วอชิงตัน, 19 พ.ย. (ซินหัว) -- กรณีวุฒิสภาสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายเกี่ยวกับฮ่องกง เมื่อวันอังคาร (19 พ.ย.) ถือเป็นความพยายามลบล้างความโหดร้ายของผู้ก่อจลาจลและสร้างแรงกดดันต่อรัฐบาลจีน ถือเป็นการเคลื่อนไหวที่มีแต่จะโหมกระพือเปลวเพลิงแห่งความรุนแรงบนเกาะฮ่องกงของจีน
การผ่านร่างกฎหมายที่ใช้ชื่อว่ากฎหมายสิทธิมนุษยชนและประชาธิปไตยฮ่องกง 2019 (Hong Kong Human Rights and Democracy Act of 2019) ของวุฒิสภาสหรัฐฯ ไม่เพียงแทรกแซงกิจการภายในของจีนอย่างโจ่งแจ้ง แต่ยังเปิดโปงจุดประสงค์อันมุ่งร้ายของสหรัฐฯ ที่มีต่อจีนอีกครั้ง
หลังจากเผชิญห้วงยามแห่งความรุนแรงและการกระทำผิดกฎหมายมานานมากกว่า 5 เดือน ฮ่องกงได้เข้าใกล้หุบเหวแห่งความโกลาหล การกระทำอันป่าเถื่อนและการวางเพลิงได้เหยียบย่ำหลักนิติธรรม ทำให้พลเรือนฮ่องกงกังวลถึงความปลอดภัยส่วนบุคคลยิ่งขึ้น
ประเด็นสิทธิมนุษยชนหรือประชาธิปไตยในฮ่องกงนั้นเป็นเรื่องหลอกลวง สิ่งที่ฮ่องกงต้องการมากที่สุดขณะนี้คือยุติความรุนแรงและคืนความสงบเรียบร้อยโดยเร็วที่สุด
แต่สมาชิกสภานิติบัญญัติและนักการเมืองสหรัฐฯ บางคนกลับเลือกเพิกเฉยต่อความโกลาหลที่มีต้นเหตุจากผู้ก่อจลาจลและยังเอนเอียงเข้าหากลุ่มสุดโต่ง สิ่งที่พวกเขาต้องการจากการเข้าไปแทรกแซงในสถานการณ์ฮ่องกงคือการแสดงตัวว่าแข็งแกร่งในสายตาของจีน เพื่อสนองผลประโยชน์ทางการเมืองของตนและสร้างปัญหาความวุ่นวายให้จีน
อย่างไรก็ดี สหรัฐฯ เองมีผลประโยชน์ของตนเองเป็นเดิมพันเช่นกัน เนื่องจากสหรัฐฯ ครองผลประโยชน์อันมีนัยสำคัญในฮ่องกง ซึ่งเป็นศูนย์กลางการเงินระหว่างประเทศ โดยปัจจุบันมีพลเมืองอเมริกัน 80,000 คน และบริษัทสัญชาติสหรัฐฯ กว่า 1,300 แห่งอยู่ในฮ่องกง หากความวุ่นวายในฮ่องกงทบทวีมากขึ้นเท่าใด สหรัฐฯ ย่อมจะเผชิญความสูญเสียทางเศรษฐกิจมากขึ้นเท่านั้น
ฮ่องกงคือฮ่องกงของจีน กิจการฮ่องกงเป็นกิจการภายในของจีน และจีนไม่ยินยอมให้มีการแทรกแซงจากกองกำลังภายนอก รัฐบาลจีนได้ชี้แจงอย่างชัดเจนว่าจะดำเนินมาตรการตอบโต้อย่างรุนแรงต่อการแทรกแซงของสหรัฐฯ และจะปกป้องอำนาจอธิปไตย ความมั่นคง และสิทธิในการพัฒนาของตนอย่างเด็ดขาด
ความรุนแรงที่ดำเนินมาอย่างต่อเนื่องทำให้สิทธิและเสรีภาพอันชอบธรรมของชาวฮ่องกงกลายเป็นเรื่องไร้ซึ่งความสลักสำคัญ ดังนั้นสิ่งจำเป็นลำดับแรกคือการฟื้นคืนระเบียบสู่สังคม ซึ่งร่างกฎหมายของสหรัฐฯ ไม่มีวันนำฮ่องกงไปสู่เป้าประสงค์ดังกล่าวได้
