เมื่อวันที่ (19 มี.ค. 62) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภาพที่บันทึกด้วยโทรศัพท์มือถือ ในช่วงที่เกิดเหตุ โดยมีรถเก๋งคันหนึ่ง วิ่งอยู่ด้านหน้ารถอาสาสมัคร หน่วยกู้ชีพมูลนิธิแห่งหนึ่ง ในจังหวัดสมุทรปราการ ขณะเร่งนำหญิงใกล้คลอดไปส่งที่ โรงพยาบาล โดยในภาพพบว่า รถเก๋งคันนี้ ไม่ยอมให้ทาง หรือ หลบเข้าช่องทางด้านซ้าย รวมทั้ง มีการเหยียบเบรก แบบกระชั้นชิด เป็นระยะๆ ทั้งที่ด้านหน้ารถเก๋ง ไม่มีรถคันอื่น
เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ชีพ ได้ปฏิบัติตามการฝึกอบรมตามขั้นตอน นับตั้งแต่ เปิดสัญญานไฟวับวาบ เปิดเสียงไซเลนรถพยาบาล กระพริบไฟส่องหน้ารถ สูง สลับ ต่ำ บีบแตร รวมทั้ง ใช้เสียงพูดผ่านเครื่องขยายประจำรถ เพื่อขอให้หลีกทาง แต่รถเก๋งยังคงเพิกเฉย ไม่ยอมเปิดทางให้รถกู้ชีพ เป็นระยะทางยาวกว่า 2 กิโลเมตร ซึ่งขณะนั้น หญิงใกล้คลอดก็ส่งเสียงร้อง เนื่องจากเกิดอาการเจ็บท้อง กระทั่ง ก่อนถึงทางเลี้ยวเข้าโรงพยาบาลบางพลี ราว 50 เมตร รถเก๋งคันนี้ จึงยอมหลบทางให้ เจ้าหน้าที่จึงนำหญิงใกล้คลอดส่งถึงมือแพทย์ได้ทัน และอยู่ในความปลอดภัย
ล่าสุด ผู้ขับขี่รถเก๋งคันนี้ เข้าพบ พนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรบางพลี แล้ว โดยอ้างว่า ก่อนเกิดเหตุ อยู่ระหว่างขับรถกลับบ้านย่านตำบลสำโรงเหนือ ระหว่างนั้น ก็มีรถกู้ชีพ ใช้ช่องทางด้านขวา ขับตามหลังมาด้วยความเร็วสูง พร้อมเปิดสัญญาณไฟวับวาบ เปิดเสียงไซเลน ขับจี้ท้ายรถตน จึงตกใจไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะไม่เคยประสบกับเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน แต่หลังตั้งสติได้ จึงหักรถเข้าด้านซ้ายเปิดทางให้รถกู้ชีพ โดยขอยืนยันว่า ไม่มีเจตนาที่จะขับรถกีดขวาง จึงอยากขอโทษ ทั้งเจ้าหน้าที่กู้ภัยและ หญิงท้องแก่ใกล้คลอด ด้วย
ด้านพันตำรวจโท ประมวล ทองภู รองผู้กำกับการสอบสวน สถานีตำรวจภูธรบางพลี กล่าวว่า การกระทำดังกล่าว เป็นความผิดตาม พระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตร 71 (2) มีอัตราโทษปรับไม่เกิน 500 บาท จึงดำเนินการสั่งปรับ และ ตักเตือน ให้ปฏิบัติตามกฎจราจร ก่อนปล่อยตัวกลับไป