หน่วยพญาเสือ ร่วมกับ สำนักนโยบายและแผน ผู้นำชุมชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านเจ้าของที่ดิน ร่วมชี้แนวพื้นที่ กับเจ้าหน้าที่ เขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงโขงหลง จ.บึงกาฬ ซึ่งเป็น พื้นที่หนึ่งใน แรมซ่าไซร้ (Ramsar site) พื้นคุ้มครองพื้นที่ชุ่มน้ำ ที่กรมอุทยานแห่งชาติฯ ได้ประกาศเป็นเขตห้ามล่าสัตว์ป่า บึงโขงหลง จ.บึงกาฬ เนื้อที่ 11,546ไร่
หลังนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สบอ.ที่ 10 อุดรธานี และหน่วยพญาเสือ ตรวจสอบพบว่า ชาวบ้านครอบครองที่ดินในเขตห้ามล่าสัตว์ป่าบึงโขงหลง ซึ่งมีเอกสารสิทธิ์ที่ ที่ดินออกให้ ซ้อนทับเข้ามาในบึงจำนวนมาก
จากการตรวจสอบพบว่า มีประชาชน ที่มีเอกสารสิทธิ์ ในบึงโขงหลง จำนวนมากกว่า 380 ไร่
ที่นำมาแสดง
โดยหลังจากทีมพญาเสือ เข้าเจรจากับประชาชน และทำการขีดเขต พร้อมชี้เขตควบคุม
ประชาชนก็ให้ความร่วมมือ กับ เจ้าหน้าที่ เป็นอย่างดี และเข้าใจในการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่
หลังชี้แจงประชาชนจนเข้าใจ หน่วยพญาเสือ ก็เริ่มจัดรูปแบบการจัดการพื้นที่อนุรักษ์และพัฒนาคุณภาพสิ่งแวดล้อม
คือ
1 จัดการเดินแนวเขตเพื่อควบคุม การบุกรุก ยึดถือครอบครองที่ดิน
2 จัดการพื้นที่ เพื่อการท่องเที่ยว หาดคำสมบูรณ์ อ.เซกา จ.บึงกาฬ
โดยออกหนังสือ แจ้งให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง ร้านค้าที่รุกล้ำ ลำน้ำบึงโขงหลง ภายใน 180 วัน นับตั้งแต่ 13 มิถุนายน 61 ลงนาม กรมเจ้าท่า สาขา หนองคาย เพื่อพัฒนาต่อไป
และจากการตรวจสอบของ สำนักปฏิรูปที่ดิน จ.บึงกาฬ พบว่า ผู้ที่ได้รับสิทธิ์ทำกินเพื่อการเกษตร สปก นั้น กลับแบ่งขาย และขายสิทธิ์ให้ผู้อื่น ไปทำกิน โดยผิดเงื่อนไข และต้องเพิกถอน สิทธิ์ กับผู้ที่ได้รับสิทธิ์ ต่อไป
เมื่อพิสูจน์แล้ว ต้องเพิกถอน จำนวนเกือบทั้งหมด ตลอดชายหาด คำสมบูรณ์ ยาวนับ กิโลเมตร
หลังมีการประกาศเพิกถอน ก็มีผู้วิจารณ์บนโลกโซเชียลจำนวนมาก โดยแนวโน้มเกือบทั้งหมดแสดงความคิดเห็นเชิงเห็นด้วยกับการเพิกถอน และจัดการพื้นที่ ชายหาด คำสมบูรณ์ ใหม่ในครั้งนี้
