โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

สั่งสอบใหม่หนุ่มเมาขับเสียชีวิตในคุก ย้ายเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องก่อน

TODAY

อัพเดต 21 เม.ย. 2562 เวลา 13.05 น. • เผยแพร่ 21 เม.ย. 2562 เวลา 13.05 น. • Workpoint News
สั่งสอบใหม่หนุ่มเมาขับเสียชีวิตในคุก ย้ายเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องก่อน

อธิบดีกรมราชทัณฑ์ สั่งสอบกรณีหนุ่มติดคุกเมาแล้วขับดับคาห้องขัง พร้อมย้ายเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องออกนอกพื้นที่เพื่อความโปร่งใส รับไม่น่าเชื่อว่าลื่นล้มแต่น่าจะเกิดจากการรุมทำร้าย

จากกรณีที่ นายพรหมปัญญา เกษหอม อายุ 40 ปี ถูกจับข้อหาเมาแล้วขับช่วงเทศกาลสงกรานต์ และถูกศาลสั่งปรับเมาแล้วขับ 6,000 บาท แต่ทางครอบครัวมีฐานะยากจนไม่มีเงินเสียค่าปรับจึงได้ถูกคุมขังอยู่ในสถานกักขัง จ.ศรีสะเกษ แทนค่าปรับ และเสียชีวิตภายในสถานที่กักขัง ตามร่างกายมีแผลฟกช้ำทั้งตัว ปากเจ่อ ศีรษะบวม โดยเสียชีวิตเมื่อวันที่ 18 เม.ย.62 ที่ผ่านมา

วันที่ 21 เม.ย. เวลา 17.50 น. ที่สถานกักขัง จ.ศรีสะเกษ อ.เมืองศรีสะเกษ พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันทน์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และคณะ ได้เดินทางมาตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีดังกล่าว โดยได้หารือกับพนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ รวมทั้งตรวจสอบข้อมูลและตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุอย่างละเอียด มีการนำผู้ต้องขังที่อยู่ในเหตุการณ์มาทำการสอบสวนเบื้องต้น

ขณะที่นางสุรินทร์ เกษหอม อายุ 62 ปี ซึ่งเป็นแม่ผู้เสียชีวิตกับญาติพี่น้องมารอพบเพื่อขอความเป็นธรรมในเรื่องนี้ พร้อมทั้งขอดูภาพจากกล้องวงจรปิด แต่ทางเจ้าหน้าที่สถานกักขัง จ.ศรีสะเกษ แจ้งว่า ภาพในกล้องวงจรปิดและเอกสารต่าง ๆ พนักงานสอบสวน สภ.เมืองศรีสะเกษ ได้นำไปใช้ในการประกอบสำนวนคดีหมดแล้ว

ต่อมา พ.ต.อ.ณรัชต์ ได้พบกับนางสุรินทร์และญาติพี่น้อง และกล่าวแสดงความเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น โดยยืนยันว่าจะให้ความเป็นธรรมในเรื่องนี้อย่างเต็มที่ นอกจากนี้อธิบดีกรมราชทัณฑ์และคณะจะไปเป็นเจ้าภาพสวดพระอภิธรรมศพในวันนี้ด้วย พร้อมทั้งจะได้มอบเงินส่วนตัวจำนวนหนึ่ง เพื่อเป็นการช่วยเหลือเยียวยานางสุรินทร์เป็นการเบื้องต้นด้วย

พ.ต.อ.ณรัชต์ กล่าวว่า จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ ไม่น่าเชื่อว่าเกิดอุบัติเหตุจากการลื่นล้มในห้องน้ำทำให้นายพรหมปัญญาเสียชีวิต เป็นเหตุผลที่ไม่น่าเชื่อ ตนคิดว่าจากประสบการณ์คาดว่าน่าจะเกิดจากการถูกรุมทำร้ายมากกว่า ซึ่งบังเอิญว่าสถานกักขังแห่งนี้ มีห้องขังขนาดเล็กต้องอยู่กันอย่างแออัดยัดเยียด โดยห้องนี้กว้าง 5 เมตร ยาว 10 เมตร เท่ากับ 50 ตร.ม.ตามหลักแล้วจะรองรับผู้ต้องขังเพียงไม่กี่สิบคนเท่านั้น แต่ว่าขณะนี้อยู่กันในห้องขังจำนวนมากถึง 237 คน

อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวต่อไปว่า ตนจะสั่งแต่งตั้งคณะกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยจะแต่งตั้งให้ผู้บัญชาการเรือนจำ จ.อุบลราชธานี เป็นประธานกรรมการสอบสวน เนื่องจากว่ามีศักดิ์สูงกว่าสถานที่กักขัง จ.ศรีสะเกษ พร้อมทั้งจะสั่งย้ายเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องและรับผิดชอบ ทั้งโดยตรงและใกล้ชิดกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นออกจากพื้นที่ ทั้งนี้เพื่อให้การสอบสวนเป็นไปอย่างโปร่งใส ส่วนในการช่วยเหลือครอบครัวผู้เสียชีวิตนั้น ตนจะมอบเงินส่วนตัวช่วยเหลือค่าทำศพเป็นการเบื้องต้น และจะหาทางเยียวยาช่วยเหลือตามระเบียบของทางราชการต่อไป

ทางด้าน นางสุรินทร์ เกษหอม อายุ 62 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต กล่าวว่า ตนเสียใจมากกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนี้ เนื่องจากว่าลูกชายของตนเป็นคนตั้งใจทำมาหากิน เรียนจบปริญญาตรีแล้วก็มาช่วยดูแลแม่ เนื่องจากว่าแม่อยู่คนเดียว ตนกำลังไปกู้ยืมเงินมา เพื่อจะสร้างร้านซ่อมรถจักรยานยนต์ไว้ให้ลูกชายทำมาหากิน แต่ว่าลูกชายต้องมาเสียชีวิตอย่างที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น ตนจะขอต่อสู้เพื่อความเป็นธรรมให้กับลูกชายจนถึงที่สุดและจะยังไม่เผาศพลูกชาย จนกว่าจะได้ตัวคนร้ายมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0