โปรดอัพเดตเบราว์เซอร์

เบราว์เซอร์ที่คุณใช้เป็นเวอร์ชันเก่าซึ่งไม่สามารถใช้บริการของเราได้ เราขอแนะนำให้อัพเดตเบราว์เซอร์เพื่อการใช้งานที่ดีที่สุด

ไลฟ์สไตล์

สร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับลูกด้วยหลัก 5L

Mood of the Motherhood

เผยแพร่ 26 ก.พ. 2563 เวลา 12.41 น. • Features

การเลี้ยงลูกเชิงบวกเป็นแนวทางการเลี้ยงลูกที่กำลังได้รับความนิยมในหมู่คุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ เพราะเป็นการเลี้ยงลูกที่ใช้การทำความเข้าใจในความเป็นธรรมชาติและพัฒนาการของเด็ก ซึ่งสามารถนำมาปรับใช้ให้เข้ากับเด็กแต่ละคนได้

หลักการ 5L เป็นอีกเทคนิคในการเลี้ยงลูกเชิงบวก ด้วยการกระตุ้นสมองส่วนหน้า ซึ่งเป็นสมองส่วนคิดวิเคราะห์และการใช้เหตุผลให้ทำงานได้ดี เพื่อกล่อมเกลาให้ลูกเป็นคนที่มีเหตุผล สามารถจัดการกับอารมณ์และความรู้สึกตัวเองได้ และจะส่งผลให้เด็กๆ เป็นคนที่มีความเข้าใจในสภาวะหรือสถานการณ์ต่างๆ ได้ดี

ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรเรียนรู้หลักการ 5L เพื่อนำไปปรับใช้กับลูกอย่างมีประสิทธิภาพ ดังนี้

1. LOVE

ความรักเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ทุกคนมีให้ลูก แม้จะแตกต่างกันที่การแสดงออก แต่ท่าทีของคุณพ่อคุณแม่บางคนอาจทำให้ลูกเผลอคิดไปเองว่าคุณพ่อคุณแม่ไม่รัก

การแสดงออกถึงความรักคือสิ่งที่สำคัญต่อจิตใจของลูก คุณพ่อคุณแม่ไม่จำเป็นที่จะต้องพูดคำว่ารักบ่อยๆ แต่สิ่งที่เด็กๆ รับรู้คือการกระทำของคุณพ่อคุณแม่ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงกิริยาที่อ่อนโยน การให้เวลาที่มีคุณภาพกับลูก คอยอยู่เคียงข้าง และให้กำลังใจในวันที่ลูกอ่อนแอเสมอ

2. LEARN

เทคนิคที่ทำให้ลูกฉลาดก็คือการกระตุ้นการเรียนรู้และฝึกฝนให้ลูกรู้จักทักษะต่างๆ จากการดำเนินชีวิตประจำวัน เช่น ฝึกให้ลูกปลูกต้นไม้ เพื่อให้ลูกเรียนรู้ได้จากการสัมผัสวัตถุต่างๆ การมองเห็น อีกทั้งยังฝึกกล้ามเนื้อให้แข็งแรง เป็นการสร้างวินัยให้ลูกมีความพยายาม รับผิดชอบได้

3. LIMIT

กติกาหรือระเบียบวินัย เป็นสิ่งสำคัญในการใช้ชีวิตของลูก คุณพ่อคุณแม่จึงควรที่จะฝึกฝนการมีวินัยเชิงบวกให้กับลูกตั้งแต่ยังเด็ก  ด้วยการไม่บังคับหรือขู่เข็ญให้ลูกทำในสิ่งที่ไม่อยากทำ โดยอาจจะใช้วิธีเพิ่มทางเลือกให้กับลูก มีการสร้างข้อตกลงหรือข้อจำกัดระหว่างกัน จะทำให้เด็กๆ เรียนรู้ที่จะยอมรับกติกาและกล้ารับผิดชอบทุกการกระทำของตัวเอง

4. LET THEM GROW

การปล่อยให้เขาเติบโตและมีความคิดเป็นของตัวเองอย่างเหมาะสม ไม่ใช่การปล่อยให้ลูกทำอะไรตามใจ แต่เป็นการกระตุ้นให้เขาช่วยเหลือตัวเอง ได้ลองฝึกฝนด้วยการลองผิดลองถูก

ทั้งนี้ เด็กๆ จะได้เรียนรู้จากความผิดพลาดของตัวเอง เพื่อที่จะมีความรับผิดชอบต่อตัวเองมากขึ้น เช่น เรียนรู้ว่าหากลูกไม่รักษาสิ่งของ เมื่อของหาย ลูกก็จะรู้สึกเสียใจ ดังนั้นลูกจะได้เรียนรู้ว่าเขาควรระมัดระวังในการรักษาสิ่งของให้มากขึ้น

5. LET IT BE

คือการปล่อยวางแต่ไม่ใช่ปล่อยปละละเลย คุณพ่อคุณแม่ควรเรียนรู้ที่จะปล่อยวางลูกอย่างเข้าใจ เช่น เมื่อลูกโมโหหรือมีกิริยาก้าวร้าว สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำก็คือการปล่อยให้ลูกอารมณ์สงบลง แล้วค่อยๆ คุยกับลูกด้วยเหตุผลและความเข้าใจ ไม่ควรที่จะซ้ำเติมหรือต่อว่า แต่ควรให้เวลาและใช้เหตุผลในการพูดคุยกับลูกต่อไป

อ้างอิง

thaihealth

kendekthai

thairath

0 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0
reaction icon 0