สาวขี่ จยย.ออกไปพบแฟนหนุ่ม หายออกจากบ้าน 22 วัน พบกลายเป็นศพถูกซุกอยู่ในท่อคอนกรีต…
เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านโคก ได้รับแจ้งเหตุพบศพหญิงสาวถูกซุกอยู่ในท่อคอนกรีต เหตุเกิดที่ บริเวณพื้นที่ป่ามะขามรกร้าง หมู่ที่ 6 ต.บ้านโคก อ.เมือง จ.เพชรบูรณ์ ต่อมาทราบชื่อผู้ตาย คือ น.ส.เสวลักษณ์ โนนสังข์ อายุ 23 ปี ซึ่งก่อนหน้านี้ ได้หายตัวออกจากบ้านไปเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม ที่ผ่านมา พร้อมกับรถจักรยานยนต์ ยี่ห้อ ฮอนด้า คลิก สีขาว กระทั่งเมื่อวันที่ 10 พฤศจิกายน มีคนพบรถจักรยานยนต์คันดังกล่าว จอดทิ้งไว้ที่บ้านร้างในป่ามะขามแห่งหนึ่ง ต.ดงมูลเหล็ก อ.เมือง จึงมีการออกติดตามของทางญาติ
กระทั่งเช้านี้ได้ก็รับแจ้งว่าพบกลายเป็นศพถูกซุกอยู่ในท่อคอนกรีต จึงประสาน แพทย์เวรโรงพยาบาลเพชรบูรณ์ ร่วมชันสูตรพลิกศพ พร้อม เจ้าหน้าที่กู้ภัย ร่วมอำนวยความสะดวก ในที่เกิดเหตุพบผู้เสียชีวิต นอนขดตัวเสียชีวิตอยู่ในท่อคอนกรีต ขนาดความกว้าง 1 เมตร ความสูง 1 เมตร ในท่อมีน้ำขังอยู่ในท่อราว 20 เซนติเมตร สภาพศพเน่าเปื่อยแล้ว จึงไม่สามารถตรวจหา สาเหตุ หรือ ร่องรอยของการถูกทำร้ายร่างกาย หรือ การถูกล่วงละเมิดทางเพศได้ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ก็เตรียมส่งศพ น.ส.เสวลักษณ์ ไปตรวจพิสูจน์ ที่โรงพยาบาลนิติเวชพิษณุโลก เพื่อตรวจหาสาเหตุของการเสียชีวิตที่แท้จริง
จากการสอบถาม นางพายัพ โนนสังข์ อายุ 52 ปี แม่ของ น.ส.เสาวลักษณ์ เล่าว่า ลูกสาวได้หายตัวออกจากบ้าน เมื่อช่วงสายวันที่ 22 ตุลาคม โดยขับขี่รถจักรยานยนต์ เพื่อออกไปพบกับแฟนหนุ่ม โดยบอกกับตนว่าจะไปเอาเงินกับแฟนหนุ่ม ซึ่งก่อนหน้านี้ราว 2-3 วัน ทั้ง 2 ก็มีเรื่องทะเลาะกันรุนแรง สาเหตุมาจากเรื่องหึงหวง ซึ่งหลังจากลูกสาวขับขี่รถออกไปจากบ้านก็ไม่กลับมาอีกเลย และไม่คิดว่าจะลูกสาวจะมากลายเป็นศพนอนเสียชีวิตในสภาพเช่นนี้
ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บ้านโคก ได้เชิญตัว 2 หนุ่ม ก็คือ นายสำรวม ปาคำ หรือ รวม แฟนหนุ่ม อายุ 38 ปี และ นายสมจริง เกิดทรัพย์ หรือ เงาะ 50 ปี ซึ่งทั้ง 2 มีความสัมพันธ์กับ น.ส.เสาวลักษณ์ ในฐานะผู้เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์ โดย นายสำรวม นั้นมีอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัด และปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ พร้อมทั้งปฏิเสธว่า ตนไม่เคยทะเลาะกับ น.ส.เสาวลักษณ์ เลย ส่วนที่แม่ผู้ตายอ้างว่าจะมาเอาเงินกับตนในวันเกิดเหตุนั้น ผู้ตายก็ไม่ได้มาหา และปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ต่อ โดยให้เหตุผลว่าเครียดเรื่องงาน พร้อมทั้งปฏิเสธว่า ตนไม่เคยเข้าไปในที่เกิดเหตุ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ ก็ทำการขอเก็บตัวอย่าง ดีเอ็นเอ จากบุคคลทั้ง 2 เพื่อตรวจสอบกับก้นบุหรี่ ที่พบในที่เกิดเหตุ อีกด้วย.
