โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ทั่วไป

สว.ชงเพิ่มเวลาเคอร์ฟิว

สยามรัฐ

อัพเดต 08 เม.ย. 2563 เวลา 21.43 น. • เผยแพร่ 08 เม.ย. 2563 เวลา 21.43 น. • สยามรัฐออนไลน์
สว.ชงเพิ่มเวลาเคอร์ฟิว

"สหรัฐฯ" ชื่นชมไทยงัดมาตรการสู้ "ไวรัสโควิด-19" ส่งผลตัวเลขผู้ติดเชื้อเป็นแนวราบ ด้าน "บิ๊กตู่"ย้ำไม่เคอร์ฟิว 24 ชม. ห่วงคนแก่-ป่วยติดเตียง-พิการ-หาเช้ากินค่ำ ส่วน"ศบค."เผยยอดฝ่าฝืน"เคอร์ตัว"ลดแต่ยังไม่พอใจ ขอสงกรานต์ อย่าดื่มสุรา-ทะเลาะวิวาท-อุบัติเหตุ บอกแค่โรคระบาดก็หนักหนาสาหัสแล้ว ส่วน "สว."ชงศบค.เพิ่มอีก7มาตรการสู้โควิดช่วงสงกรานต์ ขณะที่"ชวน"ยันสภาฯไม่คิดหักเงินเดือนส.ส.สู้โควิด-19 ชี้ ส.ส.ลงพื้นที่ช่วย ชาวบ้านอยู่แล้ว ระบุส.ว.หักเงินกันเอง

ที่ห้องสีงาช้าง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เวลา 09.30 น. วันที่ 8 เม.ย.63 นายไมเคิล จอร์จ ดีซอมเบร (H. E. Mr. Michael George DeSombre) เอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย ได้เดินทางเข้าเยี่ยมคารวะ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เพื่อแนะนำตัวในโอกาสเข้ารับหน้าที่

ทั้งนี้ ทางเอกอัครราชทูตฯ ได้กล่าวขอบคุณนายกฯ ที่อนุญาตให้เข้าเยี่ยมคารวะแม้จะเป็นช่วงเวลาที่ท้าทายของประเทศไทย และหลายๆ ประเทศในโลก พร้อมชื่นชมมาตรการของรัฐบาลไทย ที่ส่งผลให้มีแนวโน้มตัวเลขผู้ติดเชื้อเป็นแนวราบ

ส่วน นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2 019 (โควิด-19) หรือศบค. แถลงว่า จากผลการปฏิบัติงานในช่วงการประกาศเคอร์ฟิวเมื่อวันที่ 7 เม.ย.ถึงเช้าวันที่ 8 เม.ย.พบมีการกระทำผิดโดยออกนอกเคหะสถานจำนวน 1,156 คน มีการมั่วสุม จับกลุ่มชุมนุม 72 คน รวม 1,232 คน โดยดำเนินการตักเตือน 135 คน และดำเนินคดี 949 คน รวม 1,084 คน ซึ่งก็ยังไม่เป็นตัวเลขที่น่าพอใจ

นพ.ทวีศิลป์ ยังกล่าวถึงมาตรการการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสในช่วงเทศกาลสงกรานต์ว่า ขณะ นี้เราอยู่ในช่วงโรคระบาด ซึ่งเท่านี้ก็หนักหนาสาหัสแล้ว ด้านอื่นๆ ทั้งเรื่องอุบัติเหตุ หรือเมาสุรา อาละวาดแล้วมาทำร้ายกัน ทำให้เกิดภาพที่ไม่ดี มีการบาดเจ็บอยู่ในห้องฉุกเฉิน ขออย่าทำเลย อย่างไรก็ตาม มาตรการต่างๆ ที่จะออกมานี้ ก็ขึ้นอยู่กับแต่ละจังหวัดว่าจะประกาศเรื่องการห้ามจำหน่ายสุรา หรือมาตรการอื่น ๆ หรือไม่ ซึ่งขณะนี้คงเป็นมาตรการย่อย ๆ ของแต่ละจังหวัด ทั้งนี้ หากท่านอยู่ในจังหวัดไหน ท่านก็ต้องให้ความร่วมมือ หรือถ้าออกมาในมาตรการเคอร์ฟิวแน่นอนว่าเรื่องพวกนี้ต้องไม่มีอยู่แล้ว หากมองยาวไปถึงเทศกาลสงกรานต์ ทางกระทรวงวัฒนธรรมก็ออกประกาศมาแล้วว่าให้ปรับเปลี่ยนวัฒนธรรมของไทยในปีนี้ จากการลดน้ำขอพร ก็ให้ห่างผู้ใหญ่ไว้ก่อน ซึ่งทางกระทรวงวัฒนธรมมีความห่วงใยเรื่องนี้ ส่วนเรื่องการดื่มสุรา ไม่ใช่วัฒนธรรมของไทย อย่าดื่มเลย

ขณะที่ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รอง ผบ.ทบ. เป็นประธานการประชุมศูนย์ปฏิบัติการกองทัพบก พร้อมอ้างถึงข้อสั่งการของ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. ว่า พล.อ.ประยุทธ์ในฐานะประธานศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019(โควิด-19) หรือ ศบค. จะไม่ประกาศห้ามออกนอกเคหสถาน 24 ชั่วโมง หรือเคอร์ฟิว 24 ชั่วโมง เนื่องจากเป็นห่วงบุคคล 4 ประเภท คือ 1.คนแก่อยู่ตามลำพัง 2.คนป่วยติดเตียง 3.คนพิการ และ 4.คนหาเช้ากินค่ำ

ด้าน นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) และประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชนอสิทธิเสรี ภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา กล่าวว่า ขอเสนอให้ศบค.เพิ่มอีก7มาตรการ เข้มรับมือการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงสงกรานต์ 7วันอันตราย จากข้อห้ามและข้อแนะนำของกระทรวงวัฒนธรรมตามที่ ครม.เห็นชอบ เพื่อจัดการควบคุมไม่ให้เกิดซุปเปอร์สเปรดเดอร์ในช่วงเทศกาลสงกรานต์ระหว่างวันที่ 10-16 เม.ย. เพราะคนและน้ำคือตัวการใหญ่ในการแพร่กระจายเชื้อ โดย7มาตราการ ประกอบด้วย 1.ห้ามจำหน่ายสุรา และเครื่องดื่มแอลกอ ฮอล์ 2.ห้ามสาดน้ำ ฉีดน้ำ มีความผิดทางแพ่ง และอาญา 3.ห้ามรวมหมู่สังสรรค์ล้อมวงดื่มสุรา มีความผิดแพ่ง และอาญา 4.ห้ามรวมกันเกิน 3 คนในที่สาธารณะ และต้องสวมใส่หน้ากากเมื่อออกนอกบ้าน 5.ห้ามสัญจรข้ามจังหวัด วางกำลังตั้งด่านสกัดคัดกรองถนนทุกสายหลัก สายรอง เส้นทางเข้าออกจังหวัด 4 มุมแบบเมืองใยแมงมุม6.ลดและจำกัดเวลาร้านสะดวกซื้อและซุปเปอร์สโตร์ลงเหลือไม่เกิน 8 ชั่วโมง 7.เพิ่มเวลาเคอร์ฟิวเฉพาะช่วงสงกรานต์ขึ้นอีก 2 ชั่วโมง คือ 21.00-05.00 น. ทั้งนี้ประเทศไทยจะต้องชนะ เพื่อที่สงกรานต์ปีหน้าคนไทยจะอยู่ทำบุญเล่นน้ำพร้อมหน้ากัน

ส่วน นายชวน หลีกภัย ประธานสภาฯ กล่าวถึงการหักเงินเดือนส.ส.เพื่อสมทบทุนช่วยต่อสู้ไวรัสโควิด-19ว่า ส่วนตัวคิดว่านับตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ ส.ส.ได้เข้าไปช่วยเหลือลงพื้นที่ดูแลชาวบ้านและมีค่าใช้จ่ายในการดูแลประชาชนเป็นจำนวนมาก วันนี้มีการส่งข้อความแจ้งมาว่ามีความกังวลต่อการหักเงินเดือน จึงขอยืนยันว่าสภาฯไม่มีความ คิด เพราะเงินเดือนส.ส.เมื่อหักภาษีและหักเงินเข้าพรรคแล้วเหลือเงินไม่ถึงแสนบาท ส่วนส.ว.จะหักเงินเดือนก็เป็นการดำเนินการของวุฒิสภากันเอง แต่ยืนยันว่าจะไม่มีการหักเงินเดือนของส.ส.อย่างแน่นอน เพราะเข้าใจดีว่าส.ส.ใช้เงินในการดูแลประชาชนในสถานการณ์เวลานี้อยู่แล้ว

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0