โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ธุรกิจ-เศรษฐกิจ

สะเทือนวงการ เฟซบุ๊กเปิดตัวสกุลเงินดิจิทัล "Libra" ช็อปได้ทั่วโลก

ไทยรัฐออนไลน์ - Economics

เผยแพร่ 19 มิ.ย. 2562 เวลา 12.25 น.
ภาพไฮไลต์
ภาพไฮไลต์

สะเทือนสถาบันการเงินทั่วโลกหรือไม่? ภายหลังมาร์ค ซักเคอร์เบิร์ก ซีอีโอของเฟซบุ๊ก สร้างความฮือฮา ประกาศเปิดตัว Libra (ลิบร้า) สกุลเงินดิจิทัล (cryptocurrency) อย่างเป็นทางการ ร่วมกับ 27 พันธมิตร ในลักษณะของ Libra Association องค์กรไม่แสวงหาผลกำไร เพื่อสร้างโครงสร้างทางการเงินระดับโลก ให้ผู้คนทั่วโลกสามารถโอนเงินสกุลใหม่ "ลิบร้า" ข้ามประเทศ และซื้อสิ่งของ โดยมีต้นทุนที่น้อยที่สุด ไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมจากอัตราแลกเปลี่ยน คาดเริ่มให้บริการภายในครึ่งปีแรกของปีหน้า

ที่น่าสนใจในจำนวนพันธมิตรทั้ง 27 ราย มีบริษัทใหญ่ด้านธุรกรรมทางการเงิน ทั้งวีซ่า (Visa) มาสเตอร์การ์ด (Mastercard) และเพย์พาล (PayPal) รวมถึงอีคอมเมิรซ์ใหญ่ที่สุดในโลก อย่าง อีเบย์ (eBay) แอปมิวสิกสตรีมมิ่งยอดฮิต Spotify และลิฟท์ (Lyft) อูเบอร์ (Uber) บริษัทเครือข่ายคมนาคมให้บริการแท็กซี่ผ่านแอปพลิเคชัน และโวดาโฟน (Vodafone ) บริษัทธุรกิจโทรคมนาคม เป็นต้น ซึ่งถือว่าไม่ธรรมดา

“ศรชัย สุเนต์ตา” ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ศูนย์วิเคราะห์ข้อมูลด้านการลงทุนและที่ปรึกษาการลงทุน (CIO Office) ธนาคารไทยพาณิชย์ ระบุ ปกติเห็นการเกิดขึ้นของเงินสกุลดิจิทัล มามากมายก่อนหน้านี้ ซึ่งไม่มีอะไรแปลกใหม่ แต่การกำเนิดลิบร้า จากพ่อแม่ที่มีชื่อว่าเฟซบุ๊ก ถือว่าไม่ธรรมดา และยังมีญาติพี่น้องอีก 27 คน จับมือร่วมกันก่อกำเนิด ซึ่งเป็นบริษัทระดับบิ๊กๆ จากทั่วโลก พร้อมเปรียบ “ยิ่งกว่าเหล่าอเวนเจอร์สทีม”
 
สำหรับจุดประสงค์ในการจับมือร่วมกัน เพื่อสร้างให้มีโครงสร้างระบบการเงินขั้นพื้นฐานที่ทุกๆ คนในโลกนี้สามารถเข้าถึงได้ง่ายดาย และจะเป็นระบบทางการเงินที่มีต้นทุนต่อผู้ใช้ที่ถูกที่สุด แถมยังมีความปลอดภัยสูงสุด เป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวาง เท่าที่เทคโนโลยีวันนี้จะมีได้ เช่น ใช้เทคโนโลยี บล็อกเชน (Technology Blockchain) มาเป็นตัวกลาง ซึ่งทุกๆ คนบนโลกไม่จำเป็นต้องพกเงินสดเงินกระดาษ ที่อาจจะหาย ถูกขโมย หรือก่อให้เกิดความไม่ปลอดภัย หากพกพาติดตัวตลอดเวลา 
 
“จะดีกว่าไหม ถ้าคนบนโลกนี้อีกมากมายหลายพันล้านคน ที่ไม่เคยเข้าถึงการเบิดบัญชีกับสถาบันการเงินได้เลย สามารถเข้าถึงระบบทางการเงินนี้ได้อย่างง่ายดาย เพียงแค่มีโทรศัพท์มือถืออยู่ในมือ ว่ากันว่าบนโลกเรายังมีคนอีกหลายพันล้านคนที่ใช้โทรศัพท์มือถือ แต่ยังไม่สามารถเปิดบัญชีธนาคารได้ และไม่เคยใช้ธุรกรรมทางการเงินใดๆ เลยกับธนาคาร การโอนเงินให้เพื่อน ญาติ พี่น้อง ที่อาศัยอยู่ต่างประเทศจะทำได้อย่างง่ายดาย รวดเร็ว เงินถึงผู้รับได้ทันทีที่กดโทรศัพท์มือถือ โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ หรือถ้าจะมีก็ถูกมาก โดยเราไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมการโอนเงิน หรือไม่ต้องมีค่าธรรมเนียมจากอัตราแลกเปลี่ยนใดๆ ให้เราต้องลุ้นว่าแพงไหม”

พร้อมยกตัวอย่างเช่นวันนี้ ราคาซื้อ ขาย เงินตราต่างประเทศอยู่ที่ประมาณ 3 - 5% ต้องจ่ายให้กับธนาคาร และค่าโอนเงินเช่นเดียวกัน ได้แก่โอนเงินผ่านระบบ Swift ของธนาคาร จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 1,000 ถึง 1,500 บาท ที่ผู้โอนจะต้องจ่าย นอกจากนั้นผู้รับโอนเงินปลายทาง ต้องมีการเสียค่าธรรมเนียมให้กับธนาคารปลายทางอีกด้วย เช่น 400 - 500 บาทต่อรายการ หรือคิดแบบง่ายๆ โอนเงิน 1 แสนบาท จะเหลือเงินถึงผู้รับ เพียง 93,000 บาท ในขณะที่ใช้ระบบโอนเงินอิเล็กทรอนิกส์ อาจจะไม่ต้องเสียอะไร หรือเสียน้อยมากๆ ดังนั้นผู้รับปลายทางน่าจะได้รับเงินแบบเต็มเม็ดเต็มหน่วย
 
นอกจากนี้ต่อไปการเดินทางไปต่างประเทศ หรือการซื้อสินค้าและบริการต่าง ๆ สามารถทำได้โดยใช้สกุลเงินเดียวกัน ไม่จำเป็นต้องแลกเงินหรือถือเงินสด ไม่จำเป็นต้องใช้บัตรเครดิตที่จะมีค่าธรรมเนียมที่แพงอยู่ เช่น อัตราแลกเปลี่ยนเป็นต้น การเดินทางขึ้นรถ หรือ การเดินทางโดยรถสาธารณะ การจ่ายค่ากาแฟต่างๆ สามารถจ่ายผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล (Digital Wallet) ที่เก็บเงินไว้ผ่านโทรศัพท์มือถือ ซึ่งใครที่สามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตได้ ก็สามารถใช้ระบบการเงินใหม่นี้ได้ด้วยเช่นกัน
 
ส่วนเงินสกุลนี้จะน่าเชื่อถือหรือไม่นั้น ซึ่งสกุลเงินดิจิทัลโดยทั่วไป จะถูกสร้างขึ้นมาโดยไม่มีสินทรัพย์อะไรมาสำรองอยู่ข้างหลัง ดังนั้นที่ผ่านมาจะเห็นสกุลเงินดิจิทัล ผันผวนได้อย่างมาก ง่ายต่อการนำมาเก็งกำไร เพราะมูลค่าที่แท้จริงยังยากต่อการค้นหา แต่คนสร้างเงินสกุลลิบร้า ว่ากันว่าจะมีสินทรัพย์ที่มีสภาพคล่องมา อาจจะเป็นเงินสกุลต่างๆ มาสำรอง เพื่อให้ค่าเงินมีความมั่นคงน่าเชื่อถือเหมือนสมัยก่อน โดยเงินดอลลาร์จะถูกสำรอง โดยมีทองคำกันเอาไว้ข้างหลัง จึงทำให้ค่าเงินดอลลาร์ ได้รับความน่าเชื่อถือและเป็นที่นิยมใช้เป็นตัวกลางในการแลกเปลี่ยน สินค้าและบริการต่างๆ ในเวลาต่อมาจนถึงปัจจุบัน
 
“สิ่งที่จะเกิดขึ้นใหม่นี้ จะเข้ามาแทรกแซงระบบตัวจริงที่มีทั้งเทคโนโลยี ทรัพยากร และเงิน ซึ่งสถาบันการเงินทั่วโลกจะต้องปรับตัวให้เร็วมากยิ่งขึ้นไปอีก เพื่อจะได้ไม่ตกเทรนด์ของภาวะการแข่งขัน ดังนั้นควรจับตามองให้ดี”.

ข่าวอื่นที่เกี่ยวข้อง

ตามข่าวก่อนใครได้ที่
- Website : www.thairath.co.th
- LINE Official : Thairath

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0