คอลัมน์ “ริงไซด์ ไฟต์คลับ” โดย “ลักษมณ์ นันทิวัชรินทร์”
เรื่องมวยไทยโกอินเตอร์ เราเคยคุยกันมาหลายทีแล้วว่าเป็นเรื่องปกติที่นักมวยไทยจะแพ้บ้าง และอันที่จริงก็ไม่ควรจะชนะทั้งหมดด้วยซ้ำ เพราะถ้าเราอยากให้คนมวยไทยเราเป็นกีฬาที่แพร่หลาย ก็ต้องยอมรับว่าต้องมีนักมวยชาติอื่นที่ฝึกฝนจนเก่งขึ้นมาได้ ยิ่งนักกีฬาต่างชาติเป็นที่รู้กันว่าเรื่องวิทยาศาสตร์การกีฬา หรือเรื่องโภชนาการต่างๆ ถือว่าล้ำหน้ากว่าวงการมวยไทยมากแน่นอน ดังนั้นเป็นไปได้อยู่แล้วที่นักมวยไทยเราจะมีพลาดท่าให้นักมวยต่างชาติบ้าง
แต่ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา มีผลการชกของนักชกไทยระดับ “ซูเปอร์สตาร์” สองรายด้วยกันที่ถือว่าเป็นสัญญาณเตือนให้เราต้องใส่ใจเรื่องการเตรียมความพร้อมมากขึ้นแล้ว เริ่มจากค่ำๆ วันศุกร์ที่ผ่านมา ในรายการ “มาเก๊า ไฟต์ 2019” ที่เขตปกครองพิเศษมาเก๊า “เจ้าเมย์” สิทธิชัย ศิษย์สองพี่น้อง ยอดมวยไทยโกอินเตอร์ที่หมดสัญญากับค่าย “กลอรี่” แล้วตัดสินใจตระเวณหากินตามรายการต่างๆ ก่อนมากกว่าที่จะต่อสัญญา ขึ้นสังเวียนพบคู่ชกชาวอุซเบกิสถาน ในแบบมวยไทยเต็มรูปแบบ ผลปรากฏว่าครบ 3 ยกกรรมการให้เสมอกันไป ต้องมีชกยกพิเศษ “ยกที่ 4” ซึ่งนักชกไทยเดินออกอาวุธได้จะแจ้งกว่าทำคะแนนเฉือนเอาชนะไปอย่างหวุดหวิด
งานนี้ว่าไปนักชกไทยเสียเปรียบรูปร่างส่วนสูงและความหนาบานตะไท ถูกคู่ชกไล่บดจนแทบแย่ แถมถูกศอกจนหน้าผากเหนือคิ้วซ้ายแตกเป็นแผลเบ้อเริ่มต้องเย็บถึง 6 เข็ม ซึ่งทางสิทธิชัยออกมายอมรับภายหลังว่าการเรื้อเวทีเกือบ 6 เดือน มีผลทำให้สภาพร่างกายไม่เต็มร้อย นี่อาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ยังไม่ต่อสัญญากับทาง “กลอรี่” เพราะรูปแบบการจัดการชกของกลอรี่นั้นปีนึงได้ชก 2-3 ไฟต์เป็นอย่างมาก ต้องดูต่อไปว่า “เจ้าเมย์” จะไปรายการไหนอีกเมื่อไหร่
พอขยับมาวันเสาร์ มีรายการ One Fighting Championship: Age of Dragon ที่ไปจัดกันที่ปักกิ่ง มีนักชกไทยระดับตำนานอีกราย “นักชกคอมพิวเตอร์” ยอดแสนไกล ไอเวแฟร์เท็กซ์ ขึ้นสังเวียนพบคู่ชกชาวหมีขาวรัสเซีย ที่ขึ้นมาเป็น “มวยแทน” มีเวลาเตรียมตัวจริงๆ แค่สัปดาห์เศษๆ การชกไฟต์นี้นักชกทั้งคู่เป็น “มวยซ้าย” ด้วยกัน นักชกไทยเดินออกแข้งซ้ายสลับออกหมัดส่วนนักชกหมีขาวไม่เกรงศักดิ์ศรีออกอาวุธโต้อย่างงดงาม ยกสองยอดแสนไกลพลาดตั้งแต่ต้นยกถูกหมัดเข้าเต็มหน้าออกอาการเป๋ มวยแทนชาวรัสเซียไม่พลาดโอกาสทองเดินสาวหมัดซ้ำในขณะที่นักมวยไทยพยายามออกหมัดโต้ เลยพลาดโดนซ้ายเข้าเต็มหน้าร่วงลงไปกรรมการจับแพ้ทันทีแบบช็อกแฟนมวยทั้งโลก
ก็ต้องยอมรับว่านักชกไทยรายนี้อายุปาเข้าไปถึง 34 ปีแล้วสภาพร่างกายไม่เหมือนเดิมแน่นอน แต่สิ่งหนึ่งที่เคยพูดแล้วพูดอีกก็คือการที่นักมวยไทยเคยตัวกับการ “รักษาอาการ” หรือ “รักษารูปมวย” แม้จะโดนก็ต้องรักษาอาการและพยายามโต้ตอบ ทั้งๆ ที่ร่างกายไม่พร้อม ซึ่งมีแต่จะทำให้โดนซ้ำมากขึ้น อย่างไฟต์ของยอดแสนไกลนี้ก็เหมือนกัน ทั้งสองไฟต์นี้แฟนมวยชาวไทย “งานกร่อย” ไปตามกันและถือเป็นสัญญาณอันตรายอีกครั้งว่านักมวยไทยจะคิดว่าการชกกับต่างชาติเป็นเรื่องขนมๆ ไม่ได้แล้ว ต้องเตรียมตัวเตรียมสภาพร่างกายให้พร้อมจริงๆ
