โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

สังฆราชฯ ติง “เราจะไม่จัดงานคริสต์มาสปีนี้!” เมื่อฝรั่งเศสดูไม่พร้อมจะฉลองคริสต์มาส

The Momentum

อัพเดต 18 ธ.ค. 2561 เวลา 03.57 น. • เผยแพร่ 18 ธ.ค. 2561 เวลา 03.57 น. • ธัญภรณ์ ลีกำเนิดไทย

In focus

  • ชาร์คส์ นัวเย่ร์ (Mgr. Jacques Noyer) สังฆราชกิตติมาศักดิ์ (Emeritus bishop) แห่งอาเมียงส์ (Amiens) เห็นว่า การประท้วงของกลุ่ม เสื้อกั๊กเหลือง ได้เผยให้เห็นคนสองกลุ่มซึ่งรังเกียจความยากจน ซึ่งความรู้สึกด้านลบต่อความยากจน  “แสดงถึงความไม่พร้อมที่จะฉลองคริสต์มาส”
  • ในโลกที่ทุนนิยมเป็นระบบเศรษฐกิจหลัก เทศกาลคริสต์มาสในประเทศฝรั่งเศส ได้กลายเป็นหนึ่งในเทศกาลช็อปปิ้งที่สำคัญ บรรยากาศตามห้างร้านที่เต็มไปด้วยป้ายโฆษณา  ได้กลบเกลื่อนความสำคัญที่แท้จริงในของเทศกาลคริสต์มาส
  • ทั้งที่ในอดีต เทศกาลคริสต์มาสของประเทศฝรั่งเศส จะเกี่ยวกับการประสูติของพระเยซู เท่านั้น ส่วนของขวัญคริสต์มาสก็มีเพียงแค่ ส้มกับของขวัญชิ้นเล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น

แม้ว่าวันคริสต์มาสจะเข้ามาใกล้ทุกขณะ และประธานาธิบดีมาครงได้ออกมาตรการต่างๆ เพื่อหยุดความไม่พอใจของกลุ่มผู้ประท้วง ‘เสื้อกั๊กเหลือง’ ที่มาจากความไม่สอดคล้องระหว่างรายได้และค่าครองชีพที่สูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็น การเพิ่มค่าแรงขั้นต่ำ 100 ยูโรต่อเดือน หรือการยกเลิกภาษีสำหรับผู้เกษียณที่มีรายได้ต่ำกว่า 2,000 ยูโร แต่ทว่าการประท้วงของกลุ่มเสื้อกั๊กเหลืองก็ยังดำเนินต่อไป

ประธานาธิบดี เอ็มมานูเอล มาครง รับของขวัญจากผู้เข้าร่วมงาน ขณะที่เข้าเยี่ยมชมตลาดคริสต์มาส ในสทราซบูร์ (Strasbourg) วันที่ 14 ธ.ค. 2018 (ที่มาภาพ: Jean-Francois Badias/Pool via REUTERS)

เมื่อวันเสาร์ที่ 15 ธันวาคม ที่ผ่านมา กลุ่มผู้ชุมนุมได้ออกมาประท้วงกว่า 66,000 คน ทั่วประเทศ อย่างไรก็ดี จำนวนผู้เข้าชุมนุมน้อยกว่าครั้งก่อนๆ  อย่างเห็นได้ชัด ผู้ประท้วงยังคงมารวมตัวกันตามถนนสำคัญในปารีส ในขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจยังคงคุมเข้มพร้อมกับอุปกรณ์และรถหุ้มเกราะตามจุดต่างๆ ระหว่างการประท้วงครั้งนี้ โดยรวมแล้ว ทุกอย่างดำเนินไปอย่างสงบ  ร้านค้าบางเเห่งเริ่มเปิดให้บริการตามปกติ แม้ว่าจะแผ่นไม้ที่ติดป้องกันกระจกยังไม่ถูกนำออกไปก็ตาม

การประท้วงของเสื้อกั๊กเหลืองที่ได้กลายเป็นวิกฤตความเหลื่อมล้ำทางสังคม และเศรษฐกิจ ทำให้หลายภาคส่วนพยายามหาวิธีในการแก้ปัญหาและเสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับการดำเนินชีวิตในสังคมฝรั่งเศสปัจจุบัน ชาร์คส์ นัวเย่ร์ (Mgr. Jacques Noyer) สังฆราชกิตติมาศักดิ์ (Emeritus bishop) แห่งอาเมียงส์ (Amiens) ซึ่งตั้งอยู่ทางเหนือของประเทศฝรั่งเศส และยังเป็นบ้านเกิดของประธานาธิบดี มาครอง ได้ออกมาโพสต์ในเฟซบุ๊กส่วนตัว ว่า “ไม่ต้องจัดงานคริสต์มาสหรอก ปีนี้…”

ข้อความชักชวนดังกล่าว เป็นผลมาจากการที่ชาร์คส์ นัวเย่ร์ เห็นว่า การประท้วงของกลุ่ม เสื้อกั๊กเหลืองได้เผยให้เห็นคนสองกลุ่มซึ่งรังเกียจความยากจน โดย “คนกลุ่มหนึ่ง กลัวว่าจะกลายเป็นคนจน ในขณะที่อีกกลุ่มไม่ชอบคนจน”ซึ่งความรู้สึกด้านลบต่อความยากจน  “แสดงถึงความไม่พร้อมที่จะฉลองคริสต์มาส” เนื่องจากการฉลองเทศกาลคริสต์มาสนั้น เป็นการต้อนรับการมาของ ‘เมสสิยาห์’ โดยผู้ที่นับถือศาสนาคริสต์ เชื่อว่าเมสสิยาห์เป็นผู้ที่ช่วยมนุษย์ให้รอดพ้น และการมาครั้งนี้จะมาในรูปแบบของ ‘คนจน’ โดยจะอยู่ท่ามกลางคนที่ไม่มีสมบัติอะไรเลย คนที่ถูกลิดรอนสิทธิ์ คนที่ถูกลืม ซึ่งเป็นเหตุผลว่าทำไมพระเยซูที่เกิดในคอกสัตว์ถูกล้อมรอบโดยคนเลี้ยงแกะในเมืองเล็กๆ อย่างเบธเลเฮ็ม

“คนกลุ่มหนึ่ง กลัวว่าจะกลายเป็นคนจน ในขณะที่อีกกลุ่มไม่ชอบคนจน”

ปัจจุบัน ในโลกที่ทุนนิยมเป็นระบบเศรษฐกิจหลัก เทศกาลคริสต์มาสในประเทศฝรั่งเศส ได้กลายเป็นหนึ่งในเทศกาลช็อปปิ้งที่สำคัญ ห้างสรรพสินค้าชั้นนำจะแข่งกันจัดตู้โชว์สินค้าตามธีมที่แต่ละห้างได้เลือกสรรไว้ นอกจากนี้ห้างสรรพสินค้ายังออกโฆษณาและกลยุทธ์ต่างๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภค ที่ต้องการเลือกซื้อของ เพื่อเป็นของขวัญคนในครอบครัว และญาติมิตร ด้วยเห็นว่าสิ่งที่ขาดไม่ได้ในเทศกาลคริสต์มาส คือ ของขวัญ

บรรยากาศตามห้างร้านที่เต็มไปด้วยป้ายโฆษณาและชั้นวางสินค้าซึ่งประดับด้วยลูกสน และต้นคริสต์มาสจำลองได้กลบเกลื่อนความสำคัญที่แท้จริงในของเทศกาลคริสต์มาส จนทำให้รู้สึกว่า คริสต์มาสเป็นเพียงงานเฉลิมฉลองทางวัตถุนิยม

อันที่จริงการฉลองคริสต์มาส ที่เน้นเพียงแค่คุณค่าทางวัตถุเพิ่งเกิดขึ้นได้ไม่นาน หลังจากสงครามโลกครั้งที่ 2 วัฒนธรรมอเมริกันได้แทรกเข้ามาในวิถีชีวิตของชาวฝรั่งเศส เช่น การดื่มโคคา-โคลา หรือ การเคี้ยวหมากฝรั่ง เป็นต้น โดยมาพร้อมกับภาพของซานตาคลอสในปัจจุบัน ภาพของชายแก่ที่ไว้หนวดเครา รูปร่างอ้วน ใส่ชุดสีแดง รวมถึงการ์ดคริสต์มาสและของขวัญจำนวนมาก ซึ่งทั้งหมดห่อด้วยกระดาษห่อของขวัญเอาไว้ ทั้งที่ในอดีต เทศกาลคริสต์มาสของประเทศฝรั่งเศส จะเกี่ยวกับการประสูติของพระเยซู เท่านั้น ส่วนของขวัญคริสต์มาสก็มีเพียงแค่ ส้มกับของขวัญชิ้นเล็กๆ น้อยๆ

ชาร์คส์ นัวเย่ร์ ซึ่งปัจจุบันอายุ 91 ปี ได้เล่าถึงเทศกาลคริสต์มาสสมัยที่ยังเป็นเด็กๆ “ครอบครัวที่มีฐานะปานกลางก็ฉลองเท่าที่จะหาได้ ในยามค่ำ คนจนก็จะรู้สึกว่ารวย เพราะว่าได้รับประทานอาหารที่พิเศษกว่ามื้ออื่น และโดยเฉพาะอย่างยิ่งได้อยู่กับคนที่รัก พ่อ แม่ พี่ น้อง เราก็แค่แลกเปลี่ยนของเล็กๆ ที่ไม่ได้มีค่าอะไร เราไปดู ‘แครช’ (Crèche) ซึ่งเป็นฉากจำลองเหตุการณ์ประสูติของพระเยซู เด็กแรกเกิดที่ไม่มีอะไรเลย มีเพียงแค่ความรักที่เรามีให้เท่านั้นเราคิดเสมอว่ามีคนที่จนกว่าเราอีกมาก… และถ้ามีขนมเค้กเหลืออยู่ เราก็จะนำไปให้เพื่อนบ้านที่ตกอับ”

หากเทศกาลคริสต์มาสยังคงฉลอง แบบเน้นเพียงแค่คุณค่าทางวัตถุ ชาร์คส์ นัวเย่ร์ ได้ทิ้งท้ายว่าเราชักชวนให้เด็กๆ ปรารถนาที่จะได้ทุกๆ สิ่งในโลก ซึ่งเด็กเหล่านี้ก็จะเชื่อว่าตัวเองมีอำนาจมหาศาล จนกระทั่งข้อจำกัดทางการเงินทำให้เขารู้สึกอึดอัด”

เราชักชวนให้เด็กๆ ปรารถนาที่จะได้ทุกๆ สิ่งในโลก ซึ่งเด็กเหล่านี้ก็จะเชื่อว่าตัวเองมีอำนาจมหาศาล จนกระทั่งข้อจำกัดทางการเงินทำให้เขารู้สึกอึดอัด”

“เราอยากเห็นเขารวย และเปี่ยมด้วยความสุข ทว่าเขากลับพบตัวเองเป็นเพียงแค่คนจน ที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง” ในขณะที่ “ซานตาคลอสนั้นรวย จนไม่สามารถหยุดแวะที่คอกเลี้ยงสัตว์  อันเป็นสถานที่ ที่ทารกแรกเกิดนามว่า เยซู ถือกำเนิดขึ้นได้ ซึ่งผมเองนั้น คงจำเป็นต้องปิดสี่แยก และขวางเลื่อนหิมะของซานต้าคลอส ไม่ให้ผ่านไปได้”

 

ที่มาภาพหน้าแรก: REUTERS/Jean-Paul Pelissier

อ้างอิง

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0