ศูนย์ข่าวเชียงใหม่-นายแพทย์ สสจ.เชียงใหม่ แถลงพบผู้ป่วยต้องสงสัยโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ จากเมืองอู่ฮั่น รายแรกที่สนามบินเชียงใหม่ เป็นชาย18ปี แยกตัวเข้ารับการรักษาตามกระบวนการแล้ว พร้อมเผยมีตรวจพบก่อนหน้านี้4คน จากการคัดกรองผู้ป่วยที่ รพ. โดยไม่ได้บินตรง รอจีนส่งชุดตรวจมาให้ภายใน2วันชัดเจน
วันนี้(21 ม.ค.63) ที่สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ นายแพทย์จตุชัย มณีรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ แถลงข่าวกรณีวันนี้ ด่านควบคุมโรคติดต่อระหว่างประเทศ ท่าอากาศยานเชียงใหม่ ตรวจคัดกรองพบผู้ป่วยต้องสงสัยโรคปอดอักเสบจากเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ จำนวน 1 คน ที่เดินทางด้วยเที่ยวบินตรงจากเมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน โดยเปิดเผยว่า ผู้ป่วยต้อองสงสัยคนนี้เป็นผู้ชายชาวจีนอายุ 18 ปี มีอาการไข้สูง ไอ จาม ซึ่งเข้าข่ายต้องสงสัยเฝ้าระวัง เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ได้ทำการกักตัวและแยกตัวเข้าสู่กระบวนการรักษาและตรวจอย่างละเอียดว่าป่วยด้วยเชื้อใดแน่
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ เปิดเผยว่า ผู้ป่วยคนนี้เป็นรายแรกที่ตรวจพบจากการคัดกรองที่ท่าอากาศยานเชียงใหม่ อย่างไรก็ตามนับเป็นรายที่ 5 แล้ว ที่ตรวจพบว่าเข้าข่ายต้องสงสัยในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ โดย 4 รายก่อนหน้านี้ ตรวจพบจากการป่วยแล้วเข้ารับการรักษาที่โรงพยาบาลเอกชนและโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ แต่สอบประวัติว่าเป็นคนอู่ฮั่นหรือเคยเดินทางไปเมืองอู่ฮั่น ก่อนที่จะเดินทางมาจังหวัดเชียงใหม่ ผ่านทางช่องทางอื่นที่ไม่ใช่เที่ยวบินนตรง
โดยผู้ป่วยต้องสงสัย 4 รายดังกล่าวนั้น เป็นชายไทย 1 คน ที่เดินทางไปท่องเที่ยวเมืองอู่ฮั่น ส่วนที่เหลือเป็นคนจีน ผู้ใหญ่ผู้ชาย 2 คน และเด็กผู้หญิงอายุ 8 ปี 1 คน ทั้งนี้จากการตรวจเชื้อพบว่า 2 ใน 4 คน ซึ่งมีชายไทยด้วย ป่วยด้วยเชื้อตัวอื่น ส่วนที่เหลืออีก 2 คน ยังต้องแยกตัวไว้เพื่อทำการรักษาและตรวจเชื้ออย่างละเอียด ทำให้สรุปแล้วมีผู้ป่วยต้องสงสัยที่เชียงใหม่ 3 คน ที่อยู่ระหว่างการกักตัว โดยขณะนี้ทางจีนกำลังส่งชุดตรวจมาให้คาดว่าน่าจะถึงภายใน 2 วันนี้
นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดเชียงใหม่ ระบุว่า จากการที่มีการตรวจคัดกรองพบผู้ป่วยต้องสงสัยนอกจากช่องทางผ่านท่าอากาศยานเชียงใหม่ แล้ว ทำให้ต้องมีการปรับแผนและมาตรการในการเฝ้าระวังและคัดกรอง เพราะแสดงให้เห็นว่าอาจจะมีผู้ป่วยต้องสงสัยเข้ามาทางช่องทางอื่นๆได้อีก ซึ่งหนึ่งในมาตรการที่สำคัญคือการซักประวัติผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาตามโรงพยาบาลว่าเคยมีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับเมืองอู่ฮั่น หรือไม่