ปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม:
สถานการณ์ในตะวันออกกลาง หลังสหรัฐฯ กล่าวว่าอิหร่านอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์โจมตีโรงกลั่นน้ำมันในซาอุดิอาระเบีย ส่วนปัจจัยสำคัญอื่นๆ คงได้แก่ ความคืบหน้าประเด็นเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน สถานการณ์ BREXIT รวมถึงการประชุมเฟด (17-18 ก.ย.) ซึ่งจะเริ่มขึ้นในวันนี้ ขณะที่ ข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่สำคัญ ได้แก่ ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนส.ค. และดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนก.ย.
เงินบาทตลาดในประเทศอ่อนค่าลงวานนี้ (16 ก.ย.) สอดคล้องกับทิศทางการอ่อนค่าของหลายสกุลเงินในภูมิภาค อย่างไรก็ดี กรอบการเคลื่อนไหวยังเป็นไปอย่างจำกัด เนื่องจากตลาดยังรอประเมินสัญญาณดอกเบี้ยจากผลการประชุมเฟดในสัปดาห์นี้
ส่วนเช้าวันนี้ (17 ก.ย.) เงินบาทอ่อนค่าต่อเนื่องไปที่ระดับประมาณ 30.55 บาทต่อดอลลาร์ฯ** ** ขณะที่เงินดอลลาร์ฯ มีปัจจัยบวกจากตัวเลขยอดค้าปลีก และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคสหรัฐฯ ที่ดีกว่าที่ตลาดคาด
ตลาดหุ้นไทยปิดบวก โดยมีแรงหนุนในหุ้นกลุ่มพลังงานแต่กรอบการปรับขึ้นถูกจำกัดจากแรงเทขายของกลุ่มนักลงทุนสถาบันและบัญชีบริษัทหลักทรัพย์
ตลาดหุ้นต่างประเทศปิดลบ ทั้งนี้ บรรยากาศการซื้อขายโดยรวมถูกฉุดจากความกังวลเกี่ยวกับผลกระทบจากเหตุการณ์โจมตีโรงกลั่นน้ำมันในซาอุดีอาระเบีย รวมถึงการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจเดือนส.ค.ของจีนซึ่งค่อนข้างอ่อนแอ ขณะที่นักลงทุนยังรอติดตามผลการประชุมเฟด และความคืบหน้าการเจรจาการค้าสหรัฐฯ-จีน
ราคาน้ำมันตลาดโลกพุ่งขึ้น ท่ามกลางความกังวลต่อความตึงเครียดในตะวันออกกลาง และกำลังการผลิตน้ำมันของซาอุดีอาระเบีย หลังเกิดเหตุโจมตีแหล่งผลิตน้ำมันของของซาอุดีอาระเบียเมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ส่วนราคาทองคำขยับขึ้นในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
ที่มา: ธปท., Bisnews, www.bloomberg.com รวบรวมโดยศูนย์วิจัยกสิกรไทย
หมายเหตุ: *อัตราอ้างอิงจากธปท. **ข้อมูล ณ เวลา 8.25 น.
