การสักดวงตาเกิดขึ้นครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 2007 ในงานประชุมเกี่ยวกับการปรับเปลี่ยนร่างกายที่ประเทศแคนนาดา มีอาสาสมัคร 3 คนขอไปทดสอบการสักดวงตา โดยการเติมสีใส่เข้าไปในดวงตาสีขาวท่ามกลางสาธารณะชน ผู้อาสาสมัครที่เข้ามาทดสอบสักดวงตาครั้งนี้ จะถูกหยอดยาชาลงสู่ดวงตาก่อนที่จะฉีดหมึกเข้าไปในดวงตาด้วยเข็มฉีดยา ซึ่งการสักในดวงตาครั้งนี้ไม่สามารถแก้ไขได้ เพราะสีหมึกที่ฉีดเข้าไปในดวงตาจะติดและคงอยู่ถาวร
ถ้าได้ทำการสักในดวงตาแล้ว อาการแทรกซ้อนที่อาจจะเกิดขึ้นและส่งผลโดยตรงต่อดวงตาของคุณ ในอนาคตข้างหน้า คือ
1. ดวงตาอาจเป็นรูจากเข็มฉีดยา
2. เส้นจอประสาทตาขาด
3. การติดเชื้อภายในตา
4. การตอบสนองจากการแพ้และอักเสบของดวงตาทั้งสองข้าง
นอกจากนี้ยังมีภาวะแทรกซ้อนอื่น ๆ ที่ส่งผลกระทบดวงตาของคุณอีก นั่นคือ
- การแพร่เชื้อไวรัสที่เกิดจากการติดเชื้อของเลือด จากอุปกรณ์ที่ไม่ผ่านการฆ่าเชื้อ เช่น โรคตับอักเสบบี และ ซี อีกทั้งการติดเชื้อ HIV
- เลือดออกและการติดเชื้อจากสถานที่ฉีดยา
- การวินิจฉัยโรคที่ล่าช้า เช่น โรคดีซ่าน เนื่องจากสีที่แท้จริงของดวงตาถูกปิดทับ
- อาการไม่พึงประสงค์จากหมึก
- ความไวต่อแสง
- การด่างพร้อยของเนื้อเยื่อโดยรอบ เนื่องจากการขยายตัวสีหมึก
ใครที่รักการสักและอยากจะลองสักดวงตา ควรนำข้อมูลเหล่านี้ไปประกอบกับการตัดสินใจ เพราะดวงตาถือเป็นสิ่งที่เปราะบาง และเราทุกคนควรดูแล รักษาดวงตาให้คงอยู่คู่กับร่างกายของเราไปนานๆ เพื่อการดำรงชีวิตที่สะดวกขึ้น
เรื่องราวที่น่าสนใจเหล่านี้ยังมีอีกมาก ค้นพบและติดตามร่วมไปกับเราในรายการชั่วโมง Discovery ทุกวันจันทร์-อาทิตย์ เวลา 08.00-09.00 น. ทางช่อง PPTV HD 36