โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

บันเทิง

สวยหรูละมุนตาด้วยเมคอัพโทนสีนู้ด

OK Magazine Thailand

เผยแพร่ 21 ก.พ. 2562 เวลา 06.23 น.
สวยหรูละมุนตาด้วยเมคอัพโทนสีนู้ด
สวยหรูละมุนตาด้วยเมคอัพโทนสีนู้ด

สวยหรูละมุนตาด้วยเมคอัพโทนสีนู้ด
สาว ๆ หลายคนมักจะสงสัยว่า การแต่งหน้าโทนสีนู้ดนั้นเป็นอย่างไร แต่งหน้าน้อย ๆ ใช้เครื่องสำอางเพียงนิดเดียวหรือใช่การแต่งหน้าให้ดูเป็นธรรมชาติหรือเปล่า ซึ่งจริง ๆ แล้วการแต่งหน้าโทนนู้ดนั้น ขั้นตอนการแต่งก็เหมือนกับการแต่งหน้าปกติทั่วไป เพียงแต่คีย์สำคัญของลุคนี้อยู่ที่การ‘โชว์ผิวสวย’ เพราะฉะนั้นขั้นตอนการเตรียมผิวจึงสำคัญมากที่สุด ด้วยโทนสีของอายแชโดว์ บลัชออน และลิปสติกที่ใช้แต่งเติมหลังจากการเตรียมผิวนั้น จะเป็นโทนสีนู้ดเบจซะส่วนใหญ่ ปัญหาที่สาว ๆ กังวลกับการแต่งหน้าลุคนี้จึงเป็นเรื่องของการกลัวแต่งออกมาแล้วหน้าดูจืด กลัวแต่งแล้วจะไม่สวยเด่นเหมือนไม่ได้แต่งหน้า อีกหนึ่งคีย์ลุคสำคัญของการแต่งหน้าลุคนี้จึงอยู่ที่การแต่งเรียวคิ้วให้สวยได้รูป แต่งแต้มระบายเปลือกตาให้ดูเป็นประกายด้วยอายแชโดว์โทนสีเบจหรือน้ำตาล คอมพลีทลุคนี้ให้ดูมีสีสันขึ้นด้วยพวงแก้มและริมฝีปากสีนู้ดเบจ และที่เห็นสาว ๆ ฮอลลีวูด มักจะให้เมคอัพอาร์ติสท์รังสรรค์ใบหน้าของพวงเธอด้วยเมคอัพโทนสีนู้ด นั่นก็เพราะว่าเมคอัพโทนสีนู้ดนอกจากจะโชว์ความสวยเปล่งปลั่งของผิวแล้ว ยังสามารถแมตช์ได้กับทุกชุดและทุกโอกาส ไม่ว่าจะเดินพรมแดงหรู หรือแค่เดินออกไปช้อปปิ้งรอปาปารัสซี่แอบถ่าย


Perfect Complexion
* เติมความชุ่มชื้นให้ผิวด้วยมอยส์เจอไรเซอร์ จากนั้นเพิ่มเกราะป้องกันให้ผิวจากแสงแดดและมลภาวะด้วยการทาครีมกันแดดทั่วใบหน้าและลำคอ
* เริ่มขั้นตอนของการรังสรรค์ผิวสวยเพอร์เฟ็คท์ด้วยการแต้มไพรเมอร์และใช้ปลายนิ้วค่อย ๆ เกลี่ย เริ่มจากหน้าผากเกลี่ยขึ้นไปด้านบนไรผม จมูกเกลี่ยให้ทั่วถึงร่องจมูกด้วย แก้มทั้งสองข้างเกลี่ยออกไปด้านข้างใบหู และเกลี่ยบริเวณคางลงปลายคาง (สำหรับสาวที่มีปัญหาสิวอุดอันอาจจะข้ามขั้นตอนของการลงไพรเมอร์ไป เพราะการทำงานของไพรเมอร์นั้นจะเคลือบบนผิว อาจทำให้เกิดการอุดตัน ถ้าล้างทำความสะอาดผิวหน้าไม่สะอาด)
* จากนั้นก็ถึงขั้นตอนของการลงเมคอัพเบส โดยทาเมคอัพเบสเพียงบาง ๆ พอค่ะ เพราะถ้าขืนทาเยอะ มีหวังหน้าได้ขาวลอยเป็นคราบแน่ ๆ
* เลือกรองพื้นให้ตรงกับสภาพผิวและความต้องการปกปิดของแต่ละคน จากนั้นใช้แปรงสำหรับทารองพื้น แตะเนื้อรองพื้น แล้วทาลงบนผิวหน้าทีละส่วนหน้าผาก จมูก แก้ม และคาง โดยค่อย ๆ ทาบาง ๆ ทีละนิด ถ้าต้องการเพิ่มการปกปิดที่มากขึ้นก็ค่อยทาเน้นเฉพาะจุด (อย่าลืมทาเลยลงมาที่ช่วงปลายคางและช่วงกรามเพื่อให้สีผิวดูกลมกลืนกับลำคอ)
* เก็บรายละเอียดให้เรียบร้อยด้วยคอนซีลเลอร์โดยใช้ นิ้วมือวอร์มเนื้อคอนซีลเลอร์บนฝ่ามือ แล้วแตะเพียง เล็กน้อยแต้มบริเวณที่ยังเห็นริ้วรอย รอยแผลเป็น สิว รวมถึงรอยคล้ำบริเวณใต้ตา แตะ ๆ กด ๆ ให้ดูเนียนกลมกลืนกับสีรองพื้น
* เซ็ตอัพทุกสิ่งอย่างให้ติดทนอยู่บนใบหน้าโดยใช้แปรงหัวใหญ่สำหรับปัดแป้ง แตะแป้งฝุ่นเล็กน้อย เคาะแป้ง ส่วนเกินออก แล้วปัดไล้วนเบา ๆ ทั่วใบหน้า สำหรับสาวผิวมัน แนะนำให้ใช้เป็นพัฟฟ์ชนิดผ้าขนปุยแตะเนื้อแป้งเล็กน้อยแล้วค่อย ๆ กดซับทั่วใบหน้า และเน้นบริเวณทีโซน
** ทั้งนี้ทั้งนั้นไม่จำเป็นต้องประโคมทุกสิ่งอย่างลงไปบนใบหน้า ถ้าคุณไม่ได้มีปัญหาผิวอะไรมากมายที่ต้องการจะปกปิด ให้เลือกใช้แค่ตัวที่คุณต้องการคุณสมบัติของแต่ละตัว แล้วมาแต่งแต้มให้ดูเป็นธรรมชาติมากที่สุด


Beauty Spot on the Eyes
* อย่างที่บอกค่ะว่าลุคนี้ต้องแต่งเน้นเรียวคิ้วให้ดูสวยคมชัด คุณสาว ๆ สามารถเลือกใช้อุปกรณ์ในการแต่งคิ้วได้ตามความถนัด ตั้งแต่เนื้อเจลครีมกับแปรง ชนิดดินสอเขียนง่ายที่มาพร้อมแปรงปัดสำหรับแต่งคิ้วให้ได้รูป หรือจะเลือกใช้แบบหัวแปรงปัดมาสคาร่า ปัดให้ได้รูปสำหรับคนที่มีขนคิ้วเยอะอยู่แล้ว
* แต่งระบายเปลือกตาด้วยอายแชโดว์ เนื้อชิมเมอร์โทนสีเบจ หรือจะเลือกใช้อายแชโดว์เนื้อแมตต์ในโทนสีน้ำตาลหลากเฉด
* เสร็จแล้วไม่ลืมที่จะปัดมาสคาร่าเพิ่มเสน่ห์ให้ดวงตาเป็นประกาย


Lovely Cheeks
* แต่งเติมสีสันบนพวงแก้มไม่ให้ใบหน้าดูจืดชืดจนเกินไปด้วยบลัชออนโทนสีนู้ดเบจที่เจือความสดใสของสีชมพูและสีพีช โดยเลือกเนื้อบลัชออนแบบประกายชิมเมอร์ เพราะจะช่วยให้พวงแก้มดูสวยระเรื่อ และช่วยขับผิวให้ดูเปล่งปลั่งมากยิ่งขึ้น


Smooth Lips
* คอมพลีทลุคโดยรวมให้ดูสวยหรูด้วยลิปสติกโทนสีนู้ดเบจ โดยเลือกลิปสติกเฉดสีเดียวกับสีของบลัชออนแล้วทาให้เต็มริมฝีปาก
* สำหรับคนที่มีริมฝีปากค่อนข้างคล้ำ การทาลิปสติกสีเบจลงบนริมฝีปากโดยตรงอาจจะทำให้เห็นสีไม่ชัดเจน เพราะฉะนั้นควรใช้คอนซีลเลอร์แต้มเบา ๆ ทั่วริมฝีปากก่อน จากนั้นค่อยทาตามด้วยลิปสติก
ติดตาม OK! Magazine Thailand ได้ที่นี่
Website : http://www.okmagazine-thai.com/
Instagram : https://www.instagram.com/okmagazinethailand/
Facebook : https://www.facebook.com/okmagthailand
Twitter : https://twitter.com/okthailand

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0