ผมตอบไปว่า “ยี่สิบแปด”

เจ้านายผมเงียบไปแป๊บนึงแล้วตอบกลับมาว่า “ปัญหาที่เล่ามาเนี่ย พี่คงไม่ได้อยู่ในจุดที่จะช่วยอะไรได้ แต่สำหรับคนอายุยี่สิบแปด มันยังมีโอกาสรออยู่อีกเยอะ 

ไม่ต้องไปเครียดขนาดนั้น และไม่ว่าจะสุดท้ายมันจะลงเอยยังไง คิดซะว่ามันคือบทเรียน เดี๋ยวพอเข้าหลักสามสิบแล้ว ชีวิตมันยังมีอะไรรอให้เราเรียนรู้อีกเยอะ”

เหตุการณ์นี้ผ่านมาเจ็ดปี มีหลายครั้งที่ทำให้ผมนึกถึงคำพูดของเจ้านายของผม ว่าวัยสามสิบนั้นยังมีเรื่องให้เรียนรู้อีกมาก เมื่อลองมาเรียบเรียงว่าตั้งแต่ผมเข้าวัยสามสิบมา ผมสามารถเขียนออกมาเป็นหัวข้อได้ยาวเหยียดว่าผมได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆบ้าง และนี่คือ 30 เรื่องที่ผมได้เรียนรู้ในวัยสามสิบของผมครับ

1. เพื่อนเราจะเริ่มน้อยลง แต่เราจะพบว่าถึงจะเหลือเพื่อนไม่เยอะก็นับว่าเพียงพอแล้ว 

2. การนัดเพื่อนว่า “ไว้กินข้าวกัน” สุดท้ายแล้วเราแทบไม่มีโอกาสได้นัดกินข้าวกันจริงๆ

3. เงินเป็นสิ่งสำคัญในชีวิต แต่เราจะพบว่ามันไม่ได้สำคัญที่สุด หลายๆโอกาสที่เราจะยอมเลือกสิ่งอื่นมาก่อนเงิน

4. เราเป็นคนธรรมดา เราไม่ได้เกิดมาเป็นไอติม เราไม่สามารถทำให้ทุกคนมีความสุขได้

5. ทุกปัญหาในชีวิต ครึ่งนึงสามารถแก้ได้ด้วยการปรับทัศนคติของเรา ส่วนอีกครึ่งต้องแก้ด้วยความสามารถของเรา

6. พลังงานบวกและลบ ถึงจะมองไม่เห็นแต่มีอยู่จริง ถ้าเราสร้างทัศนคติและพลังงานบวกให้กับตัวเอง มันจะดึงคนที่มีพลังบวกเข้ามาหาเราด้วย

7. เกือบทุกคนจะเสียดายที่เริ่มต้นศึกษาการลงทุน และมีวินัยทางการเงินช้าเกินไป

8. เกมที่เราเคยอยากได้ในตอนเด็ก ตอนนี้เราจะมีเงินซื้อมันได้แบบไม่ต้องคิดมาก แต่เราจะไม่มีเวลาเล่น

9. การได้เจ้านายดีๆในช่วงปีแรกๆของการทำงานจะมีผลดีต่อชีวิตระยะยาวของเราไปด้วย

10. เราสามารถทำงานหนักหามรุ่งหามค่ำได้ แต่เราไม่สามารถฝ่าข้อจำกัดของร่างกายเราได้

11. ความสุขอาจมาในรูปแบบที่ง่ายกว่าที่เราคิด เช่น การนอนโง่ๆไม่ต้องทำอะไรเลย

12. ความเจ็บป่วยและทรุดโทรมของร่างกายพ่อแม่กำลังกลายเป็นความจริงที่เราต้องยอมรับ

13. ความตายกลายเป็นเรื่องใกล้ตัวกว่าที่เราคาดไว้ ไม่ว่าจะเกิดกับหมาที่บ้าน เพื่อน หรือคนใกล้ชิด

14. การใส่ใจกับเรื่องเล็กๆน้อยๆของการดูแลร่างกายให้ผลที่คุ้มค่ามาก เช่น ใช้ไหมขัดฟัน ทาครีมกันแดดทุกวัน

15. การมีที่ปรึกษา ไม่ว่าจะเป็นเรื่องใหญ่หรือเรื่องเล็ก ทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้นมาก

16. ความสัมพันธ์ทุกประเภทมีวันหมดอายุ มีคนที่เราเคยรักและเคยสนิทมากมาย ที่เราจะทิ้งเขาไว้ในอดีตเมื่อชีวิตเราเดินหน้าต่อ

17. การคิดดี พูดดี ทำดีกับคนอื่น ไม่ใช่เรื่องยาก และมันยิ่งทำให้การใช้ชีวิตง่ายขึ้นด้วย

18. เราจะยอมทำทุกอย่างเพื่อให้มีเวลานอนเยอะขึ้น

19. การตื่นเช้าในวันอาทิตย์เป็นกำไรชีวิต อย่างน้อยมันก็ทำให้วันหยุดของเราหมดไปช้ากว่าเดิมมาก

20. เราจะพบว่าที่เราคิดว่าคนอื่นจ้องมองเราอยู่ตลอดเวลา จริงๆแล้วเราคิดไปเองทั้งนั้น

21. การทำทุกอย่างด้วยวิธีเดิม ก็จะได้ผลแบบเดิม ถ้าต้องการสิ่งใหม่ในชีวิต ต้องยอมรับความเปลี่ยนแปลงนั้น

22. การยอมเปลี่ยนแปลงเป็นเรื่องที่เสี่ยง แต่เราก็จะพบว่าเรายังมีเวลาและโอกาสให้แก้ตัวได้อีกเยอะ

23. แต่การยังไม่เริ่มทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอันในตอนนี้ เราจะพบว่าเราเหลือเวลาและโอกาสน้อยแล้ว

24. เรื่องราวที่เลวร้ายในวัยเรียนหรือวัยรุ่น จะกลายเป็นเรื่องตลกอย่างไม่น่าเชื่อ

25. เราอาจจะคิดถึงความสนุกในวัยเด็ก แต่เราจะไม่อยากกลับไปเป็นเด็กอีก

26. เราไม่จำเป็นต้องประหยัดกับทุกเรื่อง การยอมจ่ายเพิ่มเพื่อคุณภาพนั้นคุ้มเสอ

27. เราจะเริ่มพบว่าโซเชียลมีเดียกินเวลาในชีวิตเรามากเกินไป

28. เด็กรุ่นใหม่เก่งกว่าเราเสมอ แต่เราก็สามารถเรียนรู้ให้เก่งขึ้นได้เช่นกัน

29. เราไม่จำเป็นต้องมีแพชชั่นในงาน แต่เราควรหาสิ่งที่เรามีแพชชั่น เพื่อให้สิ่งนั้นทำหน้าที่อุ้มชูชีวิตให้เราผ่านความเหนื่อยยากในแต่ละวันไปได้

30. การเอาชีวิตรอดแต่ละวันเป็นเรื่องยาก แต่เราสามารถเลือกใช้ชีวิตเราให้แซ่บได้

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0